เมนู

11. ภทฺทวคฺคิยวตฺถุ

[36] อถ โข ภควา พาราณสิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน อุรุเวลา เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อญฺญตโร วนสณฺโฑ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสีทิฯ เตน โข ปน สมเยน ติํสมตฺตา ภทฺทวคฺคิยา สหายกา สปชาปติกา ตสฺมิํ วนสณฺเฑ ปริจาเรนฺติฯ เอกสฺส ปชาปติ นาโหสิ; ตสฺส อตฺถาย เวสี อานีตา อโหสิฯ อถ โข สา เวสี เตสุ ปมตฺเตสุ ปริจาเรนฺเตสุ ภณฺฑํ อาทาย ปลายิตฺถฯ อถ โข เต สหายกา สหายกสฺส เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตา, ตํ อิตฺถิํ คเวสนฺตา, ตํ วนสณฺฑํ อาหิณฺฑนฺตา อทฺทสํสุ ภควนฺตํ อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํฯ ทิสฺวาน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อปิ, ภนฺเต, ภควา เอกํ อิตฺถิํ ปสฺเสยฺยา’’ติ? ‘‘กิํ ปน โว, กุมารา, อิตฺถิยา’’ติ? ‘‘อิธ มยํ, ภนฺเต, ติํสมตฺตา ภทฺทวคฺคิยา สหายกา สปชาปติกา อิมสฺมิํ วนสณฺเฑ ปริจาริมฺหาฯ เอกสฺส ปชาปติ นาโหสิ; ตสฺส อตฺถาย เวสี อานีตา อโหสิฯ อถ โข สา, ภนฺเต , เวสี อมฺเหสุ ปมตฺเตสุ ปริจาเรนฺเตสุ ภณฺฑํ อาทาย ปลายิตฺถฯ เต มยํ, ภนฺเต, สหายกา สหายกสฺส เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตา, ตํ อิตฺถิํ คเวสนฺตา, อิมํ วนสณฺฑํ อาหิณฺฑามา’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ โว, กุมารา, กตมํ นุ โข ตุมฺหากํ วรํ – ยํ วา ตุมฺเห อิตฺถิํ คเวเสยฺยาถ, ยํ วา อตฺตานํ คเวเสยฺยาถา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, อมฺหากํ วรํ ยํ มยํ อตฺตานํ คเวเสยฺยามา’’ติฯ ‘‘เตน หิ โว, กุมารา, นิสีทถ, ธมฺมํ โว เทเสสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภทฺทวคฺคิยา สหายกา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เตสํ ภควา อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ – ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ปกาเสสิ, ยทา เต ภควา อญฺญาสิ กลฺลจิตฺเต มุทุจิตฺเต วินีวรณจิตฺเต อุทคฺคจิตฺเต ปสนฺนจิตฺเต, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํ, เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฏิคฺคณฺเหยฺย, เอวเมว เตสํ ตสฺมิํเยว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ‘‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติฯ เต ทิฏฺฐธมฺมา ปตฺตธมฺมา วิทิตธมฺมา ปริโยคาฬฺหธมฺมา ติณฺณวิจิกิจฺฉา วิคตกถํกถา เวสารชฺชปฺปตฺตา อปรปฺปจฺจยา สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ลเภยฺยาม มยํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติฯ ‘‘เอถ ภิกฺขโว’’ติ ภควา อโวจ – ‘‘สฺวากฺขาโต ธมฺโม, จรถ พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติฯ สาว เตสํ อายสฺมนฺตานํ อุปสมฺปทา อโหสิฯ

ภทฺทวคฺคิยสหายกานํ วตฺถุ นิฏฺฐิตํฯ

ทุติยภาณวาโรฯ

12. อุรุเวลปาฏิหาริยกถา

[37] อถ โข ภควา อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน อุรุเวลา ตทวสริฯ เตน โข ปน สมเยน อุรุเวลายํ ตโย ชฏิลา ปฏิวสนฺติ – อุรุเวลกสฺสโป, นทีกสฺสโป, คยากสฺสโปติฯ เตสุ อุรุเวลกสฺสโป ชฏิโล ปญฺจนฺนํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ, วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโขฯ นทีกสฺสโป ชฏิโล ติณฺณํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ, วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโขฯ คยากสฺสโป ชฏิโล ทฺวินฺนํ ชฏิลสตานํ นายโก โหติ, วินายโก อคฺโค ปมุโข ปาโมกฺโขฯ อถ โข ภควา เยน อุรุเวลกสฺสปสฺส ชฏิลสฺส อสฺสโม เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, กสฺสป , อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อคฺยาคาเร’’ติ? ‘‘น โข เม, มหาสมณ, ครุ, จณฺเฑตฺถ นาคราชา อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส, โส ตํ มา วิเหเฐสี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, กสฺสป, อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อคฺยาคาเร’’ติ? ‘‘น โข เม, มหาสมณ, ครุ, จณฺเฑตฺถ นาคราชา อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส, โส ตํ มา วิเหเฐสี’’ติฯ ตติยมฺปิ โข ภควา อุรุเวลกสฺสปํ ชฏิลํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ เต, กสฺสป, อครุ, วเสยฺยาม เอกรตฺตํ อคฺยาคาเร’’ติ? ‘‘น โข เม, มหาสมณ, ครุ, จณฺเฑตฺถ นาคราชา อิทฺธิมา อาสิวิโส โฆรวิโส, โส ตํ มา วิเหเฐสี’’ติฯ ‘‘อปฺเปว มํ น วิเหเฐยฺย, อิงฺฆ ตฺวํ, กสฺสป, อนุชานาหิ อคฺยาคาร’’นฺติฯ ‘‘วิหร, มหาสมณ, ยถาสุข’’นฺติฯ อถ โข ภควา อคฺยาคารํ ปวิสิตฺวา ติณสนฺถารกํ ปญฺญเปตฺวา นิสีทิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฏฺฐเปตฺวาฯ

[38] อทฺทสา โข โส นาโค ภควนฺตํ ปวิฏฺฐํ, ทิสฺวาน ทุมฺมโน [ทุกฺขี ทุมฺมโน (สี. สฺยา.)] ปธูปายิ [ปขูปาสิ (ก.)]ฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ อิมสฺส นาคสฺส อนุปหจฺจ ฉวิญฺจ จมฺมญฺจ มํสญฺจ นฺหารุญฺจ อฏฺฐิญฺจ อฏฺฐิมิญฺชญฺจ เตชสา เตชํ ปริยาทิเยยฺย’’นฺติฯ อถ โข ภควา ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา ปธูปายิฯ อถ โข โส นาโค มกฺขํ อสหมาโน ปชฺชลิฯ ภควาปิ เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา ปชฺชลิฯ อุภินฺนํ สโชติภูตานํ อคฺยาคารํ อาทิตฺตํ วิย โหติ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํฯ อถ โข เต ชฏิลา อคฺยาคารํ ปริวาเรตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘อภิรูโป วต โภ มหาสมโณ นาเคน วิเหฐิยตี’’ติฯ