เมนู

‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขุ, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิโก ธมฺมราชา ธมฺมญฺเญว นิสฺสาย ธมฺมํ สกฺกโรนฺโต ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโต ธมฺมํ อปจายมาโน ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ ธมฺมาธิปเตยฺโย ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺติํ สํวิทหติ ภิกฺขุนีสุ [ภิกฺขูสุ ภิกฺขุนีสุ (สี. ปี.)] …เป.… อุปาสเกสุ…เป.… อุปาสิกาสุ – ‘เอวรูปํ กายกมฺมํ เสวิตพฺพํ, เอวรูปํ กายกมฺมํ น เสวิตพฺพํ; เอวรูปํ วจีกมฺมํ เสวิตพฺพํ, เอวรูปํ วจีกมฺมํ น เสวิตพฺพํ; เอวรูปํ มโนกมฺมํ เสวิตพฺพํ, เอวรูปํ มโนกมฺมํ น เสวิตพฺพํ; เอวรูโป อาชีโว เสวิตพฺโพ, เอวรูโป อาชีโว น เสวิตพฺโพ; เอวรูโป คามนิคโม เสวิตพฺโพ, เอวรูโป คามนิคโม น เสวิตพฺโพ’’’ติฯ

‘‘ส โข โส, ภิกฺขุ, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ธมฺมิโก ธมฺมราชา ธมฺมญฺเญว นิสฺสาย ธมฺมํ สกฺกโรนฺโต ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโต ธมฺมํ อปจายมาโน ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ ธมฺมาธิปเตยฺโย ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺติํ สํวิทหิตฺวา ภิกฺขูสุ, ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺติํ สํวิทหิตฺวา ภิกฺขุนีสุ, ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺติํ สํวิทหิตฺวา อุปาสเกสุ, ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺติํ สํวิทหิตฺวา อุปาสิกาสุ ธมฺเมเนว อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตติ; ตํ โหติ จกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยํ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิ’’นฺติฯ ตติยํฯ

4. ยสฺสํทิสํสุตฺตํ

[134] ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต ยสฺสํ ยสฺสํ ทิสายํ วิหรติ, สกสฺมิํเยว วิชิเต วิหรติฯ

‘‘กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก, ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน; อฑฺโฒ โหติ มหทฺธโน มหาโภโค ปริปุณฺณโกสโกฏฺฐาคาโร; พลวา โข ปน โหติ จตุรงฺคินิยา เสนาย สมนฺนาคโต อสฺสวาย โอวาทปฏิกราย; ปริณายโก โข ปนสฺส โหติ ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี ปฏิพโล อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเน อตฺเถ จินฺเตตุํ; ตสฺสิเม จตฺตาโร ธมฺมา ยสํ ปริปาเจนฺติฯ

โส อิมินา ยสปญฺจเมน [ยเสน ปญฺจเมน (ก.), ปญฺจเมน (สี.)] ธมฺเมน สมนฺนาคโต ยสฺสํ ยสฺสํ ทิสายํ วิหรติ, สกสฺมิํเยว วิชิเต วิหรติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ วิชิตาวีนํฯ

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ยสฺสํ ยสฺสํ ทิสายํ วิหรติ, วิมุตฺตจิตฺโตว [วิมุตฺตจิตฺโต (สี. ปี.), วิมุตฺตจิตฺโต จ (ก.)] วิหรติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ – ราชาว ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต ชาติสมฺปนฺโน; พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโย, เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา มชฺเฌกลฺยาณา ปริโยสานกลฺยาณา สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺติ, ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธา – ราชาว ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปริปุณฺณโกสโกฏฺฐาคาโร; อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ – ราชาว ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต พลสมฺปนฺโน; ปญฺญวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยา – ราชาว ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต ปริณายกสมฺปนฺโน; ตสฺสิเม จตฺตาโร ธมฺมา วิมุตฺติํ ปริปาเจนฺติ ฯ โส อิมินา วิมุตฺติปญฺจเมน ธมฺเมน สมนฺนาคโต ยสฺสํ ยสฺสํ ทิสายํ วิหรติ วิมุตฺตจิตฺโตว วิหรติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวญฺเหตํ, ภิกฺขเว, โหติ วิมุตฺตจิตฺตาน’’นฺติฯ จตุตฺถํฯ

5. ปฐมปตฺถนาสุตฺตํ

[135] ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต รญฺโญ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส เชฏฺโฐ ปุตฺโต รชฺชํ ปตฺเถติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, รญฺโญ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส เชฏฺโฐ ปุตฺโต อุภโต สุชาโต โหติ มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก, ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทน; อภิรูโป โหติ ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต; มาตาปิตูนํ ปิโย โหติ มนาโป; เนคมชานปทสฺส ปิโย โหติ มนาโป; ยานิ ตานิ รญฺญํ ขตฺติยานํ มุทฺธาวสิตฺตานํ สิปฺปฏฺฐานานิ หตฺถิสฺมิํ วา อสฺสสฺมิํ วา รถสฺมิํ วา ธนุสฺมิํ วา ถรุสฺมิํ วา ตตฺถ สิกฺขิโต โหติ อนวโยฯ

‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘อหํ โขมฺหิ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก, ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโฐ ชาติวาเทนฯ กสฺมาหํ รชฺชํ น ปตฺเถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโตฯ กสฺมาหํ รชฺชํ น ปตฺเถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ มาตาปิตูนํ ปิโย มนาโปฯ กสฺมาหํ รชฺชํ น ปตฺเถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ เนคมชานปทสฺส ปิโย มนาโปฯ กสฺมาหํ รชฺชํ น ปตฺเถยฺยํ! อหํ โขมฺหิ ยานิ ตานิ รญฺญํ ขตฺติยานํ มุทฺธาวสิตฺตานํ สิปฺปฏฺฐานานิ หตฺถิสฺมิํ วา อสฺสสฺมิํ วา รถสฺมิํ วา ธนุสฺมิํ วา ถรุสฺมิํ วา, ตตฺถ [ตตฺถมฺหิ (สี.), ตตฺถปิ (ก.)] สิกฺขิโต อนวโยฯ กสฺมาหํ รชฺชํ น ปตฺเถยฺย’นฺติ! อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต รญฺโญ ขตฺติยสฺส มุทฺธาวสิตฺตสฺส เชฏฺโฐ ปุตฺโต รชฺชํ ปตฺเถติฯ

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อาสวานํ ขยํ ปตฺเถติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สทฺโธ โหติ, สทฺทหติ ตถาคตสฺส โพธิํ – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’ติฯ อปฺปาพาโธ โหติ อปฺปาตงฺโก, สมเวปากินิยา คหณิยา สมนฺนาคโต นาติสีตาย นาจฺจุณฺหาย มชฺฌิมาย ปธานกฺขมาย; อสโฐ โหติ อมายาวี, ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกตฺตา สตฺถริ วา วิญฺญูสุ วา สพฺรหฺมจารีสุ; อารทฺธวีริโย วิหรติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธมฺเมสุ; ปญฺญวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิพฺเพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ