‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจิเม อาทีนวา มาตุคาเมฯ กตเม ปญฺจ? โกธโน, อุปนาหี, โฆรวิโส, ทุชฺชิวฺโห, มิตฺตทุพฺภีฯ ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส โฆรวิสตา – เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ติพฺพราโคฯ ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส ทุชฺชิวฺหตา – เยภุยฺเยน, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปิสุณวาโจฯ ตตฺริทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส มิตฺตทุพฺภิตา – เยภุยฺเยน , ภิกฺขเว, มาตุคาโม อติจารินีฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา มาตุคาเม’’ติฯ ทสมํฯ
ทีฆจาริกวคฺโค ตติโยฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว ทีฆจาริกา วุตฺตา, อตินิวาสมจฺฉรี;
ทฺเว จ กุลูปกา โภคา, ภตฺตํ สปฺปาปเร ทุเวติฯ
(24) 4. อาวาสิกวคฺโค
1. อาวาสิกสุตฺตํ
[231] ‘‘ปญฺจหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อภาวนีโย โหติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? น อากปฺปสมฺปนฺโน โหติ น วตฺตสมฺปนฺโน; น พหุสฺสุโต โหติ น สุตธโร; น ปฏิสลฺเลขิตา [สลฺเลขิตา (ก. สี.)] โหติ น ปฏิสลฺลานาราโม; น กลฺยาณวาโจ โหติ น กลฺยาณวากฺกรโณ; ทุปฺปญฺโญ โหติ ชโฬ เอฬมูโคฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อภาวนีโย โหติฯ
‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ภาวนีโย โหติฯ
กตเมหิ ปญฺจหิ? อากปฺปสมฺปนฺโน โหติ วตฺตสมฺปนฺโน; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร; ปฏิสลฺเลขิตา โหติ ปฏิสลฺลานาราโม; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ; ปญฺญวา โหติ อชโฬ อเนฬมูโคฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ ภาวนีโย โหตี’’ติฯ ปฐมํฯ
2. ปิยสุตฺตํ
[232] ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จฯ
‘‘กตเมหิ ปญฺจหิ? สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา ; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภี; อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ สพฺรหฺมจารีนํ ปิโย จ โหติ มนาโป จ ครุ จ ภาวนีโย จา’’ติฯ ทุติยํฯ
3. โสภนสุตฺตํ
[233] ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อาวาสํ โสเภติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สีลวา โหติ…เป.… สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ; พหุสฺสุโต โหติ…เป.… ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา; กลฺยาณวาโจ โหติ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฏฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา; ปฏิพโล โหติ อุปสงฺกมนฺเต ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุํ; จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อาวาสิโก ภิกฺขุ อาวาสํ โสเภตี’’ติฯ ตติยํฯ