8. เหตุ
นิจฺจภวนํ เหตุ (ตฺยาทินา) เหตุผลภาโวเยเวตฺถ, นาติ ปตฺตีติ ทีเปติฯ สพฺพปฺปจฺจโยทาหรณวเสนาติ สพฺเพสํ เอยฺยาทีนมฺปจฺจยานํ อุทาหรณวเสนฯ เหตุผลานํ สพฺภาวโตติ วุตฺตตฺตา เหตุผลานิ ทสฺเสติ หนนมิจฺจาทินาฯ เอวํ เหตุผลสพฺภาวโต สพฺพกาเล จ วิธานโต เอตฺถ วตฺตมาเนปิ ปปฺโปตีติ ภาโวฯ โส จ เหตุเหตุมนฺตภาโว จฯ
9. ปญฺเห
ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ปทนฺติอาทีสุ ปญฺโหติ ปุริมํ ปทํ, สมฺปุจฺฉนาติ ปจฺฉิมํ ปทนฺติอาทินา ทฏฺฐพฺพํฯ สเมจฺจ อญฺญมญฺญํ ปุจฺฉนา สมฺปุจฺฉนา, ยาจนํ เทหี ตฺยาทินา ยาจนมตฺถํ, อิฏฺฐสฺสาสมฺปตฺตสฺสาตฺถนมิฏฺฐาสิํสนํฯ ปตฺตกาลวเสน จ วิสยเภเทน ภินฺนาย ปีติ โยเชตฺวา อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพฯ ปตฺตกาลํ ทสฺเสติ นิมิตฺตภูตสฺสาติอาทินาฯ นิมิตฺตภูตสฺสาติ ตํตํกิจฺจสมฺปชฺชเน การณภูตสฺสฯ วิธิ นาม ทิฏฺฐธมฺมิกสมฺปรายิก นิมนฺตณามนฺตณาชฺเฌสนเปสนานิฯ เอตฺถ จ อนุญฺญาปตฺตกาเลสุ จ ปญฺจมี วิหิตา ปเรหิ, ทิฏฺฐธมฺมิกาทีสุ ปญฺจสุ สตฺตมีฯ อิธ ปน เต ทฺเวปิ วิธิวิเสสาเยวาติ วิธิมฺหิ อนฺโตกริตฺวา เอยฺยาทิํ วิธาตุํ ยํ วุตฺตํ วุตฺติกาเรน, ตทิทานิ วตฺตุกาโม อาห- ‘อนุญฺญาปตฺตกาเลสุปิ’จฺจาทิฯ วิธิปฺปตีติเมว ปกาเสติ ‘เอวํ กเรยฺยาสี’’ติจฺจาทินาฯ อนุชานนฺโตปิ ทีเปนฺโตปิ กิริยาสุ พฺยาปาเรติเยวาติ พฺยาปารณมฺปตีติโตติ โยเชตฺวา อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ
เปสเนปิ เกสญฺจิ พฺยากรณญฺญูนํ สตฺตมีวิธิจฺฉิโตติวุตฺติกาเรน ยํ วุตฺตํ, ตํ ทานิ วตฺตุมาห- ‘เปสเน ปิ’จฺจาทิฯ สมูลตนฺติ เกสญฺจิ สทฺทิกานํ สตฺตมีวิธิวิธานมูเลน สมูลตํฯ ‘‘อนุมติปริกปฺปตฺเถสุ สตฺตมี’’ติ (3-1-11) กจฺจานสุตฺตํฯ กตฺตุมิจฺฉโต ปรสฺส อนุชานนํ อนุมติ, ปริกปฺปนํ สลฺลกฺขณํ นิรูปนํ ปริกปฺโป เหตุผลกิริยา สมฺภโว จ, ตสฺมิํ อนุมตฺยตฺเถ จ ปริกปฺปตฺเถ จ สตฺตมีวิภตฺติ โหตีติ อตฺโถฯ อตฺถคฺคหเณน วิธินิมนฺตณามนฺตณาชฺเฌสน ปตฺถนาปตฺตกาเลสุ จฯ
10. ตุ อนฺตุ
อุทาหฏาติ คจฺฉตุ คจฺฉนฺตุอาทินา อุทาหฏาฯ ททาตูติ ยาจเนฯ
11. สตฺย
อรหตฺเถ จายเมว ปโยโค, เตน ภวํ ขลุ รชฺชํ กเรยฺย ภวํ อรโหติ โยเชตฺวา ทฏฺฐพฺโพฯ