เมนู

‘‘ตถา ตถาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยาฯ กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยา?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ น กมฺมาราโม โหติ น กมฺมรโต น กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, น ภสฺสาราโม โหติ น ภสฺสรโต น ภสฺสารามตํ อนุยุตฺโต, น นิทฺทาราโม โหติ น นิทฺทารโต นิทฺทารามตํ อนุยุตฺโต, น สงฺคณิการาโม โหติ น สงฺคณิกรโต น สงฺคณิการามตํ อนุยุตฺโต, น สํสคฺคาราโม โหติ น สํสคฺครโต น สํสคฺคารามตํ อนุยุตฺโต, น ปปญฺจาราโม โหติ น ปปญฺจรโต น ปปญฺจารามตํ อนุยุตฺโตฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต ภทฺทกํ มรณํ โหติ, ภทฺทิกา กาลกิริยาฯ อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ นิพฺพานาภิรโต ปชหาสิ สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’’ติฯ

‘‘โย ปปญฺจมนุยุตฺโต, ปปญฺจาภิรโต มโค;

วิราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํฯ

‘‘โย จ ปปญฺจํ หิตฺวาน, นิปฺปปญฺจปเท รโต;

อาราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตร’’นฺติฯ จตุตฺถํ;

5. อนุตปฺปิยสุตฺตํ

[15] ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ตถา ตถาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนุตปฺปา โหติฯ กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนุตปฺปา โหติ?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ กมฺมาราโม โหติ กมฺมรโต กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, ภสฺสาราโม โหติ…เป.… นิทฺทาราโม โหติ… สงฺคณิการาโม โหติ… สํสคฺคาราโม โหติ… ปปญฺจาราโม โหติ ปปญฺจรโต ปปญฺจารามตํ อนุยุตฺโตฯ

เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนุตปฺปา โหติ ฯ อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ สกฺกายาภิรโต นปฺปชหาสิ สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยาย’’’ฯ

‘‘ตถา ตถาวุโส, ภิกฺขุ วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนนุตปฺปา โหติฯ กถญฺจาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนนุตปฺปา โหติ?

‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ น กมฺมาราโม โหติ น กมฺมรโต น กมฺมารามตํ อนุยุตฺโต, น ภสฺสาราโม โหติ…เป.… น นิทฺทาราโม โหติ… น สงฺคณิการาโม โหติ… น สํสคฺคาราโม โหติ… น ปปญฺจาราโม โหติ น ปปญฺจรโต น ปปญฺจารามตํ อนุยุตฺโตฯ เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ตถา ตถา วิหารํ กปฺเปติ ยถา ยถาสฺส วิหารํ กปฺปยโต กาลกิริยา อนนุตปฺปา โหติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส – ‘ภิกฺขุ นิพฺพานาภิรโต ปชหาสิ สกฺกายํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’’ติฯ

‘‘โย ปปญฺจมนุยุตฺโต, ปปญฺจาภิรโต มโค;

วิราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตรํฯ

‘‘โย จ ปปญฺจํ หิตฺวาน, นิปฺปปญฺจปเท รโต;

อาราธยี โส นิพฺพานํ, โยคกฺเขมํ อนุตฺตร’’นฺติฯ ปญฺจมํ;

6. นกุลปิตุสุตฺตํ

[16] เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร [สุํสุมารคิเร (สี. ปี.), สํสุมารคิเร (กตฺถจิ)] เภสกฬาวเน มิคทาเยฯ เตน โข ปน สมเยน นกุลปิตา คหปติ อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ อถ โข นกุลมาตา คหปตานี นกุลปิตรํ คหปติํ เอตทโวจ –

‘‘มา โข ตฺวํ, คหปติ, สาเปกฺโข [สาเปโข (ปี. ก.)] กาลมกาสิฯ ทุกฺขา, คหปติ, สาเปกฺขสฺส กาลกิริยา; ครหิตา จ ภควตา สาเปกฺขสฺส กาลกิริยาฯ สิยา โข ปน เต, คหปติ, เอวมสฺส – ‘น นกุลมาตา คหปตานี มมจฺจเยน สกฺขิสฺสติ [น สกฺขิสฺสติ (สี. สฺยา. กํ.), สกฺโกติ (ปี. ก.)] ทารเก โปเสตุํ, ฆราวาสํ สนฺธริตุ’นฺติ [สนฺธริตุนฺติ (ก.), สณฺฐริตุํ (สฺยา.)]ฯ น โข ปเนตํ, คหปติ, เอวํ ทฏฺฐพฺพํฯ