เมนู

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ยสฺมิํ สมเย ภิกฺขุ พฺยาปาทปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ…เป.… ถินมิทฺธปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ… วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ… ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ, ตํ นิมิตฺตํ น ชานาติ น ปสฺสติ, ตสฺมิํ สมเย มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ โข, อาวุโส, ยํ นิมิตฺตํ อาคมฺม ยํ นิมิตฺตํ มนสิกโรโต อนนฺตรา อาสวานํ ขโย โหติ ตํ นิมิตฺตํ น ชานามิ น ปสฺสามิฯ สาธุ วต เม อายสฺมา อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสตู’ติฯ ตสฺส มโนภาวนีโย ภิกฺขุ อาสวานํ ขยาย ธมฺมํ เทเสติฯ อยํ, ภิกฺขุ, ฉฏฺโฐ สมโย มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ

‘‘สมฺมุขา เมตํ, อาวุโส, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ – ‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ฉ สมยา มโนภาวนียสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’’นฺติฯ อฏฺฐมํฯ

9. อุทายีสุตฺตํ

[29] อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺฐานานี’’ติ? เอวํ วุตฺเต อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺฐานานี’’ติ? ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิฯ ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ อามนฺเตสิ – ‘‘กติ นุ โข, อุทายิ, อนุสฺสติฏฺฐานานี’’ติ? ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหี อโหสิฯ

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส อุทายิ, อามนฺเตสี’’ติฯ ‘‘สุโณมหํ , อาวุโส อานนฺท, ภควโตฯ อิธ , ภนฺเต, ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ – เสยฺยถิทํ เอกมฺปิ ชาติํ ทฺเวปิ ชาติโย…เป.…ฯ อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺฐาน’’นฺติฯ

อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อญฺญาสิํ โข อหํ, อานนฺท – ‘เนวายํ อุทายี โมฆปุริโส อธิจิตฺตํ อนุยุตฺโต วิหรตี’ติฯ กติ นุ โข, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺฐานานี’’ติ?

‘‘ปญฺจ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺฐานานิฯ กตมานิ ปญฺจ? อิธ, ภนฺเต, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป.… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อาโลกสญฺญํ มนสิ กโรติ, ทิวา สญฺญํ อธิฏฺฐาติ, ยถา ทิวา ตถา รตฺติํ, ยถา รตฺติํ ตถา ทิวา; อิติ วิวเฏน เจตสา อปริโยนทฺเธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติฯ อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ ญาณทสฺสนปฺปฏิลาภาย สํวตฺตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ – ‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจ มํสํ นฺหารุ [นหารุ (สี. ปี.) ที. นิ. 2.377; ม. นิ. 1.110] อฏฺฐิ อฏฺฐิมิญฺชํ วกฺกํ หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสํ อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโท อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺต’นฺติฯ อิทํ, ภนฺเต , อนุสฺสติฏฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ กามราคปฺปหานาย สํวตฺตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ [ฉฑฺฑิตํ (สี. สฺยา. ปี.)] เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา ตีหมตํ วา อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกชาตํฯ โส อิมเมว กายํ เอวํ [เอวนฺติ อิทํ สติปฏฺฐานสุตฺตาทีสุ นตฺถิ] อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’’ติ [เอตํ อนตีโตติ (สี.)]

‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน [เสยฺยถา วา ปน (สฺยา.)] ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ กาเกหิ วา ขชฺชมานํ กุลเลหิ วา ขชฺชมานํ คิชฺเฌหิ วา ขชฺชมานํ สุนเขหิ วา ขชฺชมานํ สิงฺคาเลหิ [สิคาเลหิ (สี.)] วา ขชฺชมานํ วิวิเธหิ วา ปาณกชาเตหิ ขชฺชมานํฯ โส อิมเมว กายํ เอวํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’’’ติฯ

‘‘เสยฺยถาปิ วา ปน ปสฺเสยฺย สรีรํ สีวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฏฺฐิกสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ…เป.… อฏฺฐิกสงฺขลิกํ นิมฺมํสโลหิตมกฺขิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํ… อฏฺฐิกสงฺขลิกํ อปคตมํสโลหิตํ นฺหารุสมฺพนฺธํฯ

อฏฺฐิกานิ อปคตสมฺพนฺธานิ ทิสาวิทิสาวิกฺขิตฺตานิ [ทิสาวิทิสาสุ วิกฺขิตฺตานิ (สี.)], อญฺเญน หตฺถฏฺฐิกํ อญฺเญน ปาทฏฺฐิกํ อญฺเญน ชงฺฆฏฺฐิกํ อญฺเญน อูรุฏฺฐิกํ อญฺเญน กฏิฏฺฐิกํ [กฏฏฺฐิกํ (สี.)] อญฺเญน [ปิฏฺฐิกณฺฑกํ อญฺเญน สีสกฏาหํ (สี. ปี.), ปิฏฺฐิกณฺฑกฏฺฐิกํ อญฺเญน สีสกฏาหํ (สฺยา. กํ.)] ผาสุกฏฺฐิกํ อญฺเญน ปิฏฺฐิกณฺฏกฏฺฐิกํ อญฺเญน ขนฺธฏฺฐิกํ อญฺเญน คีวฏฺฐิกํ อญฺเญน หนุกฏฺฐิกํ อญฺเญน ทนฺตกฏฺฐิกํ อญฺเญน สีสกฏาหํ [ปิฏฺฐิกณฺฑกํ อญฺเญน สีสกฏาหํ (สี. ปี.), ปิฏฺฐิกณฺฑกฏฺฐิกํ อญฺเญน สีสกฏาหํ (สฺยา. กํ.)], อฏฺฐิกานิ เสตานิ สงฺขวณฺณปฺปฏิภาคานิ [สงฺขวณฺณูปนิภานิ (สี. สฺยา. ปี.)] อฏฺฐิกานิ ปุญฺชกิตานิ [ปุญฺชกตานิ (ปี.)] เตโรวสฺสิกานิ อฏฺฐิกานิ ปูตีนิ จุณฺณกชาตานิฯ โส อิมเมว กายํ เอวํ อุปสํหรติ – ‘อยมฺปิ โข กาโย เอวํธมฺโม เอวํภาวี เอวํอนตีโต’ติฯ อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ อสฺมิมานสมุคฺฆาตาย สํวตฺตติฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภนฺเต, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทํ, ภนฺเต, อนุสฺสติฏฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ อเนกธาตุปฏิเวธาย สํวตฺตติฯ อิมานิ โข, ภนฺเต, ปญฺจ อนุสฺสติฏฺฐานานี’’ติฯ

‘‘สาธุ, สาธุ, อานนฺท! เตน หิ ตฺวํ, อานนฺท, อิทมฺปิ ฉฏฺฐํ อนุสฺสติฏฺฐานํ ธาเรหิฯ อิธานนฺท, ภิกฺขุ สโตว อภิกฺกมติ สโตว ปฏิกฺกมติ สโตว ติฏฺฐติ สโตว นิสีทติ สโตว เสยฺยํ กปฺเปติ สโตว กมฺมํ อธิฏฺฐาติฯ อิทํ, อานนฺท, อนุสฺสติฏฺฐานํ เอวํ ภาวิตํ เอวํ พหุลีกตํ สติสมฺปชญฺญาย สํวตฺตตี’’ติฯ นวมํฯ

10. อนุตฺตริยสุตฺตํ

[30] ‘‘ฉยิมานิ, ภิกฺขเว, อนุตฺตริยานิฯ กตมานิ ฉ? ทสฺสนานุตฺตริยํ, สวนานุตฺตริยํ, ลาภานุตฺตริยํ, สิกฺขานุตฺตริยํ, ปาริจริยานุตฺตริยํ, อนุสฺสตานุตฺตริยนฺติฯ

‘‘กตมญฺจ , ภิกฺขเว, ทสฺสนานุตฺตริยํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ หตฺถิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อสฺสรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, มณิรตนมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉติ, อุจฺจาวจํ วา ปน ทสฺสนาย คจฺฉติ, สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา มิจฺฉาทิฏฺฐิกํ มิจฺฉาปฏิปนฺนํ ทสฺสนาย คจฺฉติฯ อตฺเถตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ; เนตํ นตฺถีติ วทามิฯ ตญฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, ทสฺสนํ หีนํ คมฺมํ โปถุชฺชนิกํ อนริยํ อนตฺถสํหิตํ, น นิพฺพิทาย น วิราคาย น นิโรธาย น อุปสมาย น อภิญฺญาย น สมฺโพธาย น นิพฺพานาย สํวตฺตติฯ