4. ทุติยวฑฺฒิสุตฺตํ
[64] ‘‘ปญฺจหิ , ภิกฺขเว, วฑฺฒีหิ วฑฺฒมานา อริยสาวิกา อริยาย วฑฺฒิยา วฑฺฒติ, สาราทายินี จ โหติ วราทายินี จ กายสฺสฯ กตมาหิ ปญฺจหิ? สทฺธาย วฑฺฒติ, สีเลน วฑฺฒติ, สุเตน วฑฺฒติ, จาเคน วฑฺฒติ, ปญฺญาย วฑฺฒติ – อิมาหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ วฑฺฒีหิ วฑฺฒมานา อริยสาวิกา อริยาย วฑฺฒิยา วฑฺฒติ, สาราทายินี จ โหติ วราทายินี จ กายสฺสา’’ติฯ
‘‘สทฺธาย สีเลน จ ยา ปวฑฺฒติ [ยาธ วฑฺฒติ (สี.)],
ปญฺญาย จาเคน สุเตน จูภยํ;
สา ตาทิสี สีลวตี อุปาสิกา,
อาทียตี สารมิเธว อตฺตโน’’ติฯ จตุตฺถํ;
5. สากจฺฉสุตฺตํ
[65] [อ. นิ. 5.164] ‘‘ปญฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํสากจฺโฉ สพฺรหฺมจารีนํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อตฺตนา จ สีลสมฺปนฺโน โหติ, สีลสมฺปทาย กถาย จ อาคตํ ปญฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ สมาธิสมฺปนฺโน โหติ, สมาธิสมฺปทาย กถาย จ อาคตํ ปญฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ ปญฺญาสมฺปนฺโน โหติ, ปญฺญาสมฺปทาย กถาย จ อาคตํ ปญฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติสมฺปทาย กถาย จ อาคตํ ปญฺหํ พฺยากตฺตา โหติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปนฺโน โหติ, วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปทาย กถาย จ อาคตํ ปญฺหํ พฺยากตฺตา โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อลํสากจฺโฉ สพฺรหฺมจารีน’’นฺติฯ ปญฺจมํฯ