เมนู

8. ทุติยฉิคฺคฬยุคสุตฺตํ

[1118] ‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, อยํ มหาปถวี เอโกทกา อสฺสฯ ตตฺร ปุริโส เอกจฺฉิคฺคฬํ ยุคํ ปกฺขิเปยฺยฯ ตเมนํ ปุรตฺถิโม วาโต ปจฺฉิเมน สํหเรยฺย, ปจฺฉิโม วาโต ปุรตฺถิเมน สํหเรยฺย, อุตฺตโร วาโต ทกฺขิเณน สํหเรยฺย, ทกฺขิโณ วาโต อุตฺตเรน สํหเรยฺยฯ ตตฺรสฺส กาโณ กจฺฉโปฯ โส วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน สกิํ สกิํ อุมฺมุชฺเชยฺยฯ ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ โข กาโณ กจฺฉโป วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน สกิํ สกิํ อุมฺมุชฺชนฺโต อมุสฺมิํ เอกจฺฉิคฺคเฬ ยุเค คีวํ ปเวเสยฺยา’’ติ? ‘‘อธิจฺจมิทํ, ภนฺเต, ยํ โส กาโณ กจฺฉโป วสฺสสตสฺส วสฺสสตสฺส อจฺจเยน สกิํ สกิํ อุมฺมุชฺชนฺโต อมุสฺมิํ เอกจฺฉิคฺคเฬ ยุเค คีวํ ปเวเสยฺยา’’ติฯ

‘‘เอวํ อธิจฺจมิทํ, ภิกฺขเว, ยํ มนุสฺสตฺตํ ลภติฯ เอวํ อธิจฺจมิทํ, ภิกฺขเว, ยํ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ เอวํ อธิจฺจมิทํ, ภิกฺขเว, ยํ ตถาคตปฺปเวทิโต ธมฺมวินโย โลเก ทิพฺพติฯ ตสฺสิทํ [ตยิทํ (?)], ภิกฺขเว, มนุสฺสตฺตํ ลทฺธํ, ตถาคโต โลเก อุปฺปนฺโน อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตถาคตปฺปเวทิโต จ ธมฺมวินโย โลเก ทิพฺพติฯ

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยโค กรณีโย…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ โยโค กรณีโย’’ติฯ อฏฺฐมํฯ

9. ปฐมสิเนรุปพฺพตราชสุตฺตํ

[1119] ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส สิเนรุสฺส ปพฺพตราชสฺส สตฺต มุคฺคมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อุปนิกฺขิเปยฺยฯ ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว , กตมํ นุ โข พหุตรํ – ยา วา [ยา จ] สตฺต มุคฺคมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อุปนิกฺขิตฺตา, โย วา [โย จ (สฺยา. กํ. ปี. ก.) สํ. นิ. 2.84] สิเนรุปพฺพตราชา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, พหุตรํ, ยทิทํ – สิเนรุปพฺพตราชา; อปฺปมตฺติกา สตฺต มุคฺคมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อุปนิกฺขิตฺตาฯ สงฺขมฺปิ น อุเปนฺติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปนฺติ, กลภาคมฺปิ น อุเปนฺติ สิเนรุปพฺพตราชานํ อุปนิธาย สตฺต มุคฺคมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อุปนิกฺขิตฺตา’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ทิฏฺฐิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส อภิสเมตาวิโน เอตเทว พหุตรํ ทุกฺขํ ยทิทํ ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ; อปฺปมตฺตกํ อวสิฏฺฐํฯ สงฺขมฺปิ น อุเปติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปติ, กลภาคมฺปิ น อุเปติ, ปุริมํ ทุกฺขกฺขนฺธํ ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ อุปนิธาย ยทิทํ สตฺตกฺขตฺตุปรมตา; โย ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ’’ฯ

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยโค กรณีโย…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ โยโค กรณีโย’’ติฯ นวมํฯ

10. ทุติยสิเนรุปพฺพตราชสุตฺตํ

[1120] ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สิเนรุปพฺพตราชายํ ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย, ฐเปตฺวา สตฺต มุคฺคมตฺติโย ปาสาณสกฺขราฯ ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, กตมํ นุ โข พหุตรํ – ยํ วา สิเนรุสฺส ปพฺพตราชสฺส ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ, ยา วา สตฺต มุคฺคมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อวสิฏฺฐา’’ติ? ‘‘เอตเทว, ภนฺเต, พหุตรํ สิเนรุสฺส ปพฺพตราชสฺส ยทิทํ ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ; อปฺปมตฺติกา สตฺต มุคฺคมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อวสิฏฺฐาฯ สงฺขมฺปิ น อุเปนฺติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปนฺติ, กลภาคมฺปิ น อุเปนฺติ สิเนรุสฺส ปพฺพตราชสฺส ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ อุปนิธาย สตฺต มุคฺคมตฺติโย ปาสาณสกฺขรา อวสิฏฺฐา’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส ทิฏฺฐิสมฺปนฺนสฺส ปุคฺคลสฺส อภิสเมตาวิโน เอตเทว พหุตรํ ทุกฺขํ ยทิทํ ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ; อปฺปมตฺตกํ อวสิฏฺฐํฯ สงฺขมฺปิ น อุเปติ, อุปนิธมฺปิ น อุเปติ, กลภาคมฺปิ น อุเปติ, ปุริมํ ทุกฺขกฺขนฺธํ ปริกฺขีณํ ปริยาทินฺนํ อุปนิธาย ยทิทํ สตฺตกฺขตฺตุปรมตา; โย ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ’’ฯ

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยโค กรณีโย…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ โยโค กรณีโย’’ติฯ ทสมํฯ

ปปาตวคฺโค ปญฺจโมฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

จินฺตา ปปาโต ปริฬาโห, กูฏํ วาลนฺธกาโร จ;

ฉิคฺคเฬน จ ทฺเว วุตฺตา, สิเนรุ อปเร ทุเวติฯ

6. อภิสมยวคฺโค