‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทฏฺฐา ทฏฺฐพฺพํ, ทิฏฺฐํ น มญฺญติ, อทิฏฺฐํ น มญฺญติ, ทฏฺฐพฺพํ น มญฺญติ, ทฏฺฐารํ น มญฺญติ; สุตฺวา โสตพฺพํ, สุตํ น มญฺญติ, อสุตํ น มญฺญติ, โสตพฺพํ น มญฺญติ, โสตารํ น มญฺญติ; มุตฺวา โมตพฺพํ, มุตํ น มญฺญติ, อมุตํ น มญฺญติ, โมตพฺพํ น มญฺญติ, โมตารํ น มญฺญติ; วิญฺญตฺวา วิญฺญาตพฺพํ, วิญฺญาตํ น มญฺญติ, อวิญฺญาตํ น มญฺญติ, วิญฺญาตพฺพํ น มญฺญติ, วิญฺญาตารํ น มญฺญติฯ อิติ โข, ภิกฺขเว, ตถาคโต ทิฏฺฐสุตมุตวิญฺญาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ ตาทีเยว ตาที [ตาทิโสว ตาที (สฺยา. กํ.), ตาทิเส เยว ตาที (ปี.), ตาทีเยว ตาทีเยเวกา (ก.)]ฯ ตมฺหา จ ปน ตาทิมฺหา [ตาทิตมฺหา (สี. ปี.)] อญฺโญ ตาที อุตฺตริตโร วา ปณีตตโร วา นตฺถีติ วทามี’’ติฯ
‘‘ยํ กิญฺจิ ทิฏฺฐํว สุตํ มุตํ วา,
อชฺโฌสิตํ สจฺจมุตํ ปเรสํ;
น เตสุ ตาที สยสํวุเตสุ,
สจฺจํ มุสา วาปิ ปรํ ทเหยฺยฯ
‘‘เอตญฺจ สลฺลํ ปฏิกจฺจ [ปฏิคจฺจ (สี. ปี.)] ทิสฺวา,
อชฺโฌสิตา ยตฺถ ปชา วิสตฺตา;
ชานามิ ปสฺสามิ ตเถว เอตํ,
อชฺโฌสิตํ นตฺถิ ตถาคตาน’’นฺตฺนฺตฺติฯ จตุตฺถํ;
5. พฺรหฺมจริยสุตฺตํ
[25] ‘‘นยิทํ , ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถํ, น ชนลปนตฺถํ, น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ, น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถํ, น ‘อิติ มํ ชโน ชานาตู’ติฯ อถ โข อิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ วิราคตฺถํ นิโรธตฺถ’’นฺติฯ
‘‘สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ, พฺรหฺมจริยํ อนีติหํ;
อเทสยิ โส ภควา, นิพฺพาโนคธคามินํ;
เอส มคฺโค มหนฺเตหิ [มหตฺเตภิ (ก.) อิติวุ. 35], อนุยาโต มเหสิภิฯ
‘‘เย จ ตํ ปฏิปชฺชนฺติ, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;
ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ, สตฺถุสาสนการิโน’’ติฯ ปญฺจมํ;