‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สีลวา สีลสมฺปนฺโน อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติฯ อยํ, ภิกฺขเว, จตุตฺโถ อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทายฯ

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สีลวา สีลสมฺปนฺโน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ อยํ, ภิกฺขเว, ปญฺจโม อานิสํโส สีลวโต สีลสมฺปทายฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อานิสํสา สีลวโต สีลสมฺปทายา’’ติฯ ตติยํฯ

4. พหุภาณิสุตฺตํ

[214] ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา พหุภาณิสฺมิํ ปุคฺคเลฯ กตเม ปญฺจ? มุสา ภณติ, ปิสุณํ ภณติ, ผรุสํ ภณติ, สมฺผปฺปลาปํ ภณติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา พหุภาณิสฺมิํ ปุคฺคเลฯ

‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา มนฺตภาณิสฺมิํ ปุคฺคเลฯ กตเม ปญฺจ? น มุสา ภณติ, น ปิสุณํ ภณติ, น ผรุสํ ภณติ, น สมฺผปฺปลาปํ ภณติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อานิสํสา มนฺตภาณิสฺมิํ ปุคฺคเล’’ติฯ จตุตฺถํฯ

5. ปฐมอกฺขนฺติสุตฺตํ

[215] ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา อกฺขนฺติยาฯ กตเม ปญฺจ? พหุโน ชนสฺส อปฺปิโย โหติ อมนาโป, เวรพหุโล จ โหติ, วชฺชพหุโล จ, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา อกฺขนฺติยาฯ

‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา ขนฺติยาฯ กตเม ปญฺจ? พหุโน ชนสฺส ปิโย โหติ มนาโป, น เวรพหุโล โหติ, น วชฺชพหุโล, อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อานิสํสา ขนฺติยา’’ติฯ ปญฺจมํฯ

6. ทุติยอกฺขนฺติสุตฺตํ

[216] ‘‘ปญฺจิเม , ภิกฺขเว, อาทีนวา อกฺขนฺติยาฯ กตเม ปญฺจ? พหุโน ชนสฺส อปฺปิโย โหติ อมนาโป, ลุทฺโท จ โหติ, วิปฺปฏิสารี จ, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา อกฺขนฺติยาฯ

‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา ขนฺติยาฯ กตเม ปญฺจ? พหุโน ชนสฺส ปิโย โหติ มนาโป, อลุทฺโท จ โหติ, อวิปฺปฏิสารี จ, อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อานิสํสา ขนฺติยา’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. ปฐมอปาสาทิกสุตฺตํ

[217] ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา อปาสาทิเกฯ กตเม ปญฺจ? อตฺตาปิ อตฺตานํ อุปวทติ, อนุวิจฺจ วิญฺญู ครหนฺติ, ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา อปาสาทิเกฯ

‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา ปาสาทิเก ฯ กตเม ปญฺจ? อตฺตาปิ อตฺตานํ น อุปวทติ, อนุวิจฺจ วิญฺญู ปสํสนฺติ, กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อานิสํสา ปาสาทิเก’’ติฯ สตฺตมํฯ

8. ทุติยอปาสาทิกสุตฺตํ

[218] ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา อปาสาทิเกฯ กตเม ปญฺจ? อปฺปสนฺนา นปฺปสีทนฺติ, ปสนฺนานญฺจ เอกจฺจานํ อญฺญถตฺตํ โหติ, สตฺถุสาสนํ อกตํ [น กตํ (สฺยา. กํ. ก.)] โหติ, ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺฐานุคติํ อาปชฺชติ, จิตฺตมสฺส นปฺปสีทติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา อปาสาทิเกฯ

‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา ปาสาทิเกฯ กตเม ปญฺจ? อปฺปสนฺนา ปสีทนฺติ, ปสนฺนานญฺจ ภิยฺโยภาโว โหติ, สตฺถุสาสนํ กตํ โหติ, ปจฺฉิมา ชนตา ทิฏฺฐานุคติํ อาปชฺชติ, จิตฺตมสฺส ปสีทติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อานิสํสา ปาสาทิเก’’ติฯ อฏฺฐมํฯ