เมนู

3. ทานวตฺถุสุตฺตํ

[33] ‘‘อฏฺฐิมานิ , ภิกฺขเว, ทานวตฺถูนิฯ กตมานิ อฏฺฐ? ฉนฺทา ทานํ เทติ, โทสา ทานํ เทติ, โมหา ทานํ เทติ, ภยา ทานํ เทติ, ‘ทินฺนปุพฺพํ กตปุพฺพํ ปิตุปิตามเหหิ, นารหามิ โปราณํ กุลวํสํ หาเปตุ’นฺติ ทานํ เทติ, ‘อิมาหํ ทานํ ทตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามี’ติ ทานํ เทติ, ‘อิมํ เม ทานํ ททโต จิตฺตํ ปสีทติ, อตฺตมนตา โสมนสฺสํ อุปชายตี’ติ ทานํ เทติ, จิตฺตาลงฺการจิตฺตปริกฺขารตฺถํ ทานํ เทติฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, อฏฺฐ ทานวตฺถูนี’’ติฯ ตติยํฯ

4. เขตฺตสุตฺตํ

[34] ‘‘อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต , ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหสฺสาทํ น ผาติเสยฺยํ [น ผาติเสยฺยนฺติ (สี. สฺยา. ก.), น ผาติเสยฺยา (กตฺถจิ)]ฯ กถํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต? อิธ, ภิกฺขเว, เขตฺตํ อุนฺนามนินฺนามิ จ โหติ, ปาสาณสกฺขริกญฺจ โหติ, อูสรญฺจ โหติ, น จ คมฺภีรสิตํ โหติ, น อายสมฺปนฺนํ โหติ, น อปายสมฺปนฺนํ โหติ, น มาติกาสมฺปนฺนํ โหติ, น มริยาทสมฺปนฺนํ โหติฯ เอวํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ น มหปฺผลํ โหติ น มหสฺสาทํ น ผาติเสยฺยํฯ

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ น มหาชุติกํ น มหาวิปฺผารํฯ กถํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเตสุ? อิธ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา มิจฺฉาทิฏฺฐิกา โหนฺติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปา, มิจฺฉาวาจา, มิจฺฉากมฺมนฺตา, มิจฺฉาอาชีวา, มิจฺฉาวายามา, มิจฺฉาสติโน, มิจฺฉาสมาธิโนฯ เอวํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเตสุ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ น มหานิสํสํ น มหาชุติกํ น มหาวิปฺผารํฯ

‘‘อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ มหปฺผลํ โหติ มหสฺสาทํ ผาติเสยฺยํฯ

กถํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต? อิธ, ภิกฺขเว, เขตฺตํ อนุนฺนามานินฺนามิ จ โหติ, อปาสาณสกฺขริกญฺจ โหติ, อนูสรญฺจ โหติ, คมฺภีรสิตํ โหติ, อายสมฺปนฺนํ โหติ, อปายสมฺปนฺนํ โหติ, มาติกาสมฺปนฺนํ โหติ, มริยาทสมฺปนฺนํ โหติฯ เอวํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต, ภิกฺขเว, เขตฺเต พีชํ วุตฺตํ มหปฺผลํ โหติ มหสฺสาทํ ผาติเสยฺยํฯ

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเตสุ สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ มหาชุติกํ มหาวิปฺผารํฯ กถํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเตสุ? อิธ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมณา สมฺมาทิฏฺฐิกา โหนฺติ, สมฺมาสงฺกปฺปา, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมนฺตา, สมฺมาอาชีวา, สมฺมาวายามา, สมฺมาสติโน, สมฺมาสมาธิโนฯ เอวํ อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเตสุ, ภิกฺขเว, สมณพฺราหฺมเณสุ ทานํ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ มหานิสํสํ มหาชุติกํ มหาวิปฺผาร’’นฺติฯ

‘‘ยถาปิ เขตฺเต สมฺปนฺเน, ปวุตฺตา พีชสมฺปทา;

เทเว สมฺปาทยนฺตมฺหิ [สญฺชายนฺตมฺหิ (ก.)], โหติ ธญฺญสฺส สมฺปทาฯ

‘‘อนีติสมฺปทา โหติ, วิรูฬฺหี ภวติ สมฺปทา;

เวปุลฺลสมฺปทา โหติ, ผลํ เว โหติ สมฺปทาฯ

‘‘เอวํ สมฺปนฺนสีเลสุ, ทินฺนา โภชนสมฺปทา;

สมฺปทานํ อุปเนติ, สมฺปนฺนํ หิสฺส ตํ กตํฯ

‘‘ตสฺมา สมฺปทมากงฺขี, สมฺปนฺนตฺถูธ ปุคฺคโล;

สมฺปนฺนปญฺเญ เสเวถ, เอวํ อิชฺฌนฺติ สมฺปทาฯ

‘‘วิชฺชาจรณสมฺปนฺเน, ลทฺธา จิตฺตสฺส สมฺปทํ;

กโรติ กมฺมสมฺปทํ, ลภติ จตฺถสมฺปทํฯ

‘‘โลกํ ญตฺวา ยถาภูตํ, ปปฺปุยฺย ทิฏฺฐิสมฺปทํ;

มคฺคสมฺปทมาคมฺม, ยาติ สมฺปนฺนมานโสฯ

‘‘โอธุนิตฺวา มลํ สพฺพํ, ปตฺวา นิพฺพานสมฺปทํ;

มุจฺจติ สพฺพทุกฺเขหิ, สา โหติ สพฺพสมฺปทา’’ติฯ จตุตฺถํ;

5. ทานูปปตฺติสุตฺตํ

[35] [ที. นิ. 3.337] ‘‘อฏฺฐิมา, ภิกฺขเว, ทานูปปตฺติโยฯ กตมา อฏฺฐ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํฯ โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติ [ปจฺจาสิํสติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]ฯ โส ปสฺสติ ขตฺติยมหาสาเล วา พฺราหฺมณมหาสาเล วา คหปติมหาสาเล วา ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิเต สมงฺคีภูเต ปริจารยมาเนฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติ! โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺฐาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติฯ ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ [หีเนธิมุตฺตํ (สฺยา. ปี.) วิมุตฺตนฺติ อธิมุตฺตํ, วิมุตฺตนฺติ วา วิสฺสฏฺฐํ (ฏีกาสํวณฺณนา)], อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติฯ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ขตฺติยมหาสาลานํ วา พฺราหฺมณมหาสาลานํ วา คหปติมหาสาลานํ วา สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ ตญฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺสฯ อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตาฯ

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํฯ โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ‘จาตุมหาราชิกา [จาตุมฺมหาราชิกา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา’ติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ โส ตํ จิตฺตํ ทหติ, ตํ จิตฺตํ อธิฏฺฐาติ, ตํ จิตฺตํ ภาเวติฯ ตสฺส ตํ จิตฺตํ หีเน วิมุตฺตํ, อุตฺตริ อภาวิตํ, ตตฺรูปปตฺติยา สํวตฺตติฯ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติฯ ตญฺจ โข สีลวโต วทามิ, โน ทุสฺสีลสฺสฯ อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตาฯ

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ทานํ เทติ สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลาคนฺธวิเลปนํ เสยฺยาวสถปทีเปยฺยํฯ โส ยํ เทติ ตํ ปจฺจาสีสติฯ ตสฺส สุตํ โหติ – ตาวติํสา เทวา…เป.… ยามา เทวา… ตุสิตา เทวา… นิมฺมานรตี เทวา… ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลาติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อโห วตาหํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺเชยฺย’นฺติฯ