เมนู

‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย อาตปฺปํ กโรติ, อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย อาตปฺปํ กโรติ, อุปฺปนฺนานํ สารีริกานํ เวทนานํ ทุกฺขานํ ติพฺพานํ ขรานํ กฏุกานํ อสาตานํ อมนาปานํ ปาณหรานํ อธิวาสนาย อาตปฺปํ กโรติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาตาปี นิปโก สโต สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติฯ ทสมํฯ

11. มหาโจรสุตฺตํ

[51] ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต มหาโจโร สนฺธิมฺปิ ฉินฺทติ, นิลฺโลปมฺปิ หรติ, เอกาคาริกมฺปิ กโรติ, ปริปนฺเถปิ ติฏฺฐติฯ กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, มหาโจโร วิสมนิสฺสิโต จ โหติ, คหนนิสฺสิโต จ โหติ, พลวนิสฺสิโต จ โหติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, มหาโจโร วิสมนิสฺสิโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มหาโจโร นทีวิทุคฺคํ วา นิสฺสิโต โหติ ปพฺพตวิสมํ วาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, มหาโจโร วิสมนิสฺสิโต โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, มหาโจโร คหนนิสฺสิโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, มหาโจโร ติณคหนํ วา นิสฺสิโต โหติ, รุกฺขคหนํ วา โรธํ [เคธํ (สี. ปี.)] วา มหาวนสณฺฑํ วาฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, มหาโจโร คหนนิสฺสิโต โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, มหาโจโร พลวนิสฺสิโต โหติ? อิธ , ภิกฺขเว, มหาโจโร ราชานํ วา ราชมหามตฺตานํ วา นิสฺสิโต โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘สเจ มํ โกจิ กิญฺจิ วกฺขติ, อิเม เม ราชาโน วา ราชมหามตฺตา วา ปริโยธาย อตฺถํ ภณิสฺสนฺตี’ติฯ สเจ นํ โกจิ กิญฺจิ อาห, ตฺยาสฺส ราชาโน วา ราชมหามตฺตา วา ปริโยธาย อตฺถํ ภณนฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, มหาโจโร พลวนิสฺสิโต โหติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ตีหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต มหาโจโร สนฺธิมฺปิ ฉินฺทติ, นิลฺโลปมฺปิ หรติ, เอกาคาริกมฺปิ กโรติ, ปริปนฺเถปิ ติฏฺฐติฯ

‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต ปาปภิกฺขุ ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิญฺญูนํ, พหุญฺจ อปุญฺญํ ปสวติฯ กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ วิสมนิสฺสิโต จ โหติ คหนนิสฺสิโต จ พลวนิสฺสิโต จฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ วิสมนิสฺสิโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ วิสเมน กายกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, วิสเมน วจีกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติ, วิสเมน มโนกมฺเมน สมนฺนาคโต โหติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ วิสมนิสฺสิโต โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ คหนนิสฺสิโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ มิจฺฉาทิฏฺฐิโก โหติ, อนฺตคฺคาหิกาย ทิฏฺฐิยา สมนฺนาคโต โหติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ คหนนิสฺสิโต โหติฯ

‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ พลวนิสฺสิโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ ราชานํ วา ราชมหามตฺตานํ วา นิสฺสิโต โหติฯ ตสฺส เอวํ โหติ – ‘สเจ มํ โกจิ กิญฺจิ วกฺขติ, อิเม เม ราชาโน วา ราชมหามตฺตา วา ปริโยธาย อตฺถํ ภณิสฺสนฺตี’ติฯ สเจ นํ โกจิ กิญฺจิ อาห, ตฺยาสฺส ราชาโน วา ราชมหามตฺตา วา ปริโยธาย อตฺถํ ภณนฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ปาปภิกฺขุ พลวนิสฺสิโต โหติฯ อิเมหิ โข , ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปาปภิกฺขุ ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิญฺญูนํ, พหุญฺจ อปุญฺญํ ปสวตี’’ติฯ เอกาทสมํฯ

จูฬวคฺโค ปญฺจโมฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

สมฺมุขี ฐานตฺถวสํ, ปวตฺติ ปณฺฑิต สีลวํ;

สงฺขตํ ปพฺพตาตปฺปํ, มหาโจเรเนกาทสาติ [มหาโจเรน เต ทสาติ (ก.)]

ปฐโม ปณฺณาสโก สมตฺโตฯ

2. ทุติยปณฺณาสกํ