เมนู

8. สีลสุตฺตํ

[168] ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ทุสฺสีลสฺส, อาวุโส, สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตญาณทสฺสนํ; ยถาภูตญาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตญาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสนํฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข สาขาปลาสวิปนฺโนฯ ตสฺส ปปฏิกาปิ น ปาริปูริํ คจฺฉติ, ตโจปิ …เป.… เผคฺคุปิ… สาโรปิ น ปาริปูริํ คจฺฉติฯ เอวเมวํ โข, อาวุโส, ทุสฺสีลสฺส สีลวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ อสติ สมฺมาสมาธิวิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ ยถาภูตญาณทสฺสนํ; ยถาภูตญาณทสฺสเน อสติ ยถาภูตญาณทสฺสนวิปนฺนสฺส หตูปนิโส โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค อสติ นิพฺพิทาวิราควิปนฺนสฺส หตูปนิสํ โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสนํฯ

‘‘สีลวโต, อาวุโส, สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตญาณทสฺสนํ; ยถาภูตญาณทสฺสเน สติ ยถาภูตญาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสนํฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส, รุกฺโข, สาขาปลาสสมฺปนฺโนฯ ตสฺส ปปฏิกาปิ ปาริปูริํ คจฺฉติ, ตโจปิ…เป.… เผคฺคุปิ… สาโรปิ ปาริปูริํ คจฺฉติฯ เอวเมวํ โข, อาวุโส, สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ สมฺมาสมาธิ; สมฺมาสมาธิมฺหิ สติ สมฺมาสมาธิสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ ยถาภูตญาณทสฺสนํ; ยถาภูตญาณทสฺสเน สติ ยถาภูตญาณทสฺสนสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺโน โหติ นิพฺพิทาวิราโค; นิพฺพิทาวิราเค สติ นิพฺพิทาวิราคสมฺปนฺนสฺส อุปนิสสมฺปนฺนํ โหติ วิมุตฺติญาณทสฺสน’’นฺติ [อ. นิ. 5.168; 6.50; 7.65]ฯ อฏฺฐมํฯ

9. ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตํ

[169] อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยนายสฺมา สาริปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺเตน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ [สาราณียํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ, กุสเลสุ ธมฺเมสุ สุคฺคหิตคฺคาหี จ, พหุญฺจ คณฺหาติ, คหิตญฺจสฺส นปฺปมุสฺสตี’’ติ? ‘‘อายสฺมา โข อานนฺโท พหุสฺสุโตฯ ปฏิภาตุ อายสฺมนฺตํเยว อานนฺท’’นฺติฯ

‘‘เตนหาวุโส สาริปุตฺต, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจสฺโสสิฯ อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ –

‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺถกุสโล จ โหติ, ธมฺมกุสโล จ, พฺยญฺชนกุสโล จ , นิรุตฺติกุสโล จ, ปุพฺพาปรกุสโล จฯ เอตฺตาวตา โข , อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ, สุคฺคหิตคฺคาหี จ, พหุญฺจ คณฺหาติ, คหิตญฺจสฺส นปฺปมุสฺสตี’’ติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส! อพฺภุตํ, อาวุโส!! ยาว สุภาสิตํ จิทํ อายสฺมตา อานนฺเทนฯ อิเมหิ จ มยํ ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ธาเรม – ‘อายสฺมา อานนฺโท อตฺถกุสโล ธมฺมกุสโล พฺยญฺชนกุสโล นิรุตฺติกุสโล ปุพฺพาปรกุสโล’’’ติฯ นวมํฯ

10. ภทฺทชิสุตฺตํ

[170] เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท โกสมฺพิยํ วิหรติ โฆสิตาราเมฯ อถ โข อายสฺมา ภทฺทชิ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภทฺทชิํ อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ – ‘‘กิํ นุ โข, อาวุโส ภทฺทชิ, ทสฺสนานํ อคฺคํ, กิํ สวนานํ อคฺคํ, กิํ สุขานํ อคฺคํ, กิํ สญฺญานํ อคฺคํ, กิํ ภวานํ อคฺค’’นฺติ?

‘‘อตฺถาวุโส, พฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตี, โย ตํ พฺรหฺมานํ ปสฺสติ, อิทํ ทสฺสนานํ อคฺคํฯ อตฺถาวุโส, อาภสฺสรา นาม เทวา สุเขน อภิสนฺนา ปริสนฺนาฯ เต กทาจิ กรหจิ อุทานํ อุทาเนนฺติ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ! โย ตํ สทฺทํ สุณาติ, อิทํ สวนานํ อคฺคํฯ อตฺถาวุโส, สุภกิณฺหา นาม เทวาฯ เต สนฺตํเยว ตุสิตา สุขํ ปฏิเวเทนฺติ, อิทํ สุขานํ อคฺคํฯ อตฺถาวุโส, อากิญฺจญฺญายตนูปคา เทวา, อิทํ สญฺญานํ อคฺคํฯ อตฺถาวุโส, เนวสญฺญานาสญฺญายตนูปคา เทวา, อิทํ ภวานํ อคฺค’’นฺติฯ ‘‘สเมติ โข อิทํ อายสฺมโต ภทฺทชิสฺส, ยทิทํ พหุนา ชเนนา’’ติ?