เมนู

‘‘ยํ กิญฺจิ [ยํ กิญฺจิ (สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ ทุพฺพลํ [ภิกฺขเว ทุพฺพลํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] คิลานกํ ปญฺจ ธมฺมา น วิชหนฺติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘นจิรสฺเสว อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสตี’’’ติฯ

‘‘กตเม ปญฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรติ, อาหาเร ปฏิกูลสญฺญี, สพฺพโลเก อนภิรตสญฺญี [สพฺพตฺถปิ เอวเมว ทิสฺสติ], สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสี, มรณสญฺญา โข ปนสฺส อชฺฌตฺตํ สูปฏฺฐิตา โหติฯ ยํ กิญฺจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ ทุพฺพลํ คิลานกํ อิเม ปญฺจ ธมฺมา น วิชหนฺติ, ตสฺเสตํ ปาฏิกงฺขํ – ‘นจิรสฺเสว อาสวานํ ขยา…เป.… สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสตี’’’ติฯ ปฐมํฯ

2. สติสูปฏฺฐิตสุตฺตํ

[122] ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา ปญฺจ ธมฺเม ภาเวติ ปญฺจ ธมฺเม พหุลีกโรติ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อญฺญตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเฐว ธมฺเม อญฺญา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตาฯ

‘‘กตเม ปญฺจ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อชฺฌตฺตญฺเญว สติ สูปฏฺฐิตา โหติ ธมฺมานํ อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย, อสุภานุปสฺสี กาเย วิหรติ, อาหาเร ปฏิกูลสญฺญี, สพฺพโลเก อนภิรตสญฺญี, สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจานุปสฺสีฯ โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา อิเม ปญฺจ ธมฺเม ภาเวติ อิเม ปญฺจ ธมฺเม พหุลีกโรติ, ตสฺส ทฺวินฺนํ ผลานํ อญฺญตรํ ผลํ ปาฏิกงฺขํ – ทิฏฺเฐว ธมฺเม อญฺญา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติฯ ทุติยํฯ

3. ปฐมอุปฏฺฐากสุตฺตํ

[123] ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต คิลาโน ทูปฏฺฐาโก [ทุปฏฺฐาโก (สฺยา. กํ. ปี. ก.) มหาว. 366] โหติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อสปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ น ชานาติ, เภสชฺชํ นปฺปฏิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฏฺฐากสฺส น ยถาภูตํ อาพาธํ อาวิกตฺตา โหติ อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ ปฏิกฺกมนฺตํ วา ปฏิกฺกมตีติ ฐิตํ วา ฐิโตติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ [ติปฺปานํ (สี.) มหาว. 366] ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อนธิวาสกชาติโก โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต คิลาโน ทูปฏฺฐาโก โหติฯ

‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต คิลาโน สูปฏฺฐาโก โหติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สปฺปายการี โหติ, สปฺปาเย มตฺตํ ชานาติ, เภสชฺชํ ปฏิเสวิตา โหติ, อตฺถกามสฺส คิลานุปฏฺฐากสฺส ยถาภูตํ อาพาธํ อาวิกตฺตา โหติ อภิกฺกมนฺตํ วา อภิกฺกมตีติ ปฏิกฺกมนฺตํ วา ปฏิกฺกมตีติ ฐิตํ วา ฐิโตติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต คิลาโน สูปฏฺฐาโก โหตี’’ติฯ ตติยํฯ

4. ทุติยอุปฏฺฐากสุตฺตํ

[124] ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺฐาโก นาลํ คิลานํ อุปฏฺฐาตุํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? นปฺปฏิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ; สปฺปายาสปฺปายํ น ชานาติ, อสปฺปายํ อุปนาเมติ, สปฺปายํ อปนาเมติ; อามิสนฺตโร คิลานํ อุปฏฺฐาติ, โน เมตฺตจิตฺโต ; เชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา วนฺตํ วา เขฬํ วา นีหริตุํ; นปฺปฏิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ [สมาทาเปตุํ (?) มหาว. 366] สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุํฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺฐาโก นาลํ คิลานํ อุปฏฺฐาตุํฯ

‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺฐาโก อลํ คิลานํ อุปฏฺฐาตุํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? ปฏิพโล โหติ เภสชฺชํ สํวิธาตุํ; สปฺปายาสปฺปายํ ชานาติ, อสปฺปายํ อปนาเมติ, สปฺปายํ อุปนาเมติ; เมตฺตจิตฺโต คิลานํ อุปฏฺฐาติ, โน อามิสนฺตโร; อเชคุจฺฉี โหติ อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา วนฺตํ วา เขฬํ วา นีหริตุํ; ปฏิพโล โหติ คิลานํ กาเลน กาลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตุํ สมาทเปตุํ สมุตฺเตเชตุํ สมฺปหํเสตุํฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต คิลานุปฏฺฐาโก อลํ คิลานํ อุปฏฺฐาตุ’’นฺติฯ จตุตฺถํฯ