เมนู

‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา, ยมิทํ [ยมฺปิทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา, ยมิทํ [ยมฺปิทํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา – อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว , กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติฯ ทุติยํฯ

3. โสณกายนสุตฺตํ

[234] อถ โข สิขาโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สิขาโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ปุริมานิ, โภ โคตม, ทิวสานิ ปุริมตรานิ โสณกายโน มาณโว เยนาหํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ เอตทโวจ – ‘สมโณ โคตโม สพฺพกมฺมานํ อกิริยํ ปญฺญเปติ, สพฺพกมฺมานํ โข ปน อกิริยํ ปญฺญเปนฺโต อุจฺเฉทํ อาห โลกสฺส – กมฺมสจฺจายํ [กมฺมสจฺจายี (ก.)], โภ, โลโก กมฺมสมารมฺภฏฺฐายี’’’ติฯ

‘‘ทสฺสนมฺปิ โข อหํ, พฺราหฺมณ, โสณกายนสฺส มาณวสฺส นาภิชานามิ; กุโต ปเนวรูโป กถาสลฺลาโป! จตฺตาริมานิ, พฺราหฺมณ, กมฺมานิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิฯ กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถิ , พฺราหฺมณ, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติฯ

‘‘กตมญฺจ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติฯ โส สพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา สพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชติฯ ตเมนํ สพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ สพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺติฯ โส สพฺยาพชฺเฌหิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโฐ สมาโน สพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทิยติ เอกนฺตทุกฺขํ, เสยฺยถาปิ สตฺตา เนรยิกาฯ อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํฯ

‘‘กตมญฺจ , พฺราหฺมณ, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติฯ โส อพฺยาพชฺฌํ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, อพฺยาพชฺฌํ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา , อพฺยาพชฺฌํ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปชฺชติฯ ตเมนํ อพฺยาพชฺฌํ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ อพฺยาพชฺฌา ผสฺสา ผุสนฺติฯ โส อพฺยาพชฺเฌหิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโฐ สมาโน อพฺยาพชฺฌํ เวทนํ เวทิยติ เอกนฺตสุขํ, เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหาฯ อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํฯ

‘‘กตมญฺจ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขโรติฯ โส สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ วจีสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา, สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ มโนสงฺขารํ อภิสงฺขริตฺวา สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ โลกํ อุปปชฺชติฯ ตเมนํ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ โลกํ อุปปนฺนํ สมานํ สพฺยาพชฺฌาปิ อพฺยาพชฺฌาปิ ผสฺสา ผุสนฺติฯ โส สพฺยาพชฺเฌหิปิ อพฺยาพชฺเฌหิปิ ผสฺเสหิ ผุฏฺโฐ สมาโน สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ เวทนํ เวทิยติ โวกิณฺณสุขทุกฺขํ, เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกาฯ อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํฯ

‘‘กตมญฺจ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ตตฺร, พฺราหฺมณ, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา, ยมิทํ กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ ตสฺส ปหานาย ยา เจตนา – อิทํ วุจฺจติ, พฺราหฺมณ, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติฯ อิมานิ โข, พฺราหฺมณ, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติฯ ตติยํฯ

4. ปฐมสิกฺขาปทสุตฺตํ

[235] ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิฯ กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ , ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติฯ กตมญฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐายี โหติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํฯ

‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฏิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา ปฏิวิรโต โหติฯ อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํฯ

‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ? อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ สพฺยาพชฺฌมฺปิ อพฺยาพชฺฌมฺปิ กายสงฺขารํ อภิสงฺขโรติ…เป.… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํฯ

‘‘กตมญฺจ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติ? ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ…เป.… อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ กมฺมานิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานี’’ติฯ จตุตฺถํฯ

5. ทุติยสิกฺขาปทสุตฺตํ

[236] ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กมฺมานิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานิฯ กตมานิ จตฺตาริ? อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหํ กณฺหวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ สุกฺกํ สุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ กณฺหสุกฺกํ กณฺหสุกฺกวิปากํ; อตฺถิ, ภิกฺขเว, กมฺมํ อกณฺหอสุกฺกํ อกณฺหอสุกฺกวิปากํ กมฺมกฺขยาย สํวตฺตติฯ