เมนู

‘‘เสยฺยถาปิ , พฺราหฺมณ, ยา กาจิ ตารกรูปานํ ปภา สพฺพา ตา จนฺทสฺส ปภาย กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิํ, จนฺทปฺปภา ตาสํ อคฺคมกฺขายติฯ เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ, อปฺปมาโท เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺฐติ – ทิฏฺฐธมฺมิกญฺเจว อตฺถํ โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโกฯ

‘‘อยํ โข, พฺราหฺมณ, เอโก ธมฺโม ภาวิโต พหุลีกโต อุโภ อตฺเถ สมธิคฺคยฺห ติฏฺฐติ – ทิฏฺฐธมฺมิกญฺเจว อตฺถํ, โย จ อตฺโถ สมฺปรายิโก’’ติฯ

‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ เอกาทสมํฯ

12. ธมฺมิกสุตฺตํ

[54] เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ธมฺมิโก ชาติภูมิยํ อาวาสิโก โหติ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตสุ อาวาเสสุฯ ตตฺร สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหิํสติ วิตุทติ โรเสติ วาจายฯ เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ [น สณฺฐหนฺติ (สี.)], ริญฺจนฺติ อาวาสํฯ

อถ โข ชาติภูมกานํ [ชาติภูมิกานํ (สฺยา. ปี. ก.)] อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺฐิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนฯ อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาสํฯ โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหิํสติ วิตุทติ โรเสติ วาจายฯ

เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ , น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาสํฯ ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยามา’’ติฯ

อถ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยน อายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก อิมมฺหา อาวาสา; อลํ เต อิธ วาเสนา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ตมฺหา อาวาสา อญฺญํ อาวาสํ อคมาสิฯ ตตฺรปิ สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหิํสติ วิตุทติ โรเสติ วาจายฯ เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาสํฯ

อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺฐิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนฯ อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาสํฯ โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหิํสติ วิตุทติ โรเสติ วาจายฯ เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาสํฯ ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยามา’’ติฯ

อถ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยนายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก อิมมฺหาปิ อาวาสา; อลํ เต อิธ วาเสนา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ตมฺหาปิ อาวาสา อญฺญํ อาวาสํ อคมาสิ ฯ ตตฺรปิ สุทํ อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ วิหิํสติ วิตุทติ โรเสติ วาจายฯ เต จ อาคนฺตุกา ภิกฺขู อายสฺมตา ธมฺมิเกน อกฺโกสิยมานา ปริภาสิยมานา วิเหสิยมานา วิตุทิยมานา โรสิยมานา วาจาย ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาสํฯ

อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘มยํ โข ภิกฺขุสงฺฆํ ปจฺจุปฏฺฐิตา จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนฯ อถ จ ปน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ , น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาสํฯ โก นุ โข เหตุ โก ปจฺจโย เยน อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปกฺกมนฺติ, น สณฺฐนฺติ, ริญฺจนฺติ อาวาส’’นฺติ? อถ โข ชาติภูมกานํ อุปาสกานํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมิโก อาคนฺตุเก ภิกฺขู อกฺโกสติ…เป.… ฯ ยํนูน มยํ อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ปพฺพาเชยฺยาม สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติฯ อถ โข ชาติภูมกา อุปาสกา เยนายสฺมา ธมฺมิโก เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปกฺกมตุ, ภนฺเต, อายสฺมา ธมฺมิโก สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติฯ อถ โข อายสฺมโต ธมฺมิกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปพฺพาชิโต โขมฺหิ ชาติภูมเกหิ อุปาสเกหิ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหิฯ กหํ นุ โข ทานิ คจฺฉามี’’ติ? อถ โข อายสฺมโต ธมฺมิกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติฯ

อถ โข อายสฺมา ธมฺมิโก ปตฺตจีวรมาทาย เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน เยน ราชคหํ คิชฺฌกูโฏ ปพฺพโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘หนฺท กุโต นุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อาคจฺฉสี’’ติ? ‘‘ปพฺพาชิโต อหํ, ภนฺเต, ชาติภูมเกหิ อุปาสเกหิ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติฯ ‘‘อลํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, กิํ เต อิมินา, ยํ ตํ ตโต ตโต ปพฺพาเชนฺติ, โส ตฺวํ ตโต ตโต ปพฺพาชิโต มเมว สนฺติเก อาคจฺฉสิ’’ฯ

‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สามุทฺทิกา วาณิชา ตีรทสฺสิํ สกุณํ คเหตฺวา นาวาย สมุทฺทํ อชฺโฌคาหนฺติฯ เต อตีรทกฺขิณิยา [อตีรทสฺสนิยา (สฺยา.), อตีรทสฺสิยา (ก.)] นาวาย ตีรทสฺสิํ สกุณํ มุญฺจนฺติฯ โส คจฺฉเตว ปุรตฺถิมํ ทิสํ, คจฺฉติ ปจฺฉิมํ ทิสํ, คจฺฉติ อุตฺตรํ ทิสํ, คจฺฉติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คจฺฉติ อุทฺธํ, คจฺฉติ อนุทิสํฯ สเจ โส สมนฺตา ตีรํ ปสฺสติ, ตถาคตโกว [ตถาคโต (ก.) ที. นิ. 1.497 ปสฺสิตพฺพํ] โหติฯ

สเจ ปน โส สมนฺตา ตีรํ น ปสฺสติ ตเมว นาวํ ปจฺจาคจฺฉติฯ เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, ยํ ตํ ตโต ตโต ปพฺพาเชนฺติ โส ตฺวํ ตโต ตโต ปพฺพาชิโต มเมว สนฺติเก อาคจฺฉสิฯ

‘‘ภูตปุพฺพํ , พฺราหฺมณ ธมฺมิก, รญฺโญ โกรพฺยสฺส สุปฺปติฏฺโฐ นาม นิคฺโรธราชา อโหสิ ปญฺจสาโข สีตจฺฉาโย มโนรโมฯ สุปฺปติฏฺฐสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส ทฺวาทสโยชนานิ อภินิเวโส อโหสิ, ปญฺจ โยชนานิ มูลสนฺตานกานํฯ สุปฺปติฏฺฐสฺส โข ปน , พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส ตาว มหนฺตานิ ผลานิ อเหสุํ; เสยฺยถาปิ นาม อาฬฺหกถาลิกาฯ เอวมสฺส สาทูนิ ผลานิ อเหสุํ; เสยฺยถาปิ นาม ขุทฺทํ มธุํ อเนลกํฯ สุปฺปติฏฺฐสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส เอกํ ขนฺธํ ราชา ปริภุญฺชติ สทฺธิํ อิตฺถาคาเรน, เอกํ ขนฺธํ พลกาโย ปริภุญฺชติ, เอกํ ขนฺธํ เนคมชานปทา ปริภุญฺชนฺติ, เอกํ ขนฺธํ สมณพฺราหฺมณา ปริภุญฺชนฺติ, เอกํ ขนฺธํ มิคา [มิคปกฺขิโน (สี. สฺยา. ปี.)] ปริภุญฺชนฺติฯ สุปฺปติฏฺฐสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, นิคฺโรธราชสฺส น โกจิ ผลานิ รกฺขติ, น จ สุทํ [น จ ปุน (ก.)] อญฺญมญฺญสฺส ผลานิ หิํสนฺติฯ

‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อญฺญตโร ปุริโส สุปฺปติฏฺฐสฺส นิคฺโรธราชสฺส ยาวทตฺถํ ผลานิ ภกฺขิตฺวา สาขํ ภญฺชิตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺเฐ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถาย เทวตาย เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! ยาว ปาโป มนุสฺโส [ยาว ปาปมนุสฺโส (สฺยา.), ยาวตา ปาปมนุสฺโส (ก.)], ยตฺร หิ นาม สุปฺปติฏฺฐสฺส นิคฺโรธราชสฺส ยาวทตฺถํ ผลานิ ภกฺขิตฺวา สาขํ ภญฺชิตฺวา ปกฺกมิสฺสติ, ยํนูน สุปฺปติฏฺโฐ นิคฺโรธราชา อายติํ ผลํ น ทเทยฺยา’ติฯ อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺโฐ นิคฺโรธราชา อายติํ ผลํ น อทาสิฯ

‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, ราชา โกรพฺโย เยน สกฺโก เทวานมินฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สกฺกํ เทวานมินฺทํ เอตทโวจ – ‘ยคฺเฆ, มาริส, ชาเนยฺยาสิ สุปฺปติฏฺโฐ นิคฺโรธราชา ผลํ น เทตี’ติ? อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ [อภิสงฺขาเรสิ (สฺยา. ก.)], ยถา ภุสา วาตวุฏฺฐิ อาคนฺตฺวา สุปฺปติฏฺฐํ นิคฺโรธราชํ ปวตฺเตสิ [ปาเตสิ (สี. ปี.)] อุมฺมูลมกาสิฯ อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุปฺปติฏฺเฐ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถา เทวตา ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ

‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท เยน สุปฺปติฏฺเฐ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถา เทวตา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สุปฺปติฏฺเฐ นิคฺโรธราเช อธิวตฺถํ เทวตํ เอตทโวจ – ‘กิํ นุ ตฺวํ, เทวเต, ทุกฺขี ทุมฺมนา อสฺสุมุขี รุทมานา เอกมนฺตํ ฐิตา’ติ? ‘ตถา หิ ปน เม, มาริส, ภุสา วาตวุฏฺฐิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติฯ ‘อปิ นุ ตฺวํ, เทวเต, รุกฺขธมฺเม ฐิตาย ภุสา วาตวุฏฺฐิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติ? ‘กถํ ปน, มาริส , รุกฺโข รุกฺขธมฺเม ฐิโต โหตี’ติ? ‘อิธ, เทวเต, รุกฺขสฺส มูลํ มูลตฺถิกา หรนฺติ, ตจํ ตจตฺถิกา หรนฺติ, ปตฺตํ ปตฺตตฺถิกา หรนฺติ, ปุปฺผํ ปุปฺผตฺถิกา หรนฺติ, ผลํ ผลตฺถิกา หรนฺติฯ น จ เตน เทวตาย อนตฺตมนตา วา อนภินนฺทิ [อนภิรทฺธิ (สี.)] วา กรณียาฯ เอวํ โข, เทวเต, รุกฺโข รุกฺขธมฺเม ฐิโต โหตี’ติฯ ‘อฏฺฐิตาเยว โข เม, มาริส, รุกฺขธมฺเม ภุสา วาตวุฏฺฐิ อาคนฺตฺวา ภวนํ ปวตฺเตสิ อุมฺมูลมกาสี’ติฯ ‘สเจ โข ตฺวํ, เทวเต, รุกฺขธมฺเม ติฏฺเฐยฺยาสิ, สิยา [สิยาปิ (สี. ปี.)] เต ภวนํ ยถาปุเร’ติ? ‘ฐสฺสามหํ, [ติฏฺเฐยฺยามหํ (สฺยา.)] มาริส , รุกฺขธมฺเม, โหตุ เม ภวนํ ยถาปุเร’’’ติฯ

‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สกฺโก เทวานมินฺโท ตถารูปํ อิทฺธาภิสงฺขารํ อภิสงฺขาสิ [อภิสงฺขาริ (สฺยา. ก.)], ยถา ภุสา วาตวุฏฺฐิ อาคนฺตฺวา สุปฺปติฏฺฐํ นิคฺโรธราชํ อุสฺสาเปสิ, สจฺฉวีนิ มูลานิ อเหสุํฯ เอวเมวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อปิ นุ ตํ สมณธมฺเม ฐิตํ ชาติภูมกา อุปาสกา ปพฺพาเชสุํ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติ? ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, สมโณ สมณธมฺเม ฐิโต โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สมโณ อกฺโกสนฺตํ น ปจฺจกฺโกสติ, โรสนฺตํ น ปฏิโรสติ, ภณฺฑนฺตํ น ปฏิภณฺฑติฯ เอวํ โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สมโณ สมณธมฺเม ฐิโต โหตี’’ติฯ ‘‘อฏฺฐิตํเยว มํ, ภนฺเต, สมณธมฺเม ชาติภูมกา อุปาสกา ปพฺพาเชสุํ สพฺพโส ชาติภูมิยํ สตฺตหิ อาวาเสหี’’ติฯ

[อ. นิ. 7.66; 7.73] ‘‘ภูตปุพฺพํ , พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺโต นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโคฯ สุเนตฺตสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํฯ สุเนตฺโต สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิฯ เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ น ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิํสุฯ เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สุเนตฺตสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิํสุฯ

‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, มูคปกฺโข นาม สตฺถา อโหสิ…เป.… อรเนมิ นาม สตฺถา อโหสิ… กุทฺทาลโก นาม สตฺถา อโหสิ… หตฺถิปาโล นาม สตฺถา อโหสิ… โชติปาโล นาม สตฺถา อโหสิ ติตฺถกโร กาเมสุ วีตราโคฯ โชติปาลสฺส โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สตฺถุโน อเนกานิ สาวกสตานิ อเหสุํฯ โชติปาโล สตฺถา สาวกานํ พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสสิฯ เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โชติปาลสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ น ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชิํสุฯ เย โข ปน, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โชติปาลสฺส สตฺถุโน พฺรหฺมโลกสหพฺยตาย ธมฺมํ เทเสนฺตสฺส จิตฺตานิ ปสาเทสุํ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิํสุฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, โย อิเม ฉ สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค, อเนกสตปริวาเร สสาวกสงฺเฆ ปทุฏฺฐจิตฺโต อกฺโกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปุญฺญํ ปสเวยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘โย โข, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อิเม ฉ สตฺถาเร ติตฺถกเร กาเมสุ วีตราเค อเนกสตปริวาเร สสาวกสงฺเฆ ปทุฏฺฐจิตฺโต อกฺโกเสยฺย ปริภาเสยฺย, พหุํ โส อปุญฺญํ ปสเวยฺยฯ โย เอกํ ทิฏฺฐิสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ ปทุฏฺฐจิตฺโต อกฺโกสติ ปริภาสติ, อยํ ตโต พหุตรํ อปุญฺญํ ปสวติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? นาหํ, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, อิโต พหิทฺธา เอวรูปิํ ขนฺติํ [เอวรูปํ ขนฺตํ (สฺยา.)] วทามิ, ยถามํ สพฺรหฺมจารีสุฯ

ตสฺมาติห, พฺราหฺมณ ธมฺมิก , เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘น โน สมสพฺรหฺมจารีสุ [น โน อามสพฺรหฺมจารีสุ (สฺยา.), น โน สพฺรหฺมจารีสุ (สี. ปี.)] จิตฺตานิ ปทุฏฺฐานิ ภวิสฺสนฺตี’’’ติฯ เอวญฺหิ เต, พฺราหฺมณ ธมฺมิก, สิกฺขิตพฺพนฺติฯ

‘‘สุเนตฺโต มูคปกฺโข จ, อรเนมิ จ พฺราหฺมโณ;

กุทฺทาลโก อหุ สตฺถา, หตฺถิปาโล จ มาณโวฯ

‘‘โชติปาโล จ โควินฺโท, อหุ สตฺตปุโรหิโต;

อหิํสกา [อภิเสกา (สฺยา.)] อตีตํเส, ฉ สตฺถาโร ยสสฺสิโนฯ

‘‘นิรามคนฺธา กรุเณธิมุตฺตา [วิมุตฺตา (สี. สฺยา. ปี.)], กามสํโยชนาติคา [กามสํโยชนาติตา (สฺยา.)];

กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหุํ [อหุ (พหูสุ), อหู (ก. สี.)]

‘‘อเหสุํ สาวกา เตสํ, อเนกานิ สตานิปิ;

นิรามคนฺธา กรุเณธิมุตฺตา, กามสํโยชนาติคา;

กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปคา อหุํ [อหุ (พหูสุ), อหู (ก. สี.)]

‘‘เยเต อิสี พาหิรเก, วีตราเค สมาหิเต;

ปทุฏฺฐมนสงฺกปฺโป, โย นโร ปริภาสติ;

พหุญฺจ โส ปสวติ, อปุญฺญํ ตาทิโส นโรฯ

‘‘โย เจกํ ทิฏฺฐิสมฺปนฺนํ, ภิกฺขุํ พุทฺธสฺส สาวกํ;

ปทุฏฺฐมนสงฺกปฺโป , โย นโร ปริภาสติ;

อยํ ตโต พหุตรํ, อปุญฺญํ ปสเว นโรฯ

‘‘น สาธุรูปํ อาสีเท, ทิฏฺฐิฏฺฐานปฺปหายินํ;

สตฺตโม ปุคฺคโล เอโส, อริยสงฺฆสฺส วุจฺจติฯ

‘‘อวีตราโค กาเมสุ, ยสฺส ปญฺจินฺทฺริยา มุทู;

สทฺธา สติ จ วีริยํ, สมโถ จ วิปสฺสนาฯ

‘‘ตาทิสํ ภิกฺขุมาสชฺช, ปุพฺเพว อุปหญฺญติ;

อตฺตานํ อุปหนฺตฺวาน, ปจฺฉา อญฺญํ วิหิํสติฯ

‘‘โย จ รกฺขติ อตฺตานํ, รกฺขิโต ตสฺส พาหิโร;

ตสฺมา รกฺเขยฺย อตฺตานํ, อกฺขโต ปณฺฑิโต สทา’’ติฯ ทฺวาทสมํ;

ธมฺมิกวคฺโค ปญฺจโมฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

นาคมิคสาลา อิณํ, จุนฺทํ ทฺเว สนฺทิฏฺฐิกา ทุเว;

เขมอินฺทฺริย อานนฺท, ขตฺติยา อปฺปมาเทน ธมฺมิโกติฯ

ปฐมปณฺณาสกํ สมตฺตํฯ

2. ทุติยปณฺณาสกํ