‘‘โก นุ โข, ภิกฺขเว, อุปฏฺฐานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายา’’ติ ? ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, วิสาโข ปญฺจาลปุตฺโต อุปฏฺฐานสาลายํ ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายา’’ติฯ
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ วิสาขํ ปญฺจาลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ สาธุ, วิสาข! สาธุ โข ตฺวํ, วิสาข, ภิกฺขู ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ โปริยา วาจาย วิสฺสฏฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา ปริยาปนฺนาย อนิสฺสิตายาติฯ
‘‘นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ;
ภาสมานญฺจ ชานนฺติ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํฯ
‘‘ภาสเย โชตเย ธมฺมํ, ปคฺคณฺเห อิสินํ ธชํ;
สุภาสิตธชา อิสโย, ธมฺโม หิ อิสินํ ธโช’’ติฯ อฏฺฐมํ;
9. วิปลฺลาสสุตฺตํ
[49] ‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, สญฺญาวิปลฺลาสา จิตฺตวิปลฺลาสา ทิฏฺฐิวิปลฺลาสา ฯ กตเม จตฺตาโร? อนิจฺเจ, ภิกฺขเว, นิจฺจนฺติ สญฺญาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺฐิวิปลฺลาโส; ทุกฺเข, ภิกฺขเว, สุขนฺติ สญฺญาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺฐิวิปลฺลาโส; อนตฺตนิ, ภิกฺขเว, อตฺตาติ สญฺญาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺฐิวิปลฺลาโส; อสุเภ, ภิกฺขเว, สุภนฺติ สญฺญาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺฐิวิปลฺลาโสฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร สญฺญาวิปลฺลาสา จิตฺตวิปลฺลาสา ทิฏฺฐิวิปลฺลาสาฯ
‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, นสญฺญาวิปลฺลาสา นจิตฺตวิปลฺลาสา นทิฏฺฐิวิปลฺลาสาฯ
กตเม จตฺตาโร? อนิจฺเจ, ภิกฺขเว, อนิจฺจนฺติ นสญฺญาวิปลฺลาโส นจิตฺตวิปลฺลาโส นทิฏฺฐิวิปลฺลาโส; ทุกฺเข, ภิกฺขเว, ทุกฺขนฺติ นสญฺญาวิปลฺลาโส นจิตฺตวิปลฺลาโส นทิฏฺฐิวิปลฺลาโส; อนตฺตนิ, ภิกฺขเว, อนตฺตาติ นสญฺญาวิปลฺลาโส นจิตฺตวิปลฺลาโส นทิฏฺฐิวิปลฺลาโส; อสุเภ, ภิกฺขเว, อสุภนฺติ นสญฺญาวิปลฺลาโส นจิตฺตวิปลฺลาโส นทิฏฺฐิวิปลฺลาโส ฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร นสญฺญาวิปลฺลาสา นจิตฺตวิปลฺลาสา นทิฏฺฐิวิปลฺลาสา’’ติฯ
‘‘อนิจฺเจ นิจฺจสญฺญิโน, ทุกฺเข จ สุขสญฺญิโน;
อนตฺตนิ จ อตฺตาติ, อสุเภ สุภสญฺญิโน;
มิจฺฉาทิฏฺฐิหตา สตฺตา, ขิตฺตจิตฺตา วิสญฺญิโนฯ
‘‘เต โยคยุตฺตา มารสฺส, อโยคกฺเขมิโน ชนา;
สตฺตา คจฺฉนฺติ สํสารํ, ชาติมรณคามิโนฯ
‘‘ยทา จ พุทฺธา โลกสฺมิํ, อุปฺปชฺชนฺติ ปภงฺกรา;
เต อิมํ ธมฺมํ [เตมํ ธมฺมํ (สี. สฺยา. กํ.)] ปกาเสนฺติ, ทุกฺขูปสมคามินํฯ
‘‘เตสํ สุตฺวาน สปฺปญฺญา, สจิตฺตํ ปจฺจลทฺธา เต;
อนิจฺจํ อนิจฺจโต ทกฺขุํ, ทุกฺขมทฺทกฺขุ ทุกฺขโตฯ
‘‘อนตฺตนิ อนตฺตาติ, อสุภํ อสุภตทฺทสุํ;
สมฺมาทิฏฺฐิสมาทานา, สพฺพํ ทุกฺขํ อุปจฺจคุ’’นฺติ [ปฏิ. ม. 1.236]ฯ นวมํ;
10. อุปกฺกิเลสสุตฺตํ
[50] ‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว [จูฬว. 447], จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลสา, เยหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺฐา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติฯ กตเม จตฺตาโร? อพฺภา, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลสา, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺฐา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติฯ
‘‘มหิกา, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลสา, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺฐา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติฯ
‘‘ธูโม รโช, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลโส, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺฐา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติฯ
‘‘ราหุ , ภิกฺขเว, อสุรินฺโท จนฺทิมสูริยานํ อุปกฺกิเลโส, เยน อุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺฐา จนฺทิมสูริยา น ตปนฺติ น ภาสนฺติ น วิโรจนฺติฯ