เมนู

4. อุปสมฺปทาสุตฺตํ

[34] ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํฯ กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยญฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺฐาตุํ วา อุปฏฺฐาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรติํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺฐิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิจิตฺเต สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิปญฺญาย สมาทเปตุํฯ อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพ’’นฺติฯ จตุตฺถํฯ

5. นิสฺสยสุตฺตํ

[35] ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ทาตพฺโพ’’ติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ทาตพฺโพฯ กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป.… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป.… ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยญฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺฐาตุํ วา อุปฏฺฐาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรติํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺฐิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล…เป.… อธิจิตฺเต… อธิปญฺญาย สมาทเปตุํฯ อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นิสฺสโย ทาตพฺโพ’’ติฯ ปญฺจมํฯ

6. สามเณรสุตฺตํ

[36] ‘‘กติหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ’’ติ? ‘‘ทสหิ โข, อุปาลิ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพฯ กตเมหิ ทสหิ? อิธุปาลิ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ…เป.… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป.… ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; ปาติโมกฺขํ โข ปนสฺส วิตฺถาเรน สฺวาคตํ โหติ สุวิภตฺตํ สุปฺปวตฺตํ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโส อนุพฺยญฺชนโส; ปฏิพโล โหติ คิลานํ อุปฏฺฐาตุํ วา อุปฏฺฐาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อนภิรติํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ; ปฏิพโล โหติ อุปฺปนฺนํ ทิฏฺฐิคตํ ธมฺมโต วิเวเจตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิสีเล สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิจิตฺเต สมาทเปตุํ; ปฏิพโล โหติ อธิปญฺญาย สมาทเปตุํฯ อิเมหิ โข, อุปาลิ, ทสหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. สงฺฆเภทสุตฺตํ

[37] ‘‘‘สงฺฆเภโท สงฺฆเภโท’ติ, ภนฺเต, วุจฺจติฯ กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติ? ‘‘อิธุปาลิ, ภิกฺขู อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปนฺติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปนฺติ, อวินยํ วินโยติ ทีเปนฺติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปนฺติ, อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ, อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติ , ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปนฺติฯ เต อิเมหิ ทสหิ วตฺถูหิ อวกสฺสนฺติ อปกสฺสนฺติ อาเวนิ [อาเวนิํ (จูฬว. 352) อาเวณิ, อาเวณิกํ (ตตฺเถว อโธลิปิ)] กมฺมานิ กโรนฺติ อาเวนิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสนฺติฯ เอตฺตาวตา โข, อุปาลิ, สงฺโฆ ภินฺโน โหตี’’ติฯ สตฺตมํฯ