เมนู

4. สรภสุตฺตํ

[65] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน สรโภ นาม ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต โหติ อิมสฺมา ธมฺมวินยาฯ โส ราชคเห ปริสติ [ปริสติํ (สี. ปี.)] เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘‘อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโมฯ อญฺญาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกนฺโต’’ติฯ อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสิํสุฯ อสฺโสสุํ โข เต ภิกฺขู สรภสฺส ปริพฺพาชกสฺส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสมานสฺส – ‘‘อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโมฯ อญฺญาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกนฺโต’’ติฯ

อถ โข เต ภิกฺขู ราชคเห ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘สรโภ นาม, ภนฺเต, ปริพฺพาชโก อจิรปกฺกนฺโต อิมสฺมา ธมฺมวินยาฯ โส ราชคเห ปริสติ เอวํ วาจํ ภาสติ – ‘อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโมฯ อญฺญาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกนฺโต’ติฯ สาธุ ภนฺเต, ภควา เยน สิปฺปินิกาตีรํ [สปฺปินิกาตีรํ (สี. ปี.), สปฺปินิยา ตีรํ (สฺยา. กํ.)] ปริพฺพาชการาโม เยน สรโภ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

อถ โข ภควา สายนฺหสมยํ ปฏิสลฺลานา วุฏฺฐิโต เยน สิปฺปินิกาตีรํ ปริพฺพาชการาโม เยน สรโภ ปริพฺพาชโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ ฯ นิสชฺช โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, สรภ, เอวํ วเทสิ – ‘อญฺญาโต มยา สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโมฯ อญฺญาย จ ปนาหํ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺมํ เอวาหํ ตสฺมา ธมฺมวินยา อปกฺกนฺโต’’’ติ? เอวํ วุตฺเต สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิฯ

ทุติยมฺปิ โข, ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – ‘‘วเทหิ, สรภ, กินฺติ เต อญฺญาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม? สเจ เต อปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ ปริปูเรสฺสามิฯ สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ อนุโมทิสฺสามี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิฯ

ตติยมฺปิ โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจ – (‘‘โย [มยา (สฺยา. กํ. ปี.)] โข สรภ ปญฺญายติ สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม) [( ) สี. โปตฺถเก นตฺถิ] ‘‘วเทหิ, สรภ, กินฺติ เต อญฺญาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม? สเจ เต อปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ ปริปูเรสฺสามิฯ สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, อหํ อนุโมทิสฺสามี’’ติฯ ตติยมฺปิ โข สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหี อโหสิฯ

อถ โข เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยเทว โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, สมณํ โคตมํ ยาเจยฺยาสิ ตเทว เต สมโณ โคตโม ปวาเรติฯ วเทหาวุโส สรภ, กินฺติ เต อญฺญาโต สมณานํ สกฺยปุตฺติกานํ ธมฺโม? สเจ เต อปริปูรํ ภวิสฺสติ, สมโณ โคตโม ปริปูเรสฺสติฯ สเจ ปน เต ปริปูรํ ภวิสฺสติ, สมโณ โคตโม อนุโมทิสฺสตี’’ติฯ เอวํ วุตฺเต สรโภ ปริพฺพาชโก ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิฯ

อถ โข ภควา สรภํ ปริพฺพาชกํ ตุณฺหีภูตํ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฏิภานํ วิทิตฺวา เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ –

‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา [ปริพฺพาชโก (ปี. ก.)], เอวํ วเทยฺย – ‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธา’ติ, ตมหํ ตตฺถ สาธุกํ สมนุยุญฺเชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํฯ โส วต มยา สาธุกํ สมนุยุญฺชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฏฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ ฐานานํ นาญฺญตรํ [อญฺญตรํ (ก.)] ฐานํ นิคจฺเฉยฺย, อญฺเญน วา อญฺญํ ปฏิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต [ตุณฺหีภูโต วา มงฺกุภูโต (สี. สฺยา. กํ.), ตุณฺหีภูโต วา มงฺกุภูโต วา (ปี.)] ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโกฯ

‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘ขีณาสวสฺส เต ปฏิชานโต อิเม อาสวา อปริกฺขีณา’ติ, ตมหํ ตตฺถ สาธุกํ สมนุยุญฺเชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํฯ

โส วต มยา สาธุกํ สมนุยุญฺชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฏฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ ฐานานํ นาญฺญตรํ ฐานํ นิคจฺเฉยฺย, อญฺเญน วา อญฺญํ ปฏิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโกฯ

‘‘โย โข มํ, ปริพฺพาชกา, เอวํ วเทยฺย – ‘ยสฺส โข ปน เต อตฺถาย ธมฺโม เทสิโต, โส น นิยฺยาติ ตกฺกรสฺส สมฺมา ทุกฺขกฺขยายา’ติ, ตมหํ ตตฺถ สาธุกํ สมนุยุญฺเชยฺยํ สมนุคาเหยฺยํ สมนุภาเสยฺยํฯ โส วต มยา สาธุกํ สมนุยุญฺชิยมาโน สมนุคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อฏฺฐานเมตํ อนวกาโส ยํ โส ติณฺณํ ฐานานํ นาญฺญตรํ ฐานํ นิคจฺเฉยฺย, อญฺเญน วา อญฺญํ ปฏิจริสฺสติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมสฺสติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกริสฺสติ, ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิสฺสติ, เสยฺยถาปิ สรโภ ปริพฺพาชโก’’ติฯ อถ โข ภควา สิปฺปินิกาตีเร ปริพฺพาชการาเม ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา เวหาสํ ปกฺกามิฯ

อถ โข เต ปริพฺพาชกา อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต สรภํ ปริพฺพาชกํ สมนฺตโต วาจายสนฺนิโตทเกน [วาจาสตฺติโตทเกน (สี.)] สญฺชมฺภริมกํสุ [สญฺจุมฺภริมกํสุ (ปี., ที. นิ. 1.421) สํ. นิ. 2.243 อุปริปาโฐ วิย] – ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, พฺรหารญฺเญ ชรสิงฺคาโล ‘สีหนาทํ นทิสฺสามี’ติ สิงฺคาลกํเยว [เสคาลกํเยว (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นทติ, เภรณฺฑกํเยว นทติ [เภทณฺฑกํ (ก.)]; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อญฺญตฺเรว สมเณน โคตเมน ‘สีหนาทํ นทิสฺสามี’ติ สิงฺคาลกํเยว นทสิ เภรณฺฑกํเยว นทสิฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, อมฺพุกสญฺจรี [อมฺพกมทฺทรี (สี.)] ‘ปุริสกรวิตํ [ผุสฺสกรวิตํ (สี.), ปุสฺสกรวิตํ (สฺยา. กํ. ปี.)] รวิสฺสามี’ติ อมฺพุกสญฺจริรวิตํเยว รวติ; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อญฺญตฺเรว สมเณน โคตเมน ‘ปุริสกรวิตํ รวิสฺสามี’ติ, อมฺพุกสญฺจริรวิตํเยว รวสิฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สรภ, อุสโภ สุญฺญาย โคสาลาย คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มญฺญติ; เอวเมวํ โข ตฺวํ, อาวุโส สรภ, อญฺญตฺเรว สมเณน โคตเมน คมฺภีรํ นทิตพฺพํ มญฺญสี’’ติฯ

อถ โข เต ปริพฺพาชกา สรภํ ปริพฺพาชกํ สมนฺตโต วาจายสนฺนิโตทเกน สญฺชมฺภริมกํสูติฯ จตุตฺถํฯ

5. เกสมุตฺติสุตฺตํ

[66] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ เยน เกสมุตฺตํ [เกสปุตฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] นาม กาลามานํ นิคโม ตทวสริฯ อสฺโสสุํ โข เกสมุตฺติยา กาลามา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุตฺโต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต เกสมุตฺตํ อนุปฺปตฺโตฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา…เป.… สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’’ติฯ

อถ โข เกสมุตฺติยา กาลามา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อปฺเปกจฺเจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, อปฺเปกจฺเจ ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, อปฺเปกจฺเจ เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, อปฺเปกจฺเจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, อปฺเปกจฺเจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต เกสมุตฺติยา กาลามา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ –

‘‘สนฺติ, ภนฺเต, เอเก สมณพฺราหฺมณา เกสมุตฺตํ อาคจฺฉนฺติฯ เต สกํเยว วาทํ ทีเปนฺติ โชเตนฺติ, ปรปฺปวาทํ ปน ขุํเสนฺติ วมฺเภนฺติ ปริภวนฺติ โอมกฺขิํ [โอปปกฺขิํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), โอมกฺขิกํ (ก.)] กโรนฺติฯ อปเรปิ, ภนฺเต, เอเก สมณพฺราหฺมณา เกสมุตฺตํ อาคจฺฉนฺติ ฯ เตปิ สกํเยว วาทํ ทีเปนฺติ โชเตนฺติ, ปรปฺปวาทํ ปน ขุํเสนฺติ วมฺเภนฺติ ปริภวนฺติ โอมกฺขิํ กโรนฺติฯ เตสํ โน, ภนฺเต , อมฺหากํ โหเตว กงฺขา โหติ วิจิกิจฺฉา – ‘โก สุ นาม อิเมสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ สจฺจํ อาห, โก มุสา’’’ติ? ‘‘อลญฺหิ โว, กาลามา, กงฺขิตุํ อลํ วิจิกิจฺฉิตุํฯ กงฺขนีเยว ปน [กงฺขนีเยว จ ปน (สํยุตฺตนิกาเย)] โว ฐาเน วิจิกิจฺฉา อุปฺปนฺนา’’ฯ