เมนู

8. สพฺยาพชฺฌสุตฺตํ

[8] ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพฯ กตเมหิ ตีหิ? สพฺยาพชฺเฌน กายกมฺเมน, สพฺยาพชฺเฌน วจีกมฺเมน, สพฺยาพชฺเฌน มโนกมฺเมน…เป.… อพฺยาพชฺเฌน กายกมฺเมน, อพฺยาพชฺเฌน วจีกมฺเมน , อพฺยาพชฺเฌน มโนกมฺเมนฯ อิเมหิ, โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพฯ

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘เยหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล เวทิตพฺโพ เต ตโย ธมฺเม อภินิวชฺเชตฺวา, เยหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต เวทิตพฺโพ เต ตโย ธมฺเม สมาทาย วตฺติสฺสามา’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ อฏฺฐมํฯ

9. ขตสุตฺตํ

[9] ‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิญฺญูนํ, พหุญฺจ อปุญฺญํ ปสวติฯ กตเมหิ ตีหิ? กายทุจฺจริเตน, วจีทุจฺจริเตน, มโนทุจฺจริเตนฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต พาโล อพฺยตฺโต อสปฺปุริโส ขตํ อุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, สาวชฺโช จ โหติ สานุวชฺโช จ วิญฺญูนํ, พหุญฺจ อปุญฺญํ ปสวติฯ

‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิญฺญูนํ, พหุญฺจ ปุญฺญํ ปสวติฯ กตเมหิ ตีหิ? กายสุจริเตน, วจีสุจริเตน, มโนสุจริเตนฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ปณฺฑิโต วิยตฺโต สปฺปุริโส อกฺขตํ อนุปหตํ อตฺตานํ ปริหรติ, อนวชฺโช จ โหติ อนนุวชฺโช จ วิญฺญูนํ, พหุญฺจ ปุญฺญํ ปสวตี’’ติฯ นวมํฯ

10. มลสุตฺตํ

[10] ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ตโย มเล อปฺปหาย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยฯ กตเมหิ ตีหิ? ทุสฺสีโล จ โหติ, ทุสฺสีลฺยมลญฺจสฺส อปฺปหีนํ โหติ; อิสฺสุกี จ โหติ, อิสฺสามลญฺจสฺส อปฺปหีนํ โหติ; มจฺฉรี จ โหติ, มจฺเฉรมลญฺจสฺส อปฺปหีนํ โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเม ตโย มเล อปฺปหาย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเยฯ

‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ตโย มเล ปหาย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเคฯ กตเมหิ ตีหิ? สีลวา จ โหติ, ทุสฺสีลฺยมลญฺจสฺส ปหีนํ โหติ; อนิสฺสุกี จ โหติ, อิสฺสามลญฺจสฺส ปหีนํ โหติ; อมจฺฉรี จ โหติ, มจฺเฉรมลญฺจสฺส ปหีนํ โหติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต อิเม ตโย มเล ปหาย ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ สคฺเค’’ติฯ ทสมํฯ

พาลวคฺโค ปฐโมฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

ภยํ ลกฺขณจินฺตี จ, อจฺจยญฺจ อโยนิโส;

อกุสลญฺจ สาวชฺชํ, สพฺยาพชฺฌขตํ มลนฺติฯ

2. รถการวคฺโค

1. ญาตสุตฺตํ

[11] ‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ญาโต ภิกฺขุ พหุชนอหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนทุกฺขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเมหิ ตีหิ? อนนุโลมิเก กายกมฺเม สมาทเปติ, อนนุโลมิเก วจีกมฺเม สมาทเปติ, อนนุโลมิเกสุ ธมฺเมสุ สมาทเปติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ญาโต ภิกฺขุ พหุชนอหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนทุกฺขาย, พหุโน ชนสฺส อนตฺถาย อหิตาย ทุกฺขาย เทวมนุสฺสานํฯ

‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ญาโต ภิกฺขุ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํฯ กตเมหิ ตีหิ? อนุโลมิเก กายกมฺเม สมาทเปติ, อนุโลมิเก วจีกมฺเม สมาทเปติ, อนุโลมิเกสุ ธมฺเมสุ สมาทเปติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ญาโต ภิกฺขุ พหุชนหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ พหุชนสุขาย, พหุโน ชนสฺส อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสาน’’นฺติฯ ปฐมํฯ