เมนู

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ ฐานํ อมนาปํ กาตุํ; ตญฺจ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ – อิมสฺมิํ, ภิกฺขเว, ฐาเน พาโล จ ปณฺฑิโต จ เวทิตพฺโพ ปุริสถาเม ปุริสวีริเย ปุริสปรกฺกเมฯ น, ภิกฺขเว, พาโล อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กิญฺจาปิ โข อิทํ ฐานํ อมนาปํ กาตุํ; อถ จรหิทํ ฐานํ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตตี’ติฯ โส ตํ ฐานํ น กโรติฯ ตสฺส ตํ ฐานํ อกยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติฯ ปณฺฑิโต จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กิญฺจาปิ โข อิทํ ฐานํ อมนาปํ กาตุํ; อถ จรหิทํ ฐานํ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตตี’ติฯ โส ตํ ฐานํ กโรติฯ ตสฺส ตํ ฐานํ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติฯ

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ [ยทิทํ (สฺยา. กํ.)] ฐานํ มนาปํ กาตุํ; ตญฺจ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติ – อิมสฺมิมฺปิ, ภิกฺขเว, ฐาเน พาโล จ ปณฺฑิโต จ เวทิตพฺโพ ปุริสถาเม ปุริสวีริเย ปุริสปรกฺกเมฯ น, ภิกฺขเว, พาโล อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กิญฺจาปิ โข อิทํ ฐานํ มนาปํ กาตุํ; อถ จรหิทํ ฐานํ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตตี’ติฯ โส ตํ ฐานํ กโรติฯ ตสฺส ตํ ฐานํ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตติฯ ปณฺฑิโต จ โข, ภิกฺขเว, อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ – ‘กิญฺจาปิ โข อิทํ ฐานํ มนาปํ กาตุํ; อถ จรหิทํ ฐานํ กยิรมานํ อนตฺถาย สํวตฺตตี’ติฯ โส ตํ ฐานํ น กโรติฯ ตสฺส ตํ ฐานํ อกยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติฯ

‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, ยมิทํ ฐานํ มนาปํ กาตุํ, ตญฺจ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ – อิทํ, ภิกฺขเว, ฐานํ อุภเยเนว กตฺตพฺพํ มญฺญติฯ ยมฺปิทํ ฐานํ มนาปํ กาตุํ, อิมินาปิ นํ กตฺตพฺพํ มญฺญติ; ยมฺปิทํ ฐานํ กยิรมานํ อตฺถาย สํวตฺตติ, อิมินาปิ นํ กตฺตพฺพํ มญฺญติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ฐานํ อุภเยเนว กตฺตพฺพํ มญฺญติฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, จตฺตาริ ฐานานี’’ติฯ ปญฺจมํฯ

6. อปฺปมาทสุตฺตํ

[116] ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, ฐาเนหิ อปฺปมาโท กรณีโยฯ กตเมหิ จตูหิ? กายทุจฺจริตํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, กายสุจริตํ ภาเวถ; ตตฺถ จ มา ปมาทตฺถฯ วจีทุจฺจริตํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, วจีสุจริตํ ภาเวถ; ตตฺถ จ มา ปมาทตฺถฯ มโนทุจฺจริตํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, มโนสุจริตํ ภาเวถ; ตตฺถ จ มา ปมาทตฺถฯ มิจฺฉาทิฏฺฐิํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, สมฺมาทิฏฺฐิํ ภาเวถ ; ตตฺถ จ มา ปมาทตฺถฯ

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน กายทุจฺจริตํ ปหีนํ โหติ กายสุจริตํ ภาวิตํ, วจีทุจฺจริตํ ปหีนํ โหติ วจีสุจริตํ ภาวิตํ, มโนทุจฺจริตํ ปหีนํ โหติ มโนสุจริตํ ภาวิตํ, มิจฺฉาทิฏฺฐิ ปหีนา โหติ สมฺมาทิฏฺฐิ ภาวิตา, โส น ภายติ สมฺปรายิกสฺส มรณสฺสา’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. อารกฺขสุตฺตํ

[117] ‘‘จตูสุ, ภิกฺขเว, ฐาเนสุ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโยฯ กตเมสุ จตูสุ? ‘มา เม รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ รชฺชี’ติ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโย; ‘มา เม โทสนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ ทุสฺสี’ติ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโย; ‘มา เม โมหนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ มุยฺหี’ติ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโย; ‘มา เม มทนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ มชฺชี’ติ อตฺตรูเปน อปฺปมาโท สติ เจตโส อารกฺโข กรณีโยฯ

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน รชนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ น รชฺชติ วีตราคตฺตา, โทสนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ น ทุสฺสติ วีตโทสตฺตา, โมหนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ น มุยฺหติ วีตโมหตฺตา, มทนีเยสุ ธมฺเมสุ จิตฺตํ น มชฺชติ วีตมทตฺตา, โส น ฉมฺภติ น กมฺปติ น เวธติ น สนฺตาสํ อาปชฺชติ, น จ ปน สมณวจนเหตุปิ คจฺฉตี’’ติฯ สตฺตมํฯ