เมนู

18. ทิฏฺฐิวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา

นามรูปปริคฺคหกถาวณฺณนา

[662] ยา วิสุทฺธิโย สมฺปาเทตพฺพาติ สมฺพนฺโธฯ อิเมสุ ยถาวิจาริเตสุ ขนฺธาทีสุ วิปสฺสนาย ภูมิภูเตสุ ธมฺเมสุฯ คนฺถสฺส อุคฺคณฺหนํ วาจุคฺคตกรณํ อุคฺคโห, ปริโต สพฺพถาปิ อตฺถสฺส ญาตุมิจฺฉา ปริปุจฺฉา, สวนุปปริกฺขาทิวเสน ตทตฺถสฺส มนสิการวิธิ, ตทุภยวเสน ยสฺมา ตตฺถปิ ญาณํ สฺวาเสวิตํ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุคฺคหปริปุจฺฉาวเสน ญาณปริจยํ กตฺวา’’ติ, ขนฺธาทีสุ สุตมยํ ญาณํ อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถฯ วิตฺถาริตเมว, ตสฺมา ตตฺถ วิตฺถาริตนยานุสาเรน สีลวิสุทฺธิ สมฺปาเทตพฺพาติ อธิปฺปาโยฯ อุปจารสมาธิปิ อปฺปนาสมาธิ วิย วิปสฺสนาย อธิฏฺฐานภาวโต จิตฺตวิสุทฺธิเยวาติ อาห ‘‘สอุปจารา’’ติฯ เวทิตพฺพาติ อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนวเสเนว เวทิตพฺพาฯ เอวญฺหิ ตา ปจฺจกฺขโต วิทิตา นาม โหนฺติ, ตสฺมา เวทิตพฺพา สมฺปาเทตพฺพาติ วุตฺตํ โหติฯ เวทิตพฺพาติ วา สมาปตฺติสุขาธิคมวเสน อนุภวิตพฺพาติ อตฺโถฯ น หิ เกวเลน ชานนมตฺเตน จิตฺตวิสุทฺธิยํ ปติฏฺฐิโต นาม โหติ, น จ ตตฺถ อปติฏฺฐาย อุปริวิสุทฺธิํ สมฺปาเทตุํ สกฺกาติฯ

นามรูปานํ ยาถาวทสฺสนนฺติ นามสฺส, รูปสฺส จ วิภชฺช ยถาภูตสภาวทสฺสนํฯ นามคฺคหเณน เจตฺถ เวทนาทีนํ จตุนฺนํ เตภูมกานํ ขนฺธานํ คหณํ, น ‘‘วิญฺญาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เอตฺถ วิย วิญฺญาณํ วินา, นาปิ ‘‘นามญฺจ รูปญฺจา’’ติ (ที. นิ. 3.304, 352; ธ. ส. ทุกมาติกา 109) เอตฺถ วิย สนิพฺพาเนหิ โลกุตฺตรกฺขนฺเธหิ สทฺธินฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ

[663] ยาติ ปชฺชติ เอเตนาติ ยานํ, สมโถว ยานํ สมถยานํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ สมถยานิโกฯ ฌาเน, ฌานูปจาเร วา ปติฏฺฐาย วิปสฺสนํ อนุยุญฺชนฺตสฺเสตํ นามํ, เตน สมถยานิเกน ‘‘ฐเปตฺวา เนวสญฺญานาสญฺญายตน’’นฺติ อิทํ ภวคฺคธมฺมานํ อาทิกมฺมิกสฺส ทุปฺปริคฺคหตาย วุตฺตํฯ ลกฺขณรสาทิวเสน ปริคฺคเหตพฺพา ญาเณน ปริจฺฉิชฺช คเหตพฺพา, ปริคฺคหวิธิ ปน ขนฺธนิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. 2.421 อาทโย) วุตฺตา เอวาติ อธิปฺปาโยฯ

อารมฺมณาภิมุขนมนํ อารมฺมเณน วินา อปฺปวตฺติ, เตน นมนฏฺเฐน, นามกรณฏฺเฐน วาฯ เวทนาทโย หิ อรูปธมฺมา สพฺพทาปิ จ ผสฺสาทินามกตฺตา ปถวีอาทโย วิย เกสกุมฺภาทินามนฺตรานาปชฺชนโต อตฺตนาว กตนามตาย นามกรณฏฺเฐน ‘‘นาม’’นฺติ วุจฺจนฺติฯ อถ วา อธิวจนสมฺผสฺโส วิย อธิวจนํ นามํ อนฺตเรน อนุปจิตสมฺภารานํ คหณํ น คจฺฉนฺตีติ นามายตฺตคฺคหณตาย เวทนาทโย ‘‘นาม’’นฺติ วุจฺจนฺติ, รูปํ ปน วินาปิ นามสวนํ อตฺตโน รุปฺปนสภาเวเนว คหณํ คจฺฉติฯ ววตฺถาเปตพฺพนฺติ อสงฺกรโต ฐเปตพฺพํ, อญฺญมญฺญํ, รูเปน จ อมิสฺสิตํ กตฺวา จิตฺเต ฐเปตพฺพนฺติ อตฺโถฯ

นามรูปปริคฺคโห จ นาม ยาวเทว ตสฺส ปฏินิสฺสชฺชนตฺถนฺติ ตทนุรูปเมว นิทสฺสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิมาหฯ รุปฺปนโตติ เอตฺถ รุปฺปนฏฺโฐ ‘‘สีตาทิวิโรธิปจฺจยสนฺนิปาเต วิสทิสุปฺปตฺตี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. มหาฏี. 2.432) ขนฺธนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺโตเยวฯ เอวํ วิสุํ นามปริคฺคหํ, รูปปริคฺคหญฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เอกชฺฌํ นามรูปปริคฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโต นมนลกฺขณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ

[664] อิติ อรูปมุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ รูปมุเขน ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุทฺธวิปสฺสนายานิโก ปนา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ สมถยานิกสฺส สมถมุเขน วิปสฺสนาภินิเวโส, วิปสฺสนายานิกสฺส ปน สมถํ อนิสฺสายาติ อาห ‘‘สุทฺธวิปสฺสนายานิโก’’ติ, สมถภาวนาย อมิสฺสิตวิปสฺสนายานวาติ อตฺโถฯ อยเมว วา สมถยานิโกติ ยถาวุตฺโต สมถยานิโก เอว วาฯ เตน สมถยานิกสฺสาปิ รูปมุเขน วิปสฺสนาภินิเวโส ลพฺภติ, น อรูปมุเขเนวาติ ทสฺเสติฯ เตสํ เตสํ ธาตุปริคฺคหมุขานนฺติ ‘‘ยํ ถทฺธลกฺขณํ, อยํ ปถวีธาตู’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. 1.308) สงฺเขปมนสิการาทิวเสน วุตฺเตสุ เตรสสุ ธาตุปริคฺคหมุเขสุฯ กมฺมสมุฏฺฐาโน นาม เกโส จมฺมพฺภนฺตรคโตฯ ตตฺเถวาติ ตสฺมิํเยว กมฺมสมุฏฺฐาเน เกเสฯ กายปฺปสาทสฺส วิย ภาวสฺสาปิ สกลสรีรพฺยาปิตาย ‘‘ภาวสฺส อตฺถิตายา’’ติ วุตฺตํฯ ปุน ตตฺเถวาติ ตสฺมิํเยว เกสสญฺญิเต รูปสมุทาเยฯ

อปรานิปีติ ปุพฺเพ วุตฺตานิ กมฺมสมุฏฺฐานานิ วีสติ, อิมานิ อาหารสมุฏฺฐานาทีนิ จตุวีสติ รูปานีติ สพฺพานิปิ จตุจตฺตาลีส, ตญฺจ โข ตตฺถ ลพฺภมานสนฺตติสีสสามญฺเญน เวทิตพฺพํฯ ‘‘จตุจตฺตาลีสา’’ติ จ อิทํ สทฺทสฺส อนิยตตฺตา วุตฺตํฯ น หิ สพฺพกาลํ อุตุจิตฺตโต รูปํ อุปฺปชฺชนฺตํ สสทฺทเมว อุปฺปชฺชตีติฯ เอวนฺติ ยถา เกเส, เอวํ โลมาทีสุ จตุสมุฏฺฐานิเกสุฯ จตุวีสติโกฏฺฐาเสสูติ ทฺวตฺติํสาย โกฏฺฐาเสสุ วกฺขมาเน อฏฺฐ โกฏฺฐาเส อปเนตฺวา จตุวีสติโกฏฺฐาเสสุฯ เสทาทีนํ อาตปูปตาปาทินา, จิตฺตวิกาเรน จ อุปฺปชฺชนโต เต อุตุจิตฺตสมุฏฺฐานา วุตฺตาฯ

ทฺวตฺติํสโกฏฺฐาสคเตสุ รูเปสุ ปากเฏสุ ชาเตสุ ตทญฺญานิปิ ปากฏานิ โหนฺตีติ ตานิปิ ทสฺเสตุํ ‘‘อปเร’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อปเร ทส อาการาติ เตโชวาโยโกฏฺฐาสวเสน อปเร ทส อาการาฯ กมฺมเชติ ภูตกถนํ, น วิเสสนํ อสิตาทิปริปาจกสฺส เตชสฺส อกมฺมชสฺส อภาวโตฯ ตถา จิตฺตเชติ จ เอกนฺตจิตฺตสมุฏฺฐานตฺตา อสฺสาสปสฺสาสานนฺติ เกจิ, ตํ น, อจิตฺตชสนฺตาเน ปวตฺตานํ อุตุชภาวโตฯ อพฺภนฺตรฏฺฐา เอว หิ เต จิตฺตชา, น พหิทฺธา, ตสฺมา ตตฺถ ‘‘จิตฺตเช’’ติ อิทํ วิเสสนเมว, อยญฺจ อตฺโถ เหฏฺฐา อานาปานกถายํ วุตฺโตเยวฯ เสเสสูติ สนฺตปฺปนาทิวเสน เจว อุทฺธงฺคมาทิวเสน จ ปวตฺเตสุ เตโชวาโยโกฏฺฐาเสสุฯ

จกฺขุทสกาทีสุ ปธานรูปํ จกฺขาทโยติ เตสุ ลพฺภมานํ วตฺถุทฺวารภาวํ อวยวกิจฺจํ สมุทาเย อาโรเปตฺวา วุตฺตํ ‘‘วตฺถุทฺวารวเสน ปญฺจ จกฺขุทสกาทโย’’ติฯ วตฺถุวเสน หทยวตฺถุทสกญฺจาติ โยเชตพฺพํ, เอกโยคนิทฺทิฏฺฐานมฺปิ เอกเทโส อนุวตฺตตีติฯ สพฺพานิปีติ ยถาวุตฺตคณนายํ จตุนฺนวุติจตุสตาธิกานิ สหสฺสรูปรูปานิฯ โกฏฺฐาสาวยวานํ ปน ตทวยวกลาปานญฺจ เภเท คยฺหมาเน อติวิย ตโต พหุตโร รูปเภโท โหติ, โส ปน เภโท อิธ อาทิกมฺมิกสฺส ทุปฺปริคฺคโหติ น คเหตพฺโพฯ

กามํ วตฺถุวเสนาปิ อรูปธมฺมา ปากฏา โหนฺติ, ทฺวารวเสน ปน ปริคฺคโห อนากุโลติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ทฺวารวเสน อรูปธมฺมา ปากฏา โหนฺตี’’ติ ฯ สพฺพสงฺคาหิกวเสน ‘‘เอกาสีติ โลกิยจิตฺตานี’’ติ วุตฺตํ, ลาภิโน เอว ปน มหคฺคตจิตฺตานิ สุปากฏานิ โหนฺติฯ อวิเสเสนาติ สาธารณโตฯ ผสฺสาทโย หิ สตฺต เจตสิกา จกฺขุวิญฺญาณาทีหิปิ อุปฺปชฺชนโต สพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณาฯ สพฺเพปิ เตติ เอกาสีติ โลกิยจิตฺตานิ, ตํสมฺปยุตฺตผสฺสาทโยติ สพฺเพปิ เต อรูปธมฺเมฯ อารมฺมณาทิวิภาเคน ปน จิตฺตุปฺปาทเภเท คยฺหมาเน ตโต พหุตโร เอว โหติ, โส ปน อิธ นาธิปฺเปโตฯ

[665] อสฺส จกฺขุปสาทสฺส นิสฺสยภูตา ปน จตสฺโส ธาตุโยติ สมฺพนฺโธฯ สหชาตรูปานิ ตสฺส จกฺขุปสาทสฺส อิจฺเจว สมฺพนฺโธฯ ตตฺเถวาติ ตสฺมิํเยว สสมฺภารจกฺขุปเทเสฯ อนุปาทินฺนรูปานีติ ปุพฺเพ วุตฺตรูปานํ อุปาทินฺนรูปตฺตา วุตฺตํ, อกมฺมชรูปานีติ อตฺโถฯ เสสานีติ ปฐมํ จกฺขุโน วุตฺตตฺตา ตโต เสสานิ, เตน ปน สทฺธิํ จตุปญฺญาส รูปานิ โหนฺติฯ จกฺขุทสกาทีสุ เอกสฺสปิ อคฺคเหตพฺพโต ‘‘อวเสสานิ เตจตฺตาลีส รูปานี’’ติ วุตฺตํฯ สทฺทสฺส อนิยตตฺตา ตํ อคฺคเหตฺวา ‘‘เตจตฺตาลีส รูปานี’’ติ วตฺวา ปุน อุตุจิตฺตสมุฏฺฐาเน ทฺเว สทฺเท คเหตฺวา ‘‘ปญฺจจตฺตาลีสา’’ติ เกจิวาโท ทสฺสิโตฯ

อวเสสรูปานีติ ‘‘ทส ธาตุโย’’ติ วุตฺเต ทฺวาทส รูปธมฺเม ฐเปตฺวา อวเสสานิ ฉ นิปฺผนฺนรูปานิฯ รูปรูปาเนว หิ อิธ ปริคฺคยฺหนฺติ, น รูปปริจฺเฉทวิการลกฺขณานิฯ จกฺขุสนฺนิสฺสยรูปารมฺมณภาวสามญฺเญน, จิตฺตภาวสามญฺเญน จ กุสลากุสลวิปากตาย ทุวิธมฺปิ จกฺขุวิญฺญาณํ จิตฺตนฺเตฺวว วุตฺตํฯ เอวนฺติ อิมินา ‘‘จกฺขุํ นิสฺสายา’’ติอาทินา วุตฺตํ, อวุตฺตญฺจ ‘‘โสตํ นิสฺสายา’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติฯ มโนวิญฺญาณธาตูติ เอตฺถปิ ‘‘เอกา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘เอกา มโนวิญฺญาณธาตู’’ติฯ อฑฺเฒน เอกาทส อฑฺเฒกาทส, อฑฺฒํ วา เอกาทสมํ เอตาสนฺติ อฑฺเฒกาทสฯ อฑฺฒฏฺฐมาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ

[666] จกฺขุธาตุยํ วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘ยํ โลโก เสตกณฺหมณฺฑลวิจิตฺต’’นฺติอาทินา (วิสุทฺธิ. 2.665) วุตฺตนเยนฯ

[667] อิธ ภิกฺขุ อิมสฺมิํ สรีเรติ อชฺฌตฺตํ วิปสฺสนาภินิเวสทสฺสนวเสน วุตฺตํฯ

เตเนว หิ เอกสฺเสว ภาวสฺส คหิตตฺตา ‘‘สตฺตรส รูปานิ สมฺมสนุปคานี’’ติ อาหฯ สมฺมสิตุํ สกฺกุเณยฺยานิ สมฺมสนํ อุปคจฺฉนฺตีติ สมฺมสนุปคานิ, สมฺมสนียานีติ อตฺโถฯ อาการ-คฺคหเณน วิญฺญตฺติทฺวยํ วุตฺตํ, วิการ-คฺคหเณน ลหุตาทิตฺตยํ, อิตเรน อากาสธาตูติ วทนฺติฯ อาการ-คฺคหเณน ปน วิญฺญตฺติทฺวเยน สทฺธิํ ลกฺขณรูปมาหฯ ตมฺปิ หิ รูปานํ อุปฺปชฺชนาทิอาการมตฺตนฺติฯ อนฺตรปริจฺเฉโทติ ตํตํกลาปานํ อสงฺกรการณตาย อนฺตรภูโต ปริจฺเฉโท ฯ ยทิ น สมฺมสนุปคานิ, อาการาทิมตฺตานิ จ, กถํ รูปานีติ อาห ‘‘อปิจ โข’’ติอาทิฯ

[668] เอวํ ทฺวาจตฺตาลีสาย โกฏฺฐาสานํ วเสน วิตฺถารโต รูปปริคฺคหํ ตทนุสาเรน วิตฺถารโต เอว นามปริคฺคหํ วิภาเวตฺวา ตโต สํขิตฺตสํขิตฺตตรสํขิตฺตตมวเสน, อฏฺฐารสธาตุวเสน, ทฺวาทสายตนวเสน, ปญฺจกฺขนฺธวเสน จ รูปารูปปริคฺคหํ ทสฺเสตฺวา อติสํขิตฺตนเยนาปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ กิญฺจิ รูป’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ

ยถา จ ธาตุอาทิวเสน, เอวํ อินฺทฺริยสจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสนปิ รูปารูปปริคฺคโห เวทิตพฺโพฯ กถํ? อินฺทฺริยวเสน ตาว จกฺขาทีนิ ปญฺจ, อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานิ จาติ สตฺต อินฺทฺริยานิ รูปํ, มนินฺทฺริยํ, ปญฺจ เวทนินฺทฺริยานิ, สทฺธาทีนิ ปญฺจ จาติ เอกาทส นามํ, ชีวิตินฺทฺริยํ นามญฺจ รูปญฺจ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ อิธ อนธิปฺเปตานิ โลกุตฺตรตฺตาฯ ทุกฺขสจฺจํ นามญฺจ รูปญฺจ, สมุทยสจฺจํ นามํ, อิตรานิ อิธ นาธิปฺเปตานิ โลกุตฺตรตฺตาฯ ปจฺจยากาเร อาทิโต ตีณิ องฺคานิ นามํ, จตุตฺถปญฺจมานิ นามญฺจ รูปญฺจ, ฉฏฺฐสตฺตมอฏฺฐมนวมานิ นามํ, ทสมํ นามญฺเจว นามรูปญฺจ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว ปจฺเจกํ นามญฺจ รูปญฺจาติ เอวํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยานุสาเรน อินฺทฺริยสจฺจปจฺจยาการวเสนปิ นามรูปปริคฺคโห กาตพฺโพฯ เอวํ ปน นามรูปปริคฺคหสฺส วิภาเคน กถเน ปโยชนํ เหฏฺฐา วุตฺตเมวฯ

[669] กามํ เวทนาทีสุ อรูปธมฺเมสุ น อุตฺตรุตฺตรา วิย ปุริมปุริมา สุขุมา, ตถาปิ สงฺฆฏฺฏเนน วิการอาปชฺชนเก รูปธมฺเม อุปาทาย สพฺเพปิ เต สุขุมา เอวาติ อาห ‘‘สุขุมตฺตา อรูปํ น อุปฏฺฐาตี’’ติฯ สมฺมสิตพฺพนฺติ สมฺมเทว ลกฺขณาทิโต วีมํสิตพฺพํฯ มนสิกาตพฺพนฺติ ตถา จิตฺเต ฐเปตพฺพํฯ ปริคฺคเหตพฺพนฺติ ปริจฺเฉทการิกาย ปญฺญาย ปริจฺฉิชฺช คเหตพฺพํฯ ววตฺถเปตพฺพนฺติ อญฺญมญฺญํ อสงฺกรโต วินิจฺฉิตพฺพํฯ

อสฺสาติ โยคิโน สุวิกฺขาลิตนฺติ สุวิโสธิตํฯ อาทิกมฺมิกสฺส หิ กมฺมฏฺฐานํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส ยาว ธมฺมา สุปริพฺยตฺตํ น อุปติฏฺฐนฺติ, ตาว เต ตปฺปฏิจฺฉาทกสมฺโมหพเลน อภิภูตา อวิสุทฺธา นาม โหนฺติ, อสงฺกรโต อุปฏฺฐานาภาวโต อญฺญมญฺญญฺจ ชฏิตาฯ ยทา ปน สมฺมสนาทิวิธินา ตํ วิภูตํ โหติ, ตทา เต สุวิกฺขาลิตา, นิชฺชฏา จ นาม โหนฺติฯ เตนาห ‘‘ยถา ยถา หี’’ติอาทิฯ อาทิกมฺมิกสฺส อรูปธมฺมา เยภุยฺเยน รูปธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตนากาเรน คหณํ คจฺฉนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ตทารมฺมณา อรูปธมฺมา’’ติฯ เตเนว หิ เหฏฺฐา ‘‘ตสฺเสวํ ปริคฺคหิตรูปสฺส ทฺวารวเสน อรูปธมฺมา ปากฏา โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, น วตฺถุวเสนาติฯ

อิทานิ รูปปริคฺคโห อรูปปริคฺคหสฺส อุปาโย, อุปตฺถมฺโภ จาติ ยถาวุตฺตมตฺถํ อุปมาหิ ปกาเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ มุขนิมิตฺตนฺติ มุขสฺส ปฏิพิมฺพํฯ ตตฺริทํ อุปมาสํสนฺทนํ – จกฺขุมา ปุริโส วิย โยคาวจโร, ตสฺส จกฺขุ วิย โยคิโน กมฺมฏฺฐานปริคฺคาหกญาณํ, อาทาสํ วิย รูปปริคฺคโห, มุขนิมิตฺตํ วิย อรูปปริคฺคโห, อาทาสสฺส อปริสุทฺธกาโล วิย รูปปริคฺคหสฺส อวิกฺขาลิตกาโล, ตทา มุขนิมิตฺตสฺส อปญฺญายนํ วิย รูปปริคฺคหสฺส อวิสุทฺธตาย อรูปธมฺมานํ อนุปฏฺฐานํ, อาทาสสฺส ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชนํ วิย รูปปริคฺคหสฺส ปุนปฺปุนํ วิโสธนํ, สุปริมชฺชิเต อาทาเส สุพฺยตฺตํ มุขนิมิตฺตสฺส ปญฺญายนํ วิย สุวิกฺขาลิเต นิชฺชเฏ รูปปริคฺคเห อรูปธมฺมานํ สุฏฺฐุ อุปฏฺฐานนฺติฯ อิมินา นเยน เตลตฺถิโกปมาทีสุปิ ยถารหํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํฯ ติลปิฏฺฐนฺติ ติลจุณฺณํฯ กตกฏฺฐินฺติ กตกพีชํฯ กลลกทฺทมนฺติ ตนุกทฺทมํฯ

ตปฺปจฺจนีกกิเลสาติ ตสฺส อรูปธมฺมปริคฺคาหกญาณสฺส วิพนฺธภาเวน ปฏิปกฺขภูตา สมฺโมหาทิกิเลสาฯ

อุจฺฉุอาทิอุปมาสุ อิทํ มุขมตฺตสฺส ทสฺสนํ – ยถา อุจฺฉุรสํ คเหตุกาโม อุจฺฉูนิ อุจฺฉุยนฺเต ปกฺขิปิตฺวา เอกวารํ ทฺวิวารํ ยนฺตกฺกมนมตฺเตน อุจฺฉุรเส อนิกฺขมนฺเต น อุจฺฉูนิ ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉติ, ยถา วา โจเร คเหตฺวา เตหิ กตกมฺมํ ชานิตุกาโม ทฺวตฺติปฺปหารมตฺเตน เตสุ ตมตฺถํ อกเถนฺเตสุ น เต มุญฺจติ, ยถา วา ปน โคทมฺมโก โคณํ ทเมตุกาโม ธุเร ตํ โยเชตฺวา เอกวารํ ทฺวิวารํ ตสฺมิํ ปเถน อคจฺฉนฺเต น วิสฺสชฺเชติ, ยถา จ ทธิํ มนฺเถตฺวา นวนีตํ คเหตุกาโม ทธิกลสิยํ มนฺถํ ปกฺขิปิตฺวา สกิํ, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา มนฺถสฺส ภมนมตฺเตน นวนีเต อนุปฺปชฺชนฺเต น ทธิํ ฉฑฺเฑติ, ยถา วา ปน มจฺเฉ ปจิตฺวา ขาทิตุกาโม เอกวารํ ทฺวิวารํ อคฺคิทานมตฺเตน มจฺเฉสุ อปจฺจนฺเตสุ น เต ฉฑฺเฑติฯ ‘‘อถ โข นํ ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนยานุสาเรน ‘‘อถ โข นํ อุจฺฉุยนฺเต ปุนปฺปุนํ อุปฺปีเฬตี’’ติอาทินา สพฺพตฺถ อุปมตฺโถ โยเชตพฺโพฯ

อรูปธมฺมานํ อุปฏฺฐานาการกถาวณฺณนา

[670] อากิรียนฺติ อภิมุขา โหนฺติ เอเตหีติ อาการา, อรูปธมฺมานํ อุปฏฺฐานสฺส มุขภูตา ผุสนานุภวนวิชานนปฺปการาติ อาห ‘‘อรูปธมฺมา ตีหิ อากาเรหิ อุปฏฺฐหนฺตี’’ติอาทิฯ อารมฺมเณ ปวตฺตมาเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ อสติปิ ปุพฺพาปริเย ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส, ตตฺถ สพฺพปฐมํ อภินิปตนฺโต วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฐมาภินิปาโต ผสฺโส’’ติฯ เตนสฺส ผุสนากาเรน สุปากฏภาเวน อุปฏฺฐานํ ทสฺเสติฯ ผสฺเส ปน อุปฏฺฐิเต ยสฺมิํ อารมฺมเณ โส ผสฺโส, ตสฺส อนุภวนลกฺขณา เวทนา, สญฺชานนลกฺขณา สญฺญา, อายูหนลกฺขณา เจตนา, ปฏิวิชานนลกฺขณํ วิญฺญาณนฺติ อิเมปิ ปากฏา โหนฺตีติ อาห ‘‘ตํสมฺปยุตฺตา เวทนา’’ติอาทิฯ เอวํ สลกฺขณสงฺเขปโต จตุธาตุววตฺถานวเสน ผสฺสมุเขน อรูปปริคฺคหํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถารโต จตุธาตุววตฺถานวเสน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา เกเส’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ เกเส ปถวีธาตูติ เกสสงฺขาเต ปถวีโกฏฺฐาเส ปถวีธาตุฯ ลกฺขณวิภตฺติโต หิ ธาตุววตฺถานทสฺสนเมตํฯ

ปุนปิ ทฺวินฺนํ ธาตุววตฺถานานํ วเสน เวทนามุเขน อรูปปริคฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ตสฺส รสานุภวนกเวทนาติ ถทฺธภาวสงฺขาตสฺส โผฏฺฐพฺพสภาวสฺส อนุภวนวเสน ปวตฺตเวทนาฯ

อปรสฺสาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยเนว สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพฯ ตตฺถ อารมฺมณปฏิวิชานนนฺติ ถทฺธตาสงฺขาตโผฏฺฐพฺพารมฺมณปฏิวิชานนํฯ กายทฺวาราภินิหตํ, เกวลํ วา มโนทฺวาริกชวนวิญฺญาณมาหฯ