เมนู

‘‘ตสฺมาติห , ภิกฺขเว, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยโค กรณีโย…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ โยโค กรณีโย’’ติฯ ปญฺจมํฯ

6. ปาณสุตฺตํ

[1106] ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ยํ อิมสฺมิํ ชมฺพุทีเป ติณกฏฺฐสาขาปลาสํ ตจฺเฉตฺวา เอกชฺฌํ สํหเรยฺย; เอกชฺฌํ สํหริตฺวา สูลํ กเรยฺยฯ สูลํ กริตฺวา เย มหาสมุทฺเท มหนฺตกา ปาณา เต มหนฺตเกสุ สูเลสุ อาวุเนยฺย, เย มหาสมุทฺเท มชฺฌิมกา ปาณา เต มชฺฌิมเกสุ สูเลสุ อาวุเนยฺย, เย มหาสมุทฺเท สุขุมกา ปาณา เต สุขุมเกสุ สูเลสุ อาวุเนยฺยฯ อปริยาทินฺนา จ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท โอฬาริกา ปาณา อสฺสุฯ

‘‘อถ อิมสฺมิํ ชมฺพุทีเป ติณกฏฺฐสาขาปลาสํ ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺยฯ อิโต พหุตรา โข, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท สุขุมกา ปาณา, เย น สุกรา สูเลสุ อาวุนิตุํฯ ตํ กิสฺส เหตุ? สุขุมตฺตา , ภิกฺขเว, อตฺตภาวสฺสฯ เอวํ มหา โข, ภิกฺขเว, อปาโยฯ เอวํ มหนฺตสฺมา โข, ภิกฺขเว, อปายสฺมา ปริมุตฺโต ทิฏฺฐิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยโค กรณีโย…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ โยโค กรณีโย’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. ปฐมสูริยสุตฺตํ

[1107] ‘‘สูริยสฺส [สุริยสฺส (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], ภิกฺขเว, อุทยโต เอตํ ปุพฺพงฺคมํ เอตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ, ยทิทํ – อรุณุคฺคํฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ยถาภูตํ อภิสมยาย เอตํ ปุพฺพงฺคมํ เอตํ ปุพฺพนิมิตฺตํ, ยทิทํ – สมฺมาทิฏฺฐิฯ ตสฺเสตํ ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปาฏิกงฺขํ – ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานิสฺสติ…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานิสฺสติฯ

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยโค กรณีโย…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ โยโค กรณีโย’’ติฯ สตฺตมํฯ

8. ทุติยสูริยสุตฺตํ

[1108] ‘‘ยาวกีวญฺจ , ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยา โลเก นุปฺปชฺชนฺติ, เนว ตาว มหโต อาโลกสฺส ปาตุภาโว โหติ มหโต โอภาสสฺสฯ อนฺธตมํ ตทา โหติ อนฺธการติมิสา ฯ เนว ตาว รตฺตินฺทิวา [รตฺติทิวา (ก.)] ปญฺญายนฺติ, น มาสทฺธมาสา ปญฺญายนฺติ, น อุตุสํวจฺฉรา ปญฺญายนฺติฯ

‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, จนฺทิมสูริยา โลเก อุปฺปชฺชนฺติ, อถ มหโต อาโลกสฺส ปาตุภาโว โหติ มหโต โอภาสสฺสฯ เนว อนฺธการตมํ ตทา โหติ น อนฺธการติมิสาฯ อถ รตฺตินฺทิวา ปญฺญายนฺติ, มาสทฺธมาสา ปญฺญายนฺติ, อุตุสํวจฺฉรา ปญฺญายนฺติฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยาวกีวญฺจ ตถาคโต โลเก นุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, เนว ตาว มหโต อาโลกสฺส ปาตุภาโว โหติ มหโต โอภาสสฺสฯ อนฺธตมํ ตทา โหติ อนฺธการติมิสาฯ เนว ตาว จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อาจิกฺขณา โหติ เทสนา ปญฺญาปนา ปฏฺฐปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํฯ

‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อถ มหโต อาโลกสฺส ปาตุภาโว โหติ มหโต โอภาสสฺสฯ เนว อนฺธตมํ ตทา โหติ น อนฺธการติมิสาฯ อถ โข จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ อาจิกฺขณา โหติ เทสนา ปญฺญาปนา ปฏฺฐปนา วิวรณา วิภชนา อุตฺตานีกมฺมํฯ กตเมสํ จตุนฺนํ? ทุกฺขสฺส อริยสจฺจสฺส…เป.… ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อริยสจฺจสฺส

‘‘ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยโค กรณีโย…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ โยโค กรณีโย’’ติฯ อฏฺฐมํฯ

9. อินฺทขีลสุตฺตํ

[1109] ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ…เป.… ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, เต อญฺญสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา มุขํ อุลฺโลเกนฺติ [โอโลเกนฺติ (สี. สฺยา.)] – ‘อยํ นูน ภวํ ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสตี’’’ติฯ