เมนู

168. มนุสฺสมํสปฏิกฺเขปกถา

[280] อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน พาราณสี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเยฯ เตน โข ปน สมเยน พาราณสิยํ สุปฺปิโย จ อุปาสโก สุปฺปิยา จ อุปาสิกา อุภโตปสนฺนา โหนฺติ, ทายกา, การกา, สงฺฆุปฏฺฐากาฯ อถ โข สุปฺปิยา อุปาสิกา อารามํ คนฺตฺวา วิหาเรน วิหารํ ปริเวเณน ปริเวณํ อุปสงฺกมิตฺวา ภิกฺขู ปุจฺฉติ – ‘‘โก, ภนฺเต, คิลาโน, กสฺส กิํ อาหริยตู’’ติ? เตน โข ปน สมเยน อญฺญตเรน ภิกฺขุนา วิเรจนํ ปีตํ โหติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ สุปฺปิยํ อุปาสิกํ เอตทโวจ – ‘‘มยา โข, ภคินิ, วิเรจนํ ปีตํฯ อตฺโถ เม ปฏิจฺฉาทนีเยนา’’ติฯ ‘‘สุฏฺฐุ, อยฺย, อาหริยิสฺสตี’’ติ ฆรํ คนฺตฺวา อนฺเตวาสิํ อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉ, ภเณ, ปวตฺตมํสํ ชานาหี’’ติฯ เอวํ, อยฺเยติ โข โส ปุริโส สุปฺปิยาย อุปาสิกาย ปฏิสฺสุณิตฺวา เกวลกปฺปํ พาราณสิํ อาหิณฺฑนฺโต น อทฺทส ปวตฺตมํสํฯ อถ โข โส ปุริโส เยน สุปฺปิยา อุปาสิกา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา สุปฺปิยํ อุปาสิกํ เอตทโวจ – ‘‘นตฺถยฺเย ปวตฺตมํสํฯ มาฆาโต อชฺชา’’ติฯ อถ โข สุปฺปิยาย อุปาสิกาย เอตทโหสิ – ‘‘ตสฺส โข คิลานสฺส ภิกฺขุโน ปฏิจฺฉาทนียํ อลภนฺตสฺส อาพาโธ วา อภิวฑฺฒิสฺสติ, กาลงฺกิริยา วา ภวิสฺสติฯ น โข เมตํ ปติรูปํ ยาหํ ปฏิสฺสุณิตฺวา น หราเปยฺย’’นฺติฯ โปตฺถนิกํ คเหตฺวา อูรุมํสํ อุกฺกนฺติตฺวา ทาสิยา อทาสิ – ‘‘หนฺท, เช, อิมํ มํสํ สมฺปาเทตฺวา อมุกสฺมิํ วิหาเร ภิกฺขุ คิลาโน, ตสฺส ทชฺชาหิฯ โย จ มํ ปุจฺฉติ, ‘คิลานา’ติ ปฏิเวเทหี’’ติฯ อุตฺตราสงฺเคน อูรุํ เวเฐตฺวา โอวรกํ ปวิสิตฺวา มญฺจเก นิปชฺชิฯ อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก ฆรํ คนฺตฺวา ทาสิํ ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ สุปฺปิยา’’ติ? ‘‘เอสายฺย โอวรเก นิปนฺนา’’ติฯ อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก เยน สุปฺปิยา อุปาสิกา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา สุปฺปิยํ อุปาสิกํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส นิปนฺนาสี’’ติ? ‘‘คิลานามฺหี’’ติฯ ‘‘กิํ เต อาพาโธ’’ติ? อถ โข สุปฺปิยา อุปาสิกา สุปฺปิยสฺส อุปาสกสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก – อจฺฉริยํ วต โภ! อพฺภุตํ วต โภ! ยาว สทฺธายํ สุปฺปิยา ปสนฺนา, ยตฺร หิ นาม อตฺตโนปิ มํสานิ ปริจฺจตฺตานิ! กิมฺปิมาย [กิํ ปนิมาย (สี. สฺยา.)] อญฺญํ กิญฺจิ อเทยฺยํ ภวิสฺสตีติ – หฏฺโฐ อุทคฺโค เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สุปฺปิโย อุปาสโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ, สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆนา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, ภนฺเต, นิฏฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สุปฺปิยสฺส อุปาสกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ, สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺเฆน ฯ อถ โข สุปฺปิโย อุปาสโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตํ โข สุปฺปิยํ อุปาสกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กหํ สุปฺปิยา’’ติ? ‘‘คิลานา ภควา’’ติฯ ‘‘เตน หิ อาคจฺฉตู’’ติฯ ‘‘น ภควา อุสฺสหตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ ปริคฺคเหตฺวาปิ อาเนถา’’ติฯ