เมนู

3. พฺรหฺมสุตฺตํ

[63] ‘‘สพฺรหฺมกานิ, ภิกฺขเว [อิติวุ. 106], ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติฯ สปุพฺพาจริยกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ , เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติฯ สปุพฺพเทวตานิ [สปุพฺพเทวานิ (สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติฯ สาหุเนยฺยกานิ, ภิกฺขเว, ตานิ กุลานิ เยสํ ปุตฺตานํ มาตาปิตโร อชฺฌาคาเร ปูชิตา โหนฺติฯ

‘‘พฺรหฺมาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ [มาตาปิตุนฺนํ (สี. ปี.)] เอตํ อธิวจนํฯ ปุพฺพาจริยาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํฯ ปุพฺพเทวตาติ [ปุพฺพเทวาติ (สี. สฺยา. กํ.)], ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํฯ อาหุเนยฺยาติ, ภิกฺขเว, มาตาปิตูนํ เอตํ อธิวจนํฯ ตํ กิสฺส เหตุ? พหุการา, ภิกฺขเว, มาตาปิตโร, ปุตฺตานํ อาปาทกา โปสกา อิมสฺส โลกสฺส ทสฺเสตาโร’’ติฯ

‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร, ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร;

อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ, ปชาย อนุกมฺปกาฯ

‘‘ตสฺมา หิ เน นมสฺเสยฺย, สกฺกเรยฺย จ ปณฺฑิโต;

อนฺเนน อถ ปาเนน, วตฺเถน สยเนน จ;

อุจฺฉาทเนน นฺหาปเนน, ปาทานํ โธวเนน จฯ

‘‘ตาย นํ ปาริจริยาย, มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;

อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติฯ ตติยํ;

4. นิรยสุตฺตํ

[64] ‘‘จตูหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยฯ กตเมหิ จตูหิ? ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, จตูหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’ติฯ

‘‘ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ, มุสาวาโท จ วุจฺจติ;

ปรทารคมนญฺจาปิ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา’’ติฯ จตุตฺถํ;

5. รูปสุตฺตํ

[65] ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสนฺโน, โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสนฺโน , ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสนฺโน, ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสนฺโน – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติฯ

‘‘เย จ รูเป ปมาณิํสุ [เย จ รูเปน ปามิํสุ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], เย จ โฆเสน อนฺวคู;

ฉนฺทราควสูเปตา, นาภิชานนฺติ เต ชนา [น เต ชานนฺติ ตํ ชนา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]

‘‘อชฺฌตฺตญฺจ น ชานาติ, พหิทฺธา จ น ปสฺสติ;

สมนฺตาวรโณ พาโล, ส เว โฆเสน วุยฺหติฯ

‘‘อชฺฌตฺตญฺจ น ชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสติ;

พหิทฺธา ผลทสฺสาวี, โสปิ โฆเสน วุยฺหติฯ

‘‘อชฺฌตฺตญฺจ ปชานาติ, พหิทฺธา จ วิปสฺสติ;

วินีวรณทสฺสาวี, น โส โฆเสน วุยฺหตี’’ติฯ ปญฺจมํ;

6. สราคสุตฺตํ

[66] ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? สราโค, สโทโส, สโมโห, สมาโน – อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติฯ

‘‘สารตฺตา รชนีเยสุ, ปิยรูปาภินนฺทิโน;

โมเหน อาวุตา [อธมา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] สตฺตา, พทฺธา [พนฺธา (ก.)] วฑฺเฒนฺติ พนฺธนํฯ

‘‘ราคชํ โทสชญฺจาปิ, โมหชํ จาปวิทฺทสู;

กโรนฺตากุสลํ กมฺมํ [ธมฺมํ (ก.)], สวิฆาตํ ทุขุทฺรยํฯ

‘‘อวิชฺชานิวุตา โปสา, อนฺธภูตา อจกฺขุกา;

ยถา ธมฺมา ตถา สนฺตา, น ตสฺเสวนฺติ [นสฺเสวนฺติ (สี.)] มญฺญเร’’ติฯ ฉฏฺฐํ;