เมนู

2. กมฺเม

วุตฺติยํ กตฺตุกิริยายาติ กตฺตุสาทฺยตาย ตํ สมฺพนฺธินิยา กตฺตุกมฺมฏฺฐายปิ ทุวิธาย กิริยาย, อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ กโรติ เอตฺถ สมฺพนฺธนตฺโถติ อาห-‘กรียติ อภิสมฺพนฺธียตี’ติ, ยํกิญฺจิ ปทตฺถรูปํ สมฺพชฺฌตีติ อตฺโถ, อิมินา จานฺวตฺถวเสเนวายํ กมฺมโวหาโร สิทฺโธติ ทสฺเสติ, สพฺพการกานมฺปิ ปน กิริยาสมฺพนฺธ สพฺภาเวปิ กิริยาภิสมฺพนฺธียมานตฺเตเนว ยํ วตฺตุมิจฺฉิตํ ตเทว กมฺมํ วิญฺเญยฺยํ, กตฺตาทิ กตฺตุ กิริยายาภิสมฺพนฺธียมานตฺเตปิ กตฺตาทิตฺตวจนิจฺฉาเยว กมฺมํ น โหติ… ยสฺมา วจนิจฺฉาเยว การกานิ ภวนฺติ, เอวํ สพฺพการกานมฺปิ การกนฺตรปฺปตฺติยํ ตทภาโว ยถาโยคํ วตฺตพฺโพ, วากฺเยกเทเสเนตฺยเนน ‘‘ทฺเวทฺเวกา’’ทิโน วากฺยสฺส ‘‘กมฺเม ทุติยา’’อิจฺจาทิโน จ เอกวากฺยตฺตํ สูเจติ, ปกรณสฺส มหาวากฺยรูปตฺตา วิปฺปกฏฺฐานิปิ วากฺยานิ อากงฺขาทิสภาเว อญฺญมญฺญสมฺพนฺธานุภวเนเนกวากฺยภาวมฺปฏีปชฺชนฺเต, วุตฺตี หิ–

‘‘อากงฺขาโยคฺคตา สตฺตา, พีชํ สนฺนิธิโน ยโต;

วิปฺปกฏฺฐานิ วากฺยานิ, มหาวากฺยํ กโรนฺตฺยโตติฯ

สามญฺเญนาติ กมฺมาทฺยวิเสเสน, ปุพฺพาจริยสมญฺญาวเสนาห ‘ทุติยาทิกา’ติ, เตน ยทฺยปิ ตฺยาทิโนปิ ทฺวินฺนํ ปูรณิยา ทุติยาติ สกฺกา โวหริตุํ, ตถาปิ สฺยาทีนํ ทุเกเยว ทุติยาตติยา รุฬฺหีติ นตฺยาทีนํ ทุกานิ ทุติยาทิสทฺเทน คยฺหนฺติ, วิสิฏฺเฐสูติ กมฺมาทินา วิเสสิเตสุ, ติวิธํ กมฺมนฺติ สกสมยปฺปสิทฺธิยา กมฺมสฺส ติวิธตฺตมาห, อญฺเญ ตุ สตฺตวิธมิจฺฉนฺติ, กถํ–

นิพฺพตฺติวิกติปฺปตฺติ, เภเทน ติวิธํ มตํ,

ตตฺเถจฺฉิตตมํ กมฺมํ, กมฺมํตฺวญฺญํ จตุพฺพิธํ;

อิจฺฉิตญฺจานิจฺฉิตญฺจ, เนวิจฺฉิตมนิจฺฉิตํ,

ตถาญฺญปุพฺพํ นาญฺญปุพฺพนฺติ, เอวมญฺญํ จตุพฺพิธนฺติฯ

ตตฺถ อิจฺฉิตาทีนิ อุปริเยวาปิ ภวิสฺสนฺติ, ตตฺเรจฺจาทินา ติวิธํ กมฺมํ สรูปโต ทสฺเสติ, ตตฺถ นิพฺพตฺติกมฺมเมเก-เนกธา ปริกปฺเปนฺติ, ตทิห ปกาสยิสฺสาม–