เมนู

ตณฺหาปจฺจยาอุปาทานปทวิตฺถารกถาวณฺณนา

[645] อตฺถวิภาโค อตฺถสฺส วิภชนาฯ วตฺถุสงฺขาตํ กามนฺติ กามคุณสญฺญิตํ รูปาทิอารมฺมณมาหฯ อุปาทิยตีติ กามวเสน คณฺหาติ, ทฬฺหํ อสฺสาเทตีติ อตฺโถฯ กามํ อุปาทิยตีติ เอตฺถ กมฺมสาธโน กามสทฺโท , กาโม จ โสติ เอตฺถ กตฺตุสาธโน กิเลสกามสฺส อธิปฺเปตตฺตาฯ อุปาทานสทฺโท ปน อุภยตฺถาปิ กตฺตุสาธโนวฯ ทฬฺหตฺโถ ภุสตฺโถฯ ยถา ภุโส อายาโส อุปายาโส, ภุสํ กุฏฺฐํ อุปกุฏฺฐํ, เอวํ อิธาปีติ อาห ‘‘อุปายาสอุปกุฏฺฐาทีสุ วิยา’’ติฯ ปุริมทิฏฺฐิํ อุตฺตรทิฏฺฐิ อุปาทิยตีติ ปุริมทิฏฺฐิํ สสฺสตภาเวน คณฺหนฺตี อุปาทิยติ, ปุริมทิฏฺฐิอากาเรน วา อุตฺตรทิฏฺฐิ อุปฺปชฺชมานา เตเนว ปุริมทิฏฺฐิํ ทฬฺหํ กโรนฺตี ตํ อุปาทิยตีติ วุตฺตาฯ อถ วา ปุริมทิฏฺฐิํ อุตฺตรทิฏฺฐิ อุปาทิยตีติ ‘‘สสฺสโต อตฺตา’’ติ (ที. นิ. 1.31) อิทํ ปุริมทิฏฺฐิํ อุปาทิยมานํ อุตฺตรทิฏฺฐิํ นิทสฺเสตุํ วุตฺตํฯ ยถา หิ เอสา ทฬฺหีกรณวเสน ปุริมํ อุตฺตรา อุปาทิยติ, เอวํ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิกาปีติ (ม. นิ. 1.445; 2.94; 3.91, 116, 136; ธ. ส. 1221; วิภ. 938)ฯ อตฺตคฺคหณํ ปน อตฺตวาทุปาทานนฺติ น อิทํ ทิฏฺฐุปาทานทสฺสนนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ โลโก จาติ วา อตฺตคฺคหณวินิมุตฺตํ คหณํ ทิฏฺฐุปาทานภูตํ อิธ ปุริมทิฏฺฐิอุตฺตรทิฏฺฐิวจเนหิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

สีลพฺพตํ อุปาทิยตีติ เอตฺถ อสุทฺธิมคฺคโคสีลาทิสมาทานวเสน สีลํ, อวีติกฺกมนวเสน วตํฯ อุภยถาปิ วา สีลํ, ตโปกมฺมภาเวน คหิตตาย วตํ, ควาทิปกติภาวนาฯ อตฺตโน วา ควาทิภาวาธิฏฺฐานํ สีลํ, ‘‘คจฺฉนฺโต ภกฺเขติ, ติฏฺฐนฺโต มุตฺเตตี’’ติอาทินา ควาทิกิริยากรณํ วตํฯ ตํตํอกิจฺจสมฺมตโต วา นิวตฺติ สีลํ, ตํสมาทานวโตเวส โภชนกิจฺจกรณาทิวิเสสปฏิปตฺติ วตํ, ตํ สีลพฺพตํ อสุทฺธิมคฺคํ ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ ปรามสนฺโต ตถา อภินิวิสนฺโต อุปาทิยติ, ตํ คาหํ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ อตฺโถฯ สีลพฺพตสหจริตํ ปรามาสํ สีลพฺพตนฺติ คเหตฺวา อาห ‘‘สีลพฺพตญฺจ ตํ อุปาทานญฺจา’’ติฯ โคสีลโควตาทีนีติ จ ตถาภูตํ ทิฏฺฐิํ วทติฯ เตเนวาห ‘‘สยเมว อุปาทานานี’’ติฯ อภินิเวสโตติ อภินิเวสภาวโต, อภินิวิสนโต วาฯ อตฺตวาทุปาทานนฺติ ‘‘อตฺตา’’ติ วาทสฺส ปญฺญาปนสฺส, คหณสฺส จ การณภูตา ทิฏฺฐีติ อตฺโถฯ อตฺตวาทมตฺตเมวาติ อตฺตสฺส อภาวา ‘‘อตฺตา’’ติ อิทํ วจนมตฺตเมวฯ อุปาทิยนฺตีติ ทฬฺหํ คณฺหนฺติฯ กถํ? ‘‘อตฺตา’’ติฯ ‘‘อตฺตา’’ติ หิ อภินิวิสนฺตา วจนมตฺตเมว ทฬฺหํ กตฺวา คณฺหนฺตีติ อตฺโถติฯ

เอวํ ‘‘อตฺตวาทมตฺตเมว อุปาทิยนฺตี’’ติ วุตฺตํ อตฺตวาทมตฺตนฺติ วา วาจาวตฺถุมตฺตเมวาหฯ วาจาวตฺถุมตฺตเมว หิ ‘‘อตฺตา’’ติ อุปาทิยนฺติ อตฺตสฺส อภาวาติฯ

‘‘ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเร ปน กามุปาทานํ สงฺเขปโต ตณฺหาทฬฺหตฺตํ, เสสุปาทานตฺตยํ ทิฏฺฐิมตฺตเมว, วิตฺถารโต ปนา’’ติ เอวํ ธมฺมสงฺเขปวิตฺถารสมุทายโต ตทวยวภูตํ สงฺเขปํ, วิตฺถารญฺจ นิทฺธาเรตีติฯ ธมฺมสงฺเขปวิตฺถาเรติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ ทฏฺฐพฺพํฯ กาเมสูติ ปญฺจสุ กามคุเณสุ กามจฺฉนฺโทติ กามสงฺขาโต ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น จ ธมฺมจฺฉนฺโทฯ กามนวเสน, รญฺชนวเสน จ กาโมเยว ราโค กามราโค, เอวํ สพฺพตฺถ กามตฺถํ วิทิตฺวา กาโม เอว นนฺทนฏฺเฐน กามนนฺที, ตณฺหายนฏฺเฐน กาโมเยว กามตณฺหา, สิเนหนฏฺเฐน กาโม เอว กามสฺเนโห, ปริทยฺหนฏฺเฐน กามปริฬาโห, มุจฺฉนฏฺเฐน กามมุจฺฉา, คิลิตฺวา ปรินิฏฺฐาปนฏฺเฐน กามชฺโฌสานํ เวทิตพฺพํฯ อปฺปตฺตวิสยปตฺถนา ตณฺหา อารมฺมเณ ปริตสฺสนภาวโต, สมฺปตฺตวิสยคฺคหณํ อุปาทานํ อารมฺมเณ ทฬฺหคฺคาหภาวโตฯ อปฺปิจฺฉตาปฏิปกฺขา ตณฺหา วิสยาภิมุขภาวโต, สนฺตุฏฺฐิปฏิปกฺขา อุปาทานํ ตณฺหาทฬฺหตฺตํ หุตฺวา อตฺริจฺฉตาภาวโตฯ ปริเยสนทุกฺขมูลา ตณฺหา อปฺปตฺตวิสยปตฺถนาภาวโต, อารกฺขทุกฺขมูลํ อุปาทานํ สมฺปตฺตวิสยคฺคหณภาวโตฯ

นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทีสุ ทินฺนนฺติ ทานมาห, ตํ อผลตฺตา รูปํ วิย ทานํ นาม น โหตีติ ปฏิกฺขิปติฯ ยิฏฺฐํ วุจฺจติ มหาวิชิตยญฺญสทิโส มหายาโคฯ หุตนฺติ อาหุนปาหุนมงฺคลกิริยาฯ ตตฺถ อามนฺเตตฺวา หวนํ ทานํ อาหุนํ, ปาหุนานํ อติถีนํ อติถิกิริยา ปาหุนํ, อาวาหาทีสุ มงฺคลตฺถํ ทานํ มงฺคลกิริยา, ทส กุสลกมฺมปถา สุกตกมฺมานิ นาม, ทส อกุสลกมฺมปถา ทุกฺกฏกมฺมานิ นาม, ผลํ วิปาโกติ นิสฺสนฺทาทิผลญฺเจว นิปฺปริยายวิปาโก จ นตฺถีติ โยชนาฯ ยถา เจตฺถ, เอวํ ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทีสุปิ ผลวิปากปฏิกฺเขโปว ทฏฺฐพฺโพฯ นตฺถิ อยํ โลโกติ ปรโลเก ฐิโต อิมํ โลกํ ‘‘นตฺถี’’ติ คณฺหาติฯ อิมํ หิ โลกํ อเวกฺขิตฺวา ปรโลโก, ปรญฺจ โลกํ อเวกฺขิตฺวา อยํ โลโก โหติ คนฺตพฺพโต, อาคนฺตพฺพโต จาติ ปรโลกโต อิธาคมนสฺส อภาวา ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนโต จิตฺเตน ปรโลเก ฐิโต อิมํ โลกํ ‘‘นตฺถี’’ติ คณฺหาตีติ อตฺโถฯ น หิ อยํ ทิฏฺฐิ ปรโลเก ฐิตสฺเสว โหตีติฯ

นตฺถิ ปรโลโกติ อิธโลเก ฐิโต ปรโลกํ ‘‘นตฺถี’’ติ คณฺหาติฯ อิธาปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ อยํ วา เอตฺถ อตฺโถ – สํสรณปฺปเทโส อิธโลโก, ปรโลโก จ นาม โกจิ นตฺถิ สํสรณสฺส อภาวา ตตฺถ ตตฺเถว อุจฺฉิชฺชนโตติฯ

ปุริมภวโต ปจฺฉิมภเว อุปปตนํ อุปปาโต, โส เยสํ สีลํ, เต โอปปาติกาฯ เต ปน จวนกอุปปชฺชนกสตฺตา นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา’’ติฯ นตฺถิ โลเก สมณ…เป.… ปเวเทนฺตีติ อนุโลมปฏิปทํ ปฏิปนฺนตฺตา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา โลกสฺมิํ นตฺถิ, เย อิมญฺจ โลกํ, ปรญฺจ โลกํ อตฺตนา เอว อภิวิสิฏฺเฐน ญาเณน ปจฺจกฺขโต ญตฺวา ปเวทนสมตฺถา สพฺพญฺญุพุทฺธา นาม นตฺถีติ ทสฺเสติฯ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตีติอาทีสุ วตฺตพฺพํ เหฏฺฐา วุตฺตเมวฯ

ปกติอณุอาทีนํ สสฺสตคฺคาหปุพฺพงฺคโม, สรีรสฺส อุจฺเฉทคฺคาหปุพฺพงฺคโม จ เตสํ คาหานํ สามิภูโต โกจิ สสฺสโต, อุจฺฉิชฺชมาโน วา อตฺตา อตฺถีติ อตฺตคฺคาโห กทาจิ โหตีติ ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ วุตฺตํฯ สฺวายํ อตฺตคฺคาโห อตฺถโต ขนฺธารมฺมโณ เอว ทฏฺฐพฺโพฯ เยภุยฺเยน ปฐมํ อตฺตวาทุปาทานนฺติอาทินาว สมฺพนฺโธฯ ยทิปิ ภวราคชวนวีถิ ปฐมํ ปวตฺตติ คหิตปฏิสนฺธิกสฺส ภวนิกนฺติยา ปวตฺติตพฺพตฺตา, โส ปน ภวราโค ตณฺหาทฬฺหตฺตํ น โหตีติ มญฺญมาโน น กามุปาทานสฺส ปฐมุปฺปตฺติมาหฯ

ตณฺหา กามุปาทานนฺติ ปน วิภาคสฺส อกรเณ สพฺพาปิ ตณฺหา กามุปาทานํ, กรเณปิ วา กามราคโต อญฺญาปิ ตณฺหา ทฬฺหภาวํ ปตฺตา กามุปาทานนฺติ ตสฺส อรหตฺตมคฺควชฺฌตา วุตฺตาฯ

อุปฺปตฺติฏฺฐานภูตา จิตฺตุปฺปาทา วิสโยฯ ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา อาลโยฯ ตตฺถ รมตีติ อาลยรามา, ปชาฯ เตเนว สา อาลยรามตา สสนฺตาเน, ปรสนฺตาเน จ ปากฏา โหติฯ กามานนฺติ วตฺถุกามานํฯ ‘‘สุขทุกฺขํ กมฺมุนา โหตี’’ติ อคฺคเหตฺวา โกตูหลมงฺคลาทิพหุโล โหติฯ สา โกตูหลมงฺคลาทิพหุลตาฯ อสฺส กามุปาทานวโตฯ นฺติ ทิฏฺฐุปาทานํ, อนตฺตนิ ธมฺมมตฺเต ‘‘อตฺตา’’ติ มิจฺฉาภินิเวสสฺส สุขุมตรธมฺมุปาทานตาย สุขุมตา วุตฺตาฯ

อุปนิสฺสยวจเนน อารมฺมณานนฺตรปกตูปนิสฺสยา วุตฺตาติ อนนฺตรปจฺจยาทีนมฺปิ สงฺคโห กโต โหติฯ

อุปาทานปจฺจยาภวปทวิตฺถารกถาวณฺณนา

[646] อตฺถโตติ วจนตฺถโตฯ ธมฺมโตติ สภาวธมฺมโตฯ สาตฺถโตติ สาตฺถกโต, ปุพฺเพ วุตฺตสฺสปิ ปุน วจนสฺส สปฺปโยชนโตฯ เภทสงฺคหาติ เภทโต สงฺคหโต, วิภาคโต เจว วิภตฺตสฺส สงฺขิปนโต จาติ อตฺโถฯ ยํ ยสฺส ปจฺจโยติ ยํ ยํ อุปาทานํ ยสฺส ยสฺส ภวสฺส ปจฺจโย โหติ, ตโต จาติ อตฺโถฯ

ภวตีติ ภโวติ ผลโวหาเรน กมฺมภโว วุตฺโตฯ อุปปตฺติภวนิพฺพจนเมว หิ ทฺวยสฺสปิ สาธารณํ กตฺวา วุตฺตํ, ภวติ เอตสฺมา อุปปตฺติภโวติ วาฯ ทุติโย ปน กมฺมภโว สตฺตสฺส ปุนพฺภวภาเวน สวิเสสํ ภวตีติ ภโวฯ ตโต เอว น สพฺพสฺส ภวนฺตรสฺส, ตํเหตุโน วา ภวภาวปฺปสงฺโคฯ ทุวิเธนาติ ทฺวีหิ อากาเรหิ ปวตฺติโตติ อตฺโถฯ ทุวิเธนาติ วา ปจฺจตฺตตฺเถ กรณวจนํ, ทุวิโธติ วุตฺตํ โหติฯ อตฺถีติ สํวิชฺชติฯ

[647] อตฺตโน ปจฺจเยหิ กรียตีติ กมฺมํ, อตฺตโน ผลํ กโรตีติ กมฺมนฺติ เกจิ, ‘‘กมฺม’’นฺติ เอวํ วตฺตพฺพา กมฺมสงฺขาตาฯ ปริตฺตภูมโกติ กามภูมโกฯ มหาภูมโกติ มหคฺคตภูมโกฯ สพฺพนฺติ อนวเสสํฯ ภวํ คจฺฉติ, คเมติ จาติ ภวคามิฯ คจฺฉตีติ จ นิปฺผาทนสมตฺถตาวเสน, อตฺตโน ปวตฺติกาเล ภวาภิมุขํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ, นิพฺพตฺตนเมว วา คมนํ อธิปฺเปตํฯ ‘‘ภวคามี’’ติ จ เอเตน กมฺมกฺขยกรํ กมฺมํ นิวตฺเตติฯ อยญฺหิ วฏฺฏกถา, ตญฺจ วิวฏฺฏนิสฺสิตนฺติฯ อปุญฺญาภิสงฺขาโรติ ทฺวาทส เจตนาติ อุทฺธจฺจสหคตเจตนายปิ คหณํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอตฺถ วิย เวทิตพฺพํฯ ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ เอตฺถ ปน ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณ’’นฺติ (ม. นิ. 3.126; มหาว. 1; สํ. นิ. 2.1; อุทา. 1; เนตฺติ. 24) เอตฺถ วิย สาปิ อปเนตพฺพาฯ มนฺทพหุวิปากตาติ อปฺปมหาวิปากตาฯ