เมนู

207. ปชฺโชตราชวตฺถุ

[334] เตน โข ปน สมเยน รญฺโญ [อุชฺเชนิยํ รญฺโญ (สฺยา.)] ปชฺโชตสฺส ปณฺฑุโรคาพาโธ โหติฯ พหู มหนฺตา มหนฺตา ทิสาปาโมกฺขา เวชฺชา อาคนฺตฺวา นาสกฺขิํสุ อโรคํ กาตุํฯ พหุํ หิรญฺญํ อาทาย อคมํสุฯ อถ โข ราชา ปชฺโชโต รญฺโญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘มยฺหํ โข ตาทิโส อาพาโธ, สาธุ เทโว ชีวกํ เวชฺชํ อาณาเปตุ, โส มํ ติกิจฺฉิสฺสตี’’ติฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร ชีวกํ โกมารภจฺจํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ ชีวก; อุชฺเชนิํ คนฺตฺวา ราชานํ ปชฺโชตํ ติกิจฺฉาหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รญฺโญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุชฺเชนิํ คนฺตฺวา เยน ราชา ปชฺโชโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รญฺโญ ปชฺโชตสฺส วิการํ สลฺลกฺเขตฺวา ราชานํ ปชฺโชตํ เอตทโวจ – ‘‘สปฺปิํ เทหิ [อิทํ ปททฺวยํ สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ], สปฺปิํ เทว, นิปฺปจิสฺสามิฯ ตํ เทโว ปิวิสฺสตี’’ติฯ ‘‘อลํ, ภเณ ชีวก, ยํ เต สกฺกา วินา สปฺปินา อโรคํ กาตุํ ตํ กโรหิฯ เชคุจฺฉํ เม สปฺปิ, ปฏิกูล’’นฺติฯ อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺส โข รญฺโญ ตาทิโส อาพาโธ , น สกฺกา วินา สปฺปินา อโรคํ กาตุํฯ ยํนูนาหํ สปฺปิํ นิปฺปเจยฺยํ กสาววณฺณํ กสาวคนฺธํ กสาวรส’’นฺติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ นานาเภสชฺเชหิ สปฺปิํ นิปฺปจิ กสาววณฺณํ กสาวคนฺธํ กสาวรสํฯ อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมสฺส โข รญฺโญ สปฺปิ ปีตํ ปริณาเมนฺตํ อุทฺเทกํ ทสฺสติฯ จณฺโฑยํ ราชา ฆาตาเปยฺยาปิ มํฯ ยํนูนาหํ ปฏิกจฺเจว อาปุจฺเฉยฺย’’นฺติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ เยน ราชา ปชฺโชโต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ปชฺโชตํ เอตทโวจ – ‘‘มยํ โข, เทว, เวชฺชา นาม ตาทิเสน มุหุตฺเตน มูลานิ อุทฺธราม เภสชฺชานิ สํหรามฯ สาธุ เทโว วาหนาคาเรสุ จ ทฺวาเรสุ จ อาณาเปตุ – เยน วาหเนน ชีวโก อิจฺฉติ เตน วาหเนน คจฺฉตุ, เยน ทฺวาเรน อิจฺฉติ เตน ทฺวาเรน คจฺฉตุ, ยํ กาลํ อิจฺฉติ ตํ กาลํ คจฺฉตุ, ยํ กาลํ อิจฺฉติ ตํ กาลํ ปวิสตู’’ติฯ อถ โข ราชา ปชฺโชโต วาหนาคาเรสุ จ ทฺวาเรสุ จ อาณาเปสิ – ‘‘เยน วาหเนน ชีวโก อิจฺฉติ เตน วาหเนน คจฺฉตุ, เยน ทฺวาเรน อิจฺฉติ เตน ทฺวาเรน คจฺฉตุ, ยํ กาลํ อิจฺฉติ ตํ กาลํ คจฺฉตุ, ยํ กาลํ อิจฺฉติ ตํ กาลํ ปวิสตู’’ติฯ

เตน โข ปน สมเยน รญฺโญ ปชฺโชตสฺส ภทฺทวติกา นาม หตฺถินิกา ปญฺญาสโยชนิกา โหติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ รญฺโญ ปชฺโชตสฺส สปฺปิํ [ตํ สปฺปิํ (สฺยา.)] อุปนาเมสิ – ‘‘กสาวํ เทโว ปิวตู’’ติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ ราชานํ ปชฺโชตํ สปฺปิํ ปาเยตฺวา หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา ภทฺทวติกาย หตฺถินิกาย นครมฺหา นิปฺปติ

อถ โข รญฺโญ ปชฺโชตสฺส ตํ สปฺปิ ปีตํ ปริณาเมนฺตํ อุทฺเทกํ อทาสิฯ อถ โข ราชา ปชฺโชโต มนุสฺเส เอตทโวจ – ‘‘ทุฏฺเฐน, ภเณ, ชีวเกน สปฺปิํ ปายิโตมฺหิฯ เตน หิ, ภเณ, ชีวกํ เวชฺชํ วิจินถา’’ติฯ ‘‘ภทฺทวติกาย, เทว, หตฺถินิกาย นครมฺหา นิปฺปติโต’’ติฯ เตน โข ปน สมเยน รญฺโญ ปชฺโชตสฺส กาโก นาม ทาโส สฏฺฐิโยชนิโก โหติ, อมนุสฺเสน ปฏิจฺจ ชาโตฯ

อถ โข ราชา ปชฺโชโต กากํ ทาสํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ กาก, ชีวกํ เวชฺชํ นิวตฺเตหิ – ราชา ตํ, อาจริย, นิวตฺตาเปตีติฯ เอเต โข, ภเณ กาก, เวชฺชา นาม พหุมายาฯ มา จสฺส กิญฺจิ ปฏิคฺคเหสี’’ติฯ

อถ โข กาโก ทาโส ชีวกํ โกมารภจฺจํ อนฺตรามคฺเค โกสมฺพิยํ สมฺภาเวสิ

ปาตราสํ กโรนฺตํฯ อถ โข กาโก ทาโส ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘ราชา ตํ, อาจริย, นิวตฺตาเปตี’’ติฯ ‘‘อาคเมหิ, ภเณ กาก, ยาว ภุญฺชาม [ภุญฺชามิ (สี. สฺยา.)]ฯ หนฺท, ภเณ กาก, ภุญฺชสฺสู’’ติฯ ‘‘อลํ, อาจริย, รญฺญามฺหิ อาณตฺโต – เอเต โข, ภเณ กาก, เวชฺชา นาม พหุมายา, มา จสฺส กิญฺจิ ปฏิคฺคเหสี’’ติฯ เตน โข ปน สมเยน ชีวโก โกมารภจฺโจ นเขน เภสชฺชํ โอลุมฺเปตฺวา อามลกญฺจ ขาทติ ปานียญฺจ ปิวติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภจฺโจ กากํ ทาสํ เอตทโวจ – ‘‘หนฺท, ภเณ กาก, อามลกญฺจ ขาท ปานียญฺจ ปิวสฺสู’’ติฯ อถ โข กาโก ทาโส – อยํ โข เวชฺโช อามลกญฺจ ขาทติ ปานียญฺจ ปิวติ, น อรหติ กิญฺจิ ปาปกํ โหตุนฺติ – อุปฑฺฒามลกญฺจ ขาทิ ปานียญฺจ อปายิฯ ตสฺส ตํ อุปฑฺฒามลกํ ขาทิตํ ตตฺเถว นิจฺฉาเรสิฯ อถ โข กาโก ทาโส ชีวกํ โกมารภจฺจํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ เม, อาจริย, ชีวิต’’นฺติ? ‘‘มา, ภเณ กาก, ภายิ, ตฺวํ เจว อโรโค ภวิสฺสสิ ราชา จฯ จณฺโฑ โส ราชา ฆาตาเปยฺยาปิ มํ, เตนาหํ น นิวตฺตามี’’ติ ภทฺทวติกํ หตฺถินิกํ กากสฺส นิยฺยาเทตฺวา เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา รญฺโญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘สุฏฺฐุ, ภเณ ชีวก, อกาสิ ยมฺปิ น นิวตฺโต, จณฺโฑ โส ราชา ฆาตาเปยฺยาปิ ต’’นฺติฯ อถ โข ราชา ปชฺโชโต อโรโค สมาโน ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส สนฺติเก ทูตํ ปาเหสิ – ‘‘อาคจฺฉตุ ชีวโก, วรํ ทสฺสามี’’ติฯ ‘‘อลํ, อยฺโย [เทว (สฺยา.)], อธิการํ เม เทโว สรตู’’ติฯ

ปชฺโชตราชวตฺถุ นิฏฺฐิตํฯ

208. สิเวยฺยกทุสฺสยุคกถา

[335] เตน โข ปน สมเยน รญฺโญ ปชฺโชตสฺส สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ อุปฺปนฺนํ โหติ – พหูนํ [พหุนฺนํ (สี. สฺยา.)] ทุสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสหสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตสหสฺสานํ อคฺคญฺจ เสฏฺฐญฺจ โมกฺขญฺจ อุตฺตมญฺจ ปวรญฺจฯ อถ โข ราชา ปชฺโชโต ตํ สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ปาเหสิฯ อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิทํ โข เม สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ รญฺญา ปชฺโชเตน ปหิตํ – พหูนํ ทุสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสหสฺสานํ พหูนํ ทุสฺสยุคสตสหสฺสานํ อคฺคญฺจ เสฏฺฐญฺจ โมกฺขญฺจ อุตฺตมญฺจ ปวรญฺจฯ นยิทํ อญฺโญ โกจิ ปจฺจารหติ อญฺญตฺร เตน ภควตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน, รญฺญา วา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรนา’’ติฯ

สิเวยฺยกทุสฺสยุคกถา นิฏฺฐิตาฯ