‘‘คมเนน น ปตฺตพฺโพ, โลกสฺสนฺโต กุทาจนํ;
น จ อปฺปตฺวา โลกนฺตํ, ทุกฺขา อตฺถิ ปโมจนํฯ
‘‘ตสฺมา หเว โลกวิทู สุเมโธ,
โลกนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย;
โลกสฺส อนฺตํ สมิตาวิ ญตฺวา,
นาสีสตี [นาสิํสตี (สี.)] โลกมิมํ ปรญฺจา’’ติฯ ปญฺจมํ;
6. ทุติยโรหิตสฺสสุตฺตํ
[46] อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺติํ โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺโณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข , ภิกฺขเว, โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘ยตฺถ นุ โข, ภนฺเต [สํ. นิ. 1.107], น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, สกฺกา นุ โข โส, ภนฺเต, คมเนน โลกสฺส อนฺโต ญาตุํ วา ทฏฺฐุํ วา ปาปุณิตุํ วา’ติ? เอวํ วุตฺเต อหํ, ภิกฺขเว, โรหิตสฺสํ เทวปุตฺตํ เอตทโวจํ – ‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ญาเตยฺยํ ทฏฺเฐยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’ติฯ เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต มํ เอตทโวจ – ‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาว สุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ญาเตยฺยํ ทฏฺเฐยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามิ’’’ฯ
‘‘ภูตปุพฺพาหํ, ภนฺเต, โรหิตสฺโส นาม อิสิ อโหสิํ โภชปุตฺโต อิทฺธิมา เวหาสงฺคโมฯ