เมนู

8. มารกถา

[32] อถ โข ภควา เต ภิกฺขู อามนฺเตสิ [สํ. นิ. 1.141 มารสํยุตฺเตปิ] – ‘‘มุตฺตาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสาฯ ตุมฺเหปิ, ภิกฺขเว , มุตฺตา สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสาฯ จรถ, ภิกฺขเว, จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ มา เอเกน ทฺเว อคมิตฺถฯ เทเสถ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสถฯ สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา , อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อญฺญาตาโรฯ อหมฺปิ, ภิกฺขเว, เยน อุรุเวลา เสนานิคโม เตนุปสงฺกมิสฺสามิ ธมฺมเทสนายา’’ติฯ

[33] อถ โข มาโร ปาปิมา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘พทฺโธสิ สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

มหาพนฺธนพทฺโธสิ, น เม สมณ โมกฺขสี’’ติฯ

‘‘มุตฺตาหํ [มุตฺโตหํ (สี. สฺยา.)] สพฺพปาเสหิ, เย ทิพฺพา เย จ มานุสา;

มหาพนฺธนมุตฺโตมฺหิ, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกาติฯ

[สํ. นิ. 1.151 มารสํยุตฺเตปิ] ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส;

เตน ตํ พาธยิสฺสามิ, น เม สมณ โมกฺขสีติฯ

[สํ. นิ. 1.1151 มารสํยุตฺเตปิ] ‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺฐพฺพา จ มโนรมา;

เอตฺถ เม วิคโต ฉนฺโท, นิหโต ตฺวมสิ อนฺตกา’’ติฯ

อถ โข มาโร ปาปิมา – ชานาติ มํ ภควา, ชานาติ มํ สุคโตติ ทุกฺขี ทุมฺมโน

ตตฺเถวนฺตรธายีติฯ

มารกถา นิฏฺฐิตาฯ

9. ปพฺพชฺชูปสมฺปทากถา

[34] เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู นานาทิสา นานาชนปทา ปพฺพชฺชาเปกฺเข จ อุปสมฺปทาเปกฺเข จ อาเนนฺติ – ภควา เน ปพฺพาเชสฺสติ อุปสมฺปาเทสฺสตีติฯ ตตฺถ ภิกฺขู เจว กิลมนฺติ ปพฺพชฺชาเปกฺขา จ อุปสมฺปทาเปกฺขา จฯ อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘เอตรหิ โข ภิกฺขู นานาทิสา นานาชนปทา ปพฺพชฺชาเปกฺเข จ อุปสมฺปทาเปกฺเข จ อาเนนฺติ – ภควา เน ปพฺพาเชสฺสติ อุปสมฺปาเทสฺสตีติฯ ตตฺถ ภิกฺขู เจว กิลมนฺติ ปพฺพชฺชาเปกฺขา จ อุปสมฺปทาเปกฺขา จฯ ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ อนุชาเนยฺยํ – ตุมฺเหว ทานิ, ภิกฺขเว, ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปพฺพาเชถ อุปสมฺปาเทถา’’ติฯ อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภิกฺขเว, รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘เอตรหิ โข ภิกฺขู นานาทิสา นานาชนปทา ปพฺพชฺชาเปกฺเข จ อุปสมฺปทาเปกฺเข จ อาเนนฺติ ภควา เน ปพฺพาเชสฺสติ อุปสมฺปาเทสฺสตีติ, ตตฺถ ภิกฺขู เจว กิลมนฺติ ปพฺพชฺชาเปกฺขา จ อุปสมฺปทาเปกฺขา จ, ยํนูนาหํ ภิกฺขูนํ อนุชาเนยฺยํ ตุมฺเหว ทานิ, ภิกฺขเว, ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปพฺพาเชถ อุปสมฺปาเทถา’’’ติ, อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตุมฺเหว ทานิ ตาสุ ตาสุ ทิสาสุ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ ปพฺพาเชถ อุปสมฺปาเทถฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ปพฺพาเชตพฺโพ อุปสมฺปาเทตพฺโพ –

ปฐมํ เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา [โอหาเรตฺวา (ก.)], กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาทาเปตฺวา, เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ การาเปตฺวา, ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา, อุกฺกุฏิกํ นิสีทาเปตฺวา, อญฺชลิํ ปคฺคณฺหาเปตฺวา, เอวํ วเทหีติ วตฺตพฺโพ – พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ; ทุติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ; ตติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ, ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ, ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามี’’ติฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ตีหิ สรณคมเนหิ ปพฺพชฺชํ อุปสมฺปท’’นฺติฯ

ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปทากถา นิฏฺฐิตาฯ