เมนู

11. สมาธินิทฺเทสวณฺณนา

อาหาเรปฏิกฺกูลภาวนาวณฺณนา

[294] อุทฺเทโส นาม นิทฺเทสตฺโถ มุทุมชฺฌิมปญฺญาพาหุลฺลโต, อาคโต จ ภาโร อวสฺสํ วหิตพฺโพติ อาห ‘‘เอกา สญฺญาติ เอวํ อุทฺทิฏฺฐาย อาหาเร ปฏิกฺกูลสญฺญาย ภาวนานิทฺเทโส อนุปฺปตฺโต’’ติฯ ตตฺถายํ สญฺญา-สทฺโท ‘‘รูปสญฺญา สทฺทสญฺญา’’ติอาทีสุ (มหานิ. 14) สญฺชานนลกฺขเณ ธมฺเม อาคโต, ‘‘อนิจฺจสญฺญา ทุกฺขสญฺญา’’ติอาทีสุ วิปสฺสนายํ อาคโต, ‘‘อุทฺธุมาตกสญฺญาติ วา โสปากรูปสญฺญาติ วา อิเม ธมฺมา เอกตฺถา อุทาหุ นานตฺถา’’ติอาทีสุ สมเถ อาคโตฯ อิธ ปน สมถสฺส ปริกมฺเม ทฏฺฐพฺโพฯ อาหาเร หิ ปฏิกฺกูลาการคฺคหณํ, ตปฺปภาวิตํ วา อุปจารชฺฌานํ อิธ ‘‘อาหาเร ปฏิกฺกูลสญฺญา’’ติ อธิปฺเปตํฯ ตตฺถ ยสฺมิํ อาหาเร ปฏิกฺกูลสญฺญา ภาเวตพฺพา, ตตฺถ นิพฺเพทวิราคุปฺปาทนาย ตปฺปสงฺเคน สพฺพมฺปิ อาหารํ กิจฺจปฺปเภทาทีนโวปมฺเมหิ วิภาเวตุํ ‘‘อาหรตีติ อาหาโร’’ติอาทิ อารทฺธํฯ

ตตฺถ อาหรตีติ อาหารปจฺจยสงฺขาเตน อุปฺปตฺติยา, ฐิติยา วา ปจฺจยภาเวน อตฺตโน ผลํ อาเนติ นิพฺพตฺเตติ ปวตฺเตติ จาติ อตฺโถฯ กพฬํ กรียตีติ กพฬีกาโร, วตฺถุวเสน เจตํ วุตฺตํ, ลกฺขณโต ปน โอชาลกฺขโณ เวทิตพฺโพ, กพฬีกาโร จ โส ยถาวุตฺเตนตฺเถน อาหาโร จาติ กพฬีการาหาโรฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ ผุสตีติ ผสฺโสฯ อยํ หิ อรูปธมฺโมปิ สมาโน อารมฺมเณ ผุสนากาเรเนว ปวตฺตติฯ ตถา หิ โส ผุสนลกฺขโณติ วุจฺจติฯ เจตยตีติ เจตนา, อตฺตโน สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ สทฺธิํ อารมฺมเณ อภิสนฺทหตีติ อตฺโถ, มโนสนฺนิสฺสิตา เจตนา มโนสญฺเจตนาฯ อุปปตฺติปริกปฺปนวเสน วิชานาตีติ วิญฺญาณํฯ เอวเมตฺถ สามญฺญตฺถโต, วิเสสตฺถโต จ อาหารา เวทิตพฺพาฯ

กสฺมา ปเนเต จตฺตาโรว วุตฺตา, อญฺเญ ธมฺมา กิํ อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยา น โหนฺตีติ? โน น โหนฺติ, อิเม ปน ตถา จ โหนฺติ อญฺญถา จาติ สมาเนปิ ปจฺจยภาเว อติเรกปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา อาหาราติ วุจฺจนฺติฯ

กถํ? เอเตสุ หิ ปฐโม สยํ ยสฺมิํ กลาเป ตปฺปริยาปนฺนานํ ยถารหํ ปจฺจโย โหนฺโตว โอชฏฺฐมกํ รูปํ อาหรติ, ทุติโย ติสฺโส เวทนา อาหรติ, ตติโย ตีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธิํ อาหรติ, จตุตฺโถ ปฏิสนฺธิกฺขเณ นามรูปํ อาหรติฯ เตนาห ‘‘กพฬีการาหาโร’’ติอาทิฯ เอตฺถ จ กมฺมชาทิเภทภินฺนา โอชา สติ ปจฺจยลาเภ ทฺเว ติสฺโส ปเวณิโย ฆเฏนฺตี โอชฏฺฐมกรูปํ อาหรติ, สุขเวทนียาทิเภทภินฺโน ผสฺสาหาโร ยถารหํ ติสฺโส เวทนา อาหรติ, ปุญฺญาภิสงฺขาราทิเภทภินฺโน มโนสญฺเจตนาหาโร กามภวาทีสุ ตีสุ ภเวสุ ยถารหํ สวิญฺญาณํ, อวิญฺญาณญฺจ ปฏิสนฺธิํ อาหรติ, วิญฺญาณาหาโร ยถาปจฺจยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ นามํ รูปํ, นามรูปญฺจ อาหรตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ อถ วา อุปตฺถมฺภกฏฺเฐน อิเม เอว ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตาฯ ยถา หิ กพฬีการาหาโร รูปกายสฺส อุปตฺถมฺภกฏฺเฐน ปจฺจโย, เอวํ อรูปิโน อาหารา สมฺปยุตฺตธมฺมานํฯ ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘กพฬีกาโร อาหาโร อิมสฺส กายสฺส อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย, อรูปิโน อาหารา สมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺฐานานญฺจ รูปานํ อาหารปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺฐา. 1.1.15)ฯ อปโร นโย – อชฺฌตฺติกสนฺตติยา วิเสสปจฺจยตฺตา กพฬีการาหาโร, ผสฺสาทโย จ ตโย ธมฺมา อาหาราติ วุตฺตาฯ วิเสสปจฺจโย หิ กพฬีการาหารภกฺขานํ สตฺตานํ รูปกายสฺส กพฬีการาหาโร, นามกาเย เวทนาย ผสฺโส, วิญฺญาณสฺส มโนสญฺเจตนา, นามรูปสฺส วิญฺญาณํฯ ยถาห ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อยํ กาโย อาหารฏฺฐิติโก, อาหารํ ปฏิจฺจ ติฏฺฐติ, อนาหาโร โน ติฏฺฐติ (สํ. นิ. 5.183)ฯ ตถา ผสฺสปจฺจยา เวทนา, สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (อุทา. 1; มหาว. 1; เนตฺติ. 24)ฯ

กพฬีการาหาเรติ กพฬีกาเร อาหาเร นิกนฺติ ตณฺหา, ตํ ภยํ อนตฺถาวหโตฯ คธิตสฺส หิ อาหารปริโภโค อนตฺถาย โหติฯ เหตุอตฺเถ ภุมฺมํฯ เอวํ เสเสสุฯ

นิกนฺตีติ นิกามนา ฉนฺทราโค ฯ ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ, นิกนฺติ เอว ภยํ นิกนฺติภยํฯ กพฬีการาหารเหตุ อิเมสํ สตฺตานํ ฉนฺทราโค ภยํ ภยานกํ ทิฏฺฐธมฺมิกาทิเภทสฺส อนตฺถสฺส สกลสฺสาปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส เหตุภาวโตฯ เตเนวาห ‘‘กพฬีกาเร เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค, อตฺถิ นนฺที, อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺฐิตํ ตตฺถ วิญฺญาณํ วิรุฬฺห’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. 2.64; กถา. 296; มหานิ. 7)ฯ อุปคมนํ อปฺปหีนวิปลฺลาสสฺส อารมฺมเณน สโมธานํ สงฺคติ สุขเวทนียาทิผสฺสุปฺปตฺติ ภยํ ภยานกํ ตีหิ ทุกฺขตาหิ อปริมุจฺจนโตฯ เตนาห ‘‘สุขเวทนียํ, ภิกฺขเว, ผสฺสํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขา เวทนา (สํ. นิ. 4.129), ตสฺส เวทนาปจฺจยา ตณฺหา…เป.… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (อุทา. 1)ฯ ตตฺถ ตตฺถ ภเว อุปปชฺชติ เอเตนาติ อุปปตฺติ, อุปปชฺชนํ วา อุปปตฺติ, ขิปนํ ภยํ ภยานกํ อุปปตฺติมูลเกหิ พฺยสเนหิ อปริมุตฺตโตฯ เตนาห ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปุญฺญญฺเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, ปุญฺญุปคํ ภวติ วิญฺญาณํฯ อปุญฺญญฺเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรติ, อปุญฺญุปคํ ภวติ วิญฺญาณ’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. 2.51)ฯ ปฏิสนฺธีติ ภวนฺตราทีหิ ปฏิสนฺธานํ, ตํ ภยํ ภยานกํ ปฏิสนฺธินิมิตฺเตหิ ทุกฺเขหิ อวิมุจฺจนโตฯ เตนาห ‘‘วิญฺญาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร อตฺถิ ราโค, อตฺถิ นนฺที, อตฺถิ ตณฺหา, ปติฏฺฐิตํ ตตฺถ วิญฺญาณํ วิรุฬฺห’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. 2.64)ฯ

ปุตฺตมํสูปเมน โอวาเทน ทีเปตพฺโพ นิจฺฉนฺทราคปริโภคายฯ เอวํ หิ ตตฺถ นิกนฺติภยํ น โหติฯ นิจฺจมฺมา คาวี ยํ ยํ ฐานํ อุปคจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺเถว นํ ปาณิโน ขาทนฺติเยวฯ เอวํ ผสฺเส สติ เวทนา อุปฺปชฺชติ, เวทนา จ ทุกฺขสลฺลาทิโต ทฏฺฐพฺพาติ ผสฺเส อาทีนวํ ปสฺสนฺตสฺส อุปคมนภยํ น โหตีติ อาห ‘‘ผสฺสาหาโร นิจฺจมฺมคาวูปเมน ทีเปตพฺโพ’’ติฯ เอกาทสหิ อคฺคีหิ สพฺพโส อาทิตฺตา ภวา องฺคารกาสุสทิสาติ ปสฺสโต อุปปตฺติภยํ น โหตีติ อาห ‘‘มโนสญฺเจตนาหาโร องฺคารกาสูปเมน ทีเปตพฺโพ’’ติฯ โจรสทิสํ วิญฺญาณํ อนตฺถปาตโต, ปหารสทิสี เวทนา ทุรธิวาสโตติ สมฺมเทว ปสฺสโต ปฏิสนฺธิภยํ น โหตีติ อาห ‘‘วิญฺญาณาหาโร สตฺติสตูปเมน ทีเปตพฺโพ’’ติฯ

เอวํ กิจฺจาทิมุเขน อาหาเรสุ อาทีนวํ วิภาเวตฺวา อิทานิ ตตฺถ ยถาธิปฺเปตํ อาหารํ นิทฺธาเรตฺวา ปฏิกฺกูลโต มนสิการวิธิํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิเมสุ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อุปาทายรูปนิทฺเทเสปิ ‘‘กพฬีกาโร อาหาโร’’ติ (ธ. ส. 595) อาคตตฺตา ตโต วิเสเสนฺโต ‘‘อสิตปีตขายิตสายิตปฺปเภโท’’ติ อาห, ภูตกถนํ วา เอตํฯ ตตฺถ อสิตปีตขายิตสายิตปฺปเภโทติ อสิตพฺพปาตพฺพขายิตพฺพสายิตพฺพวิภาโค กาลเภทวจนิจฺฉาย อภาวโต ยถา ‘‘ทุทฺธ’’นฺติฯ กพฬีกาโร อาหาโร วาติ อวธารณํ ยถา ผสฺสาหาราทินิวตฺตนํ, เอวํ โอชาหารนิวตฺตนมฺปิ ทฏฺฐพฺพํฯ สวตฺถุโก เอว หิ อาหาโร อิธ กมฺมฏฺฐานภูโต, เตน อาหรียตีติ อาหาโรติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพฯ อาหรตีติ อาหาโรติ อยํ ปนตฺโถ นิพฺพตฺติตโอชาวเสน เวทิตพฺโพฯ อิมสฺมิํ อตฺเถติ อิมสฺมิํ กมฺมฏฺฐานสงฺขาเต อตฺเถฯ อุปฺปนฺนา สญฺญาติ สญฺญาสีเสน ภาวนํ วทติฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ปฏิกฺกูลาการคฺคหณวเสน ปนา’’ติอาทิ (วิสุทฺธิ. 1.305)ฯ

กมฺมฏฺฐานํ อุคฺคเหตฺวาติ กมฺมฏฺฐานํ ปริยตฺติธมฺมโต, อตฺถโต จ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริตํ กตฺวาฯ เตนาห ‘‘อุคฺคหโต เอกปทมฺปิ อวิรชฺฌนฺเตนา’’ติฯ ตตฺถ อุคฺคหโตติ อาจริยุคฺคหโตฯ เอกปทมฺปีติ เอกมฺปิ ปทํ, เอกโกฏฺฐาสมฺปิ วา, ปเทสมตฺตมฺปีติ อตฺโถฯ ทสหากาเรหีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อนฺติมชีวิกาภาวโต, ปิณฺฑปาตสฺส อลาภลาเภสุ ปริตสฺสนเคธาทิสมุปฺปตฺติโต, ภุตฺตสฺส สมฺมทชนนโต, กิมิกุลสํวทฺธนโตติ เอวมาทีหิปิ อากาเรหิ อาหาเร ปฏิกฺกูลตา ปจฺจเวกฺขิตพฺพา? วุตฺตํ เหตํ ‘‘อนฺตมิทํ, ภิกฺขเว, ชีวิกานํ ยทิทํ ปิณฺโฑลฺยํ, อภิสาโปยํ, ภิกฺขเว, โลกสฺมิํ ‘ปิณฺโฑโล วิจรสิ ปตฺตปาณี’’’ติ (สํ. นิ. 3.80), ‘‘อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ คธิโต มุจฺฉิโต อชฺโฌสนฺโน อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปญฺโญ ปริภุญฺชตี’’ติ (อ. นิ. 3.124), ‘‘ภุตฺโต จ อาหาโร กสฺสจิ กทาจิ มรณํ วา มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ อาวหติ, อุกฺโกจกาทโย, ตกฺโกฏกาทโย จ ทฺวตฺติํส ทฺวตฺติํส กุลปฺปเภทา กิมโย จ นํ อุปนิสฺสาย ชีวนฺตี’’ติฯ

วุจฺจเต – อนฺติมชีวิกาภาโว ตาว จิตฺตสํกิเลสวิโสธนตฺถํ กมฺมฏฺฐานาภินิเวสโต ปเคว มนสิ กาตพฺโพ ‘‘มาหํ ฉวาลาตสทิโส ภเวยฺย’’นฺติฯ ตถา ปิณฺฑปาตสฺส อลาภลาเภสุปิ ปริตสฺสนเคธาทิสมุปฺปตฺตินิวารณํ ปเคว อนุฏฺฐาตพฺพํ สุปริสุทฺธสีลสฺส ปฏิสงฺขานวโต ตทภาวโตฯ ภตฺตสมฺมโท อเนกนฺติโก, ปริโภคนฺโตคโธ วา เวทิตพฺโพฯ กิมิกุลสํวทฺธนํ ปน น สงฺคเหตพฺพํ, สงฺคหิตเมว วา ‘‘ทสหากาเรหี’’ติ เอตฺถ นิยมสฺส อกตตฺตาฯ อิมินา วา นเยน อิตเรสมฺเปตฺถ สงฺคโห ทฏฺฐพฺโพ ยถาสมฺภวเมตฺถ ปฏิกฺกูลตาปจฺจเวกฺขณสฺส อธิปฺเปตตฺตาฯ ตถา หิ ฆรโคฬิกวจฺจมูสิกชตุกวจฺจาทิกํ สมฺภวนฺตํ คหิตํ, น เอกนฺติกนฺติฯ ตถา ปริเยสนาทีสุปิ ยถาสมฺภวํ วตฺตพฺพํฯ

คมนโตติอาทีสุ ปจฺจาคมนมฺปิ คมนสภาคตฺตา คมเนเนว สงฺคหิตํฯ ปฏิกฺกมนสาลาทิอุปสงฺกมนํ วิย ปริเยสเน สมานปฏิกฺกูลํ หิ อสุจิฏฺฐานกฺกมนวิรูปทุคฺคนฺธทสฺสนฆายนาธิวาสเนหิฯ คมนโตติ ภิกฺขาจารวเสน โคจรคามํ อุทฺทิสฺส คมนโตฯ ปริเยสนโตติ โคจรคาเม ภิกฺขตฺถํ อาหิณฺฑนโตฯ ปริโภคโตติ อาหารสฺส ปริภุญฺชนโตฯ อุภยํ อุภเยน อาสยติ, เอกชฺฌํ ปวตฺตมาโนปิ กมฺมพลววตฺถิโต หุตฺวา มริยาทวเสน อญฺญมญฺญํ อสงฺกรโต สยติ ติฏฺฐติ ปวตฺตตีติ อาสโย, อามาสยสฺส อุปริ ติฏฺฐนโก ปิตฺตาทิโกฯ มริยาทตฺโถ หิ อยมากาโร, ตโต อาสยโตฯ นิทธาติ ยถาภุตฺโต อาหาโร นิจิโต หุตฺวา ติฏฺฐติ เอตฺถาติ นิธานํ, อามาสโย, ตโต นิธานโตฯ อปริปกฺกโตติ คหณีสงฺขาเตน กมฺมชเตเชน อปริปกฺกโตฯ ปริปกฺกโตติ ยถาภุตฺตสฺส อาหารสฺส วิปกฺกภาวโตฯ ผลโตติ นิพฺพตฺติโตฯ นิสฺสนฺทโตติ อิโต จิโต จ วิสฺสนฺทนโตฯ สมฺมกฺขนโตติ สพฺพโส มกฺขนโตฯ สพฺพตฺถ อาหาเร ปฏิกฺกูลตา ปจฺจเวกฺขิตพฺพาติ โยชนาฯ ตํตํกิริยานิปฺผตฺติปฏิปาฏิวเสน จายํ คมนโตติอาทิกา อนุปุพฺพี ฐปิตา, สมฺมกฺขนํ ปน ปริโภคาทีสุ ลพฺภมานมฺปิ นิสฺสนฺทวเสน วิเสสโต ปฏิกฺกูลนฺติ สพฺพปจฺฉา ฐปิตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ

[295] เอวํ มหานุภาเวติ อิทานิ วตฺตพฺพปฏิปตฺติยา มหานุภาเวติ วทนฺติ, สพฺพตฺถกกมฺมฏฺฐานปริหรณาทิสิทฺธํ วา ธมฺมสุธมฺมตํ ปุรกฺขตฺวา โยคาวจเรน เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ มหานุภาเว นาม สาสเน’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ นาม-สทฺโท สมฺภาวเน ทฏฺฐพฺโพฯ ปพฺพชิเตน คามาภิมุเขน คนฺตพฺพนฺติ โยชนาฯ อยญฺจ คมนาทิโต ปจฺจเวกฺขณา โยคิโน น อตฺตุทฺเทสิกาว, อถ โข อนุทฺเทสิกาปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สกลรตฺติ’’นฺติอาทินา ธุรทฺวยํ ปริคฺคเหสิฯ ปริเวณนฺติ ปริเวณงฺคณํฯ วีสติํสวาเรติ เอตฺถ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนวเสน วารปริจฺเฉโทติ เกจิ, อปเร ปน ‘‘อุณฺหาสเนนา’’ติ วทนฺติฯ นีวรณวิกฺขมฺภนญฺหิ อปฺปตฺตา ภาวนา ผรณปีติยา อภาวโต นิสชฺชาวเสน กายกิลมถํ น วิโนทติเยวาติ อิริยาปถจลนํ โหติเยวฯ วีสติํสคฺคหณํ ปน ยถาสลฺลกฺขิตภิกฺขาจรณเวลาวเสนฯ อถ วา คมนโต ยาว สมฺมกฺขนมนสิกาโร เอโก วาโร, เอวํ วีสติํสวาเร กมฺมฏฺฐานํ มนสิ กริตฺวาฯ นิชนสมฺพาธานีติ ชนสมฺพาธรหิตานิ, เตน อปฺปากิณฺณตํ, อปฺปสทฺทตํ, อปฺปนิคฺโฆสตญฺจ ทสฺเสติฯ ตโต เอว ปวิเวกสุขานิ ชนวิเวเกน อิฏฺฐานิ, ปวิเวกสฺส วา ฌานานุโยคสฺส อุปการานิฯ ยสฺมา ฉายูทกสมฺปนฺนานิ, ตสฺมา สีตลานิฯ ยสฺมา สุจีนิ, ตสฺมา รมณียภูมิภาคานีติ ปุริมานิ ทฺเว ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ การณวจนานิฯ อริยนฺติ นิทฺโทสํฯ วิเวกรตินฺติ ฌานานุโยครติํฯ

กิญฺจาปิ โยคาวจรานํ วสนฏฺฐานํ นาม สุชคฺคิตํ สุสมฺมฏฺฐเมว โหติ, กทาจิ ปน ชคฺคนโต ปจฺฉา เอวมฺปิ สิยาติ ปฏิกฺกูลตาปจฺจเวกฺขณาย สมฺภวทสฺสนตฺถํ ‘‘ปาทรชฆรโคลิกวจฺจาทิสมฺปริกิณฺณ’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ ตตฺถ ปจฺจตฺถรณนฺติ ภูมิยา ฉวิรกฺขณตฺถํ อตฺถริตพฺพํ จิมิลิกาทิอตฺถรณมาหฯ ชตุกา ขุทฺทกวคฺคุลิโยฯ อุปหตตฺตาติ ทูสิตตฺตาฯ ตโตติ ตโต ตโตฯ อปฺเปกทา อุลูกปาราวตาทีหีติ อิธาปิ ‘‘อปฺเปกทา’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํฯ อุทกจิกฺขลฺลาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน กจวราทิํ สงฺคณฺหาติฯ ปริเวณโต วิหารงฺคณปฺปเวสมคฺโค วิหารรจฺฉา

วิตกฺกมาฬเกติ ‘‘กตฺถ นุ โข อชฺช ภิกฺขาย จริตพฺพ’’นฺติอาทินา วิตกฺกนมาฬเกฯ คามมคฺคนฺติ คามคามิมคฺคํฯ ขาณุกณฺฏกมคฺโคติ ขาณุกณฺฏกวนฺโต มคฺโคฯ ทฏฺฐพฺโพ โหตีติ ทสฺสเนน คมนํ อุปลกฺเขติฯ

คณฺฑํ ปฏิจฺฉาเทนฺเตนาติอาทิ เอวมชฺฌาสเยน นิวาสนาทิ กาตพฺพนฺติ วตฺตทสฺสนํ, คณฺฑโรคินา วาตาตปาทิปริสฺสยวิโนทนตฺถํ คณฺฑํ ปฏิจฺฉาทยมาเนน วิยฯ อถ วา คณฺฑํ วิย คณฺฑํ ปฏิจฺฉาทยมาเนนาติ เอกํ คณฺฑ-สทฺทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ ภวติฯ ‘‘คณฺโฑติ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ (อ. นิ. 9.15; สํ. นิ. 4.103) วจนโต คณฺโฑติ อตฺตภาวสฺส ปริยาโย, วิเสสโต รูปกายสฺส ทุกฺขตาสูลโยคโต, อสุจิปคฺฆรณโต, อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตกปกฺกปภิชฺชนโตฯ วณโจฬกนฺติ วณปฏิจฺฉาทกวตฺถขณฺฑํฯ นีหริตฺวาติ ถวิกโต อุทฺธริตฺวาฯ กุณปานิปีติ ปิ-สทฺโท ครหายํ เอวรูปานิปิ ทฏฺฐพฺพานิ ภวนฺตีติ, สมฺภวทสฺสเน วา อิทมฺปิ ตตฺถ สมฺภวตีติฯ อธิวาเสตพฺโพติ ขมิตพฺโพ อญฺญถา อาหารสฺส อนุปลพฺภนโตฯ คามทฺวาเรติ คามทฺวารสมีเป, อุมฺมารพฺภนฺตเร วาฯ คามรจฺฉา วินิวิชฺฌิตฺวา ฐิตา โอโลเกตพฺพา โหนฺติ ยุคมตฺตทสฺสินาปิ สตาติ อธิปฺปาโยฯ

ปจฺจตฺถรณาทีติ ฆรโคลิกวจฺจาทิสํกิลิฏฺฐปจฺจตฺถรณาทิกํฯ อเนกกุณปปริโยสานนฺติ เอตฺถ ทุนฺนิวตฺถทุปฺปารุตมนุสฺสสมากุลานํ คามรจฺฉานํ โอโลกนมฺปิ อาเนตฺวา วตฺตพฺพํฯ ตมฺปิ หิ ปฏิกฺกูลเมวาติฯ อโห วตาติ ครหเน นิปาโตฯ โภติ ธมฺมาลปนํฯ ยาวญฺจิทํ ปฏิกฺกูโล อาหาโร ยทตฺถํ คมนมฺปิ นาม เอวํ เชคุจฺฉํ, ทุรธิวาสนญฺจาติ อตฺโถฯ

[296] คมนปฏิกฺกูลนฺติ คมนเมว ปฏิกฺกูลํ คมนปฏิกฺกูลํฯ อธิวาเสตฺวาปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน ‘‘เอตฺตเกนาปิ มุตฺติ นตฺถิ, อิโต ปรมฺปิ มหนฺตํ ปฏิกฺกูลํ สกลํ อธิวาเสตพฺพเมวา’’ติ วกฺขมานํ ปฏิกฺกูลํ สมฺปิณฺเฑติฯ สงฺฆาฏิปารุเตนาติ สงฺฆาฏิยา กปฺปนปารุปเนน ปารุตสรีเรนฯ ยตฺถาติ ยาสุ วีถีสุฯ ยาว ปิณฺฑิกมํสาปีติ ยาว ชงฺฆปิณฺฑิกมํสปฺปเทสาปิฯ อุทกจิกฺขลฺเลติ อุทกมิสฺเส กทฺทเมฯ เอเกน จีวรนฺติ เอเกน หตฺเถน นิวตฺถจีวรํฯ มจฺฉา โธวียนฺติ เอเตนาติ มจฺฉโธวนํ, อุทกํฯ สมฺมิสฺส-สทฺโท ปจฺเจกํ สมฺพนฺธิตพฺโพฯ โอฬิคลฺลานิ อุจฺฉิฏฺโฐทกคพฺภมลาทีนํ สกทฺทมานํ สนฺทนฏฺฐานานิ, ยานิ ชณฺณุมตฺตอสุจิภริตานิปิ โหนฺติฯ

จนฺทนิกานิ เกวลานํ อุจฺฉิฏฺโฐทกคพฺภมลาทีนํ สนฺทนฏฺฐานานิ ยโตติ โอฬิคลฺลาทิโตฯ ตา มกฺขิกาติ ตตฺถ สณฺฑสณฺฑจาริโน นีลมกฺขิกาฯ นิลียนฺตีติ อจฺฉนฺติฯ

ททมานาปีติอาทิ สติปิ เกสญฺจิ สทฺธานํ วเสน สกฺกจฺจกาเร ปฏิกฺกูลปจฺจเวกฺขณาโยคฺยํ ปน อสทฺธานํ วเสน ปวตฺตนกอสกฺกจฺจการเมว ทสฺเสตุํ อารทฺธํฯ ตุณฺหี โหนฺติ สยเมว ริญฺจิตฺวา คจฺฉิสฺสตีติฯ คจฺฉาติ อเปหิฯ เรติ อมฺโภฯ มุณฺฑกาติ อนาทราลปนํฯ สมุทาจรนฺตีติ กเถนฺติฯ ปิณฺโฑลฺยสฺส อนฺติมชีวิกาภาเวนาห ‘‘กปณมนุสฺเสน วิย คาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติฯ

[297] ตตฺถาติ ตสฺมิํ ปตฺตคเต อาหาเรฯ ลชฺชิตพฺพํ โหติ ‘‘อุจฺฉิฏฺฐํ นุ โข อยํ มยฺหํ ทาตุกาโม’’ติ อาสงฺเกยฺยาติ, เสโท ปคฺฆรมาโน อาหารสฺส วา อุณฺหตาย, ภิกฺขุโน วา สปริฬาหตายาติ อธิปฺปาโยฯ สุกฺขถทฺธภตฺตมฺปีติ สุกฺขตาย ถทฺธมฺปิ ภตฺตํ, ปเคว ตกฺกกญฺชิกาทินา อุปสิตฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ เตน เสเทน กิลินฺนตาย ปฏิกฺกูลตํ วทติฯ

ตสฺมินฺติ ปิณฺฑปาเตฯ สมฺภินฺนโสเภติ สพฺพโส วินฏฺฐโสเภฯ เวมชฺฌโต ปฏฺฐายาติ ชิวฺหาย มชฺฌโต ปฏฺฐายฯ ทนฺตคูถโก ทนฺตมลํฯ วิจุณฺณิตมกฺขิโตติ อุภเยหิ ทนฺเตหิ วิจุณฺณิโต เขฬาทีหิ สมุปลิตฺโตฯ เอวํภูตสฺส จสฺส ยายํ ปุพฺเพ วณฺณสมฺปทา, คนฺธสมฺปทา, อภิสงฺขารสมฺปทา จ, สา เอกํเสน วินสฺสติ, รโส ปน นสฺเสยฺย วา น วาติ อาห ‘‘อนฺตรหิตวณฺณคนฺธสงฺขารวิเสโส’’ติฯ สุวานโทณิยนฺติ สารเมยฺยานํ ภุญฺชนกอมฺพเณฯ สุวานวมถุ วิยาติ วนฺตสุนขฉฑฺฑนํ วิยฯ จกฺขุสฺส อาปาถํ อตีตตฺตา อชฺโฌหริตพฺโพ โหตีติ อุกฺกํสคตํ ตสฺส ปฏิกฺกูลภาวํ วิภาเวติฯ

[298] ปริโภคนฺติ อชฺโฌหรณํฯ เอส อาหาโร อนฺโต ปวิสมาโน พหลมธุกเตลมกฺขิโต วิย ปรมเชคุจฺโฉ โหตีติ สมฺพนฺโธฯ อนฺโตติ โกฏฺฐสฺส อพฺภนฺตเรฯ นิธานมนุปคโต อามาสยํ อปฺปตฺโตเยว อาหาโร ปิตฺตาทีหิ วิมิสฺสิโต โหตีติ อาห ‘‘ปวิสมาโน’’ติฯ

อามาสยปกฺกาสยวินิมุตฺโต โกยมาสโย นามาติ อาสงฺกํ สนฺธายาห ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิฯ ปิตฺตเมวาสโย ปิตฺตาสโยฯ อธิโก โหตีติ วุตฺตํ มนฺทปุญฺญพาหุลฺลโต โลกสฺสฯ เอวํ อาสยโตติ เชคุจฺโฉ หุตฺวา อนฺโต ปวิฏฺโฐ เชคุจฺฉตเรหิ ปิตฺตาทีหิ วิมิสฺสิโต อติวิย เชคุจฺโฉ โหตีติ เอวํ อาสยโต ปฏิกฺกูลตา ปจฺจเวกฺขิตพฺพาฯ

[299] นิธานโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ โสติ อาหาโรฯ ทสวสฺสิเกนาติ ชาติยา ทสวสฺเสน สตฺเตนฯ โอกาเสติ อามาสยสงฺขาเต ปเทเสฯ

[300] เอวรูเปติ เอทิเส, ทสวสฺสานิ ยาว วสฺสสตํ อโธตวจฺจกูปสทิเสติ อตฺโถฯ นิธานนฺติ นิธาตพฺพตํฯ ยถาวุตฺตปฺปกาเรติ สเจ ปน ‘‘ทสวสฺสิเกนา’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. 1.299) ยถาวุตฺโต ปกาโร เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตปฺปกาโร, ตสฺมิํฯ ปรมนฺธการติมิเสติ อติวิย อนฺธกรณมหาตมสิฯ อติทุคฺคนฺธเชคุจฺเฉ ปเทเส ปรมเชคุจฺฉภาวํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺฐตีติ สมฺพนฺโธฯ กตฺถ กิํ วิยาติ อาห ‘‘ยถา นามา’’ติอาทิฯ กาลเมเฆน อภิวุฏฺเฐ อาวาเฏ พหุโส วสฺสเนน เอกจฺจํ อสุจิชาตํ อุปฺปิลวิตฺวา วิคจฺเฉยฺยาติ อกาลเมฆ-คฺคหณํฯ ติณปณฺณกิลญฺชขณฺฑ-คฺคหณํ น อสุภสฺสาปิ อสุเภน สมฺมิสฺสตาย อสุภภาวปฺปตฺติทสฺสนตฺถํฯ กายคฺคิสนฺตาปกุถิตกุถนสญฺชาตเผณปุพฺพุฬกาจิโตติ คหณิเตเชน ปกฺกุถิตนิปฺปกฺกตาย สมุปฺปนฺนเผณปุพฺพุฬนิจิโตฯ อปริปกฺกโตติ อปริปกฺกภาวโตฯ

[301] สุวณฺณรชตาทิธาตุโย วิยาติ ยถา สุวณฺณรชตาทิธาตุโย วิธินา ตาปิยมานา สุวณฺณรชตาทิเก มุญฺจนฺติโย สุวณฺณรชตาทิภาวํ อุปคจฺฉนฺตีติ วุจฺจนฺติ, น เอวมยํฯ อยํ ปน อาหาโร กายคฺคินา ปริปกฺโก เผณปุพฺพุฬเก มุญฺจนฺโต สณฺหํ กโรนฺติ เอตฺถาติ ‘‘สณฺหกรณี’’ติ ลทฺธนามเก นิสเท ปิสิตฺวา นาฬิเก ขุทฺทกเวฬุนาฬิกายํ วณฺณสณฺฐานมตฺเตน ปกฺขิปฺปมานปณฺฑุมตฺติกา วิย กรีสภาวํ อุปคนฺตฺวา ปกฺกาสยํ ปูเรติ, มุตฺตภาวํ อุปคนฺตฺวา มุตฺตวตฺถิํ ปูเรตีติ โยชนาฯ

คหณิยา อินฺธนภาโค วิย กิมิภกฺขภาโค จ อปากโฏว ฯ รสภาโค ผลโต ปกาสียติ, อปริปกฺกสภาคา จ เตติ เต อนามสิตฺวา กรีสมุตฺตภาคา เอเวตฺถ ทสฺสิตาฯ

[302] ปฏิกฺกูลสฺส นาม ผเลน ปฏิกฺกูเลเนว ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺมา ปริปจฺจมาโน’’ติอาทิมาหฯ นขทนฺตาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน น เกวลํ ตจาทีนิ เอว ทฺวตฺติํสาการปาฬิยํ (ม. นิ. 3.154; ขุ. ปา. 3.ทฺวตฺติํสาการ) อาคตานิ, อถ โข อกฺขิคูถกณฺณคูถทนฺตมลชลฺลิกาสมฺภวาทีนิ ทฺวตฺติํสโกฏฺฐาสวินิมุตฺตานิ อสุภานิ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘นานากุณปานี’’ติ อาหาติ ทฏฺฐพฺพํฯ

[303] นิสฺสนฺทมาโนติ วิสฺสวนฺโต, ปคฺฆรนฺโตติ อตฺโถฯ อาทินา ปกาเรนาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน นาสิกาย สิงฺฆาณิกา, มุเขน เขโฬ, กทาจิ ปิตฺตํ, เสมฺหํ, โลหิตํ วมติ, วจฺจมคฺเคน อุจฺจาโร, ปสฺสาวมคฺเคน ปสฺสาโว, สกลกาเย โลมกูเปหิ เสทชลฺลิกาติ เอวํปการํ อสุจิํ สงฺคณฺหาติฯ ‘‘ปฐมทิวเส’’ติ อิทํ นิสฺสนฺททิวสาเปกฺขาย วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘ทุติยทิวเส นิสฺสนฺเทนฺโต’’ติฯ วิกุณิตมุโขติ ชิคุจฺฉาวเสน สงฺกุจิตมุโขฯ เตนาห ‘‘เชคุจฺฉี’’ติฯ มงฺกุภูโตติ วิมนกชาโต ‘‘อิมมฺปิ นาม โปเสมี’’ติฯ รตฺโตติ วตฺถํ วิย รงฺคชาเตน จิตฺตสฺส วิปริณามากาเรน ฉนฺทราเคน รตฺโตฯ คิทฺโธติ อภิกงฺขนสภาเวน อภิคิชฺฌเนน คิทฺโธ เคธํ อาปนฺโนฯ คธิโตติ ทุมฺโมจนียภาเวน คนฺถิโต วิย ตตฺถ ปฏิพทฺโธฯ มุจฺฉิโตติ รสตณฺหาย มุจฺฉํ โมหํ อาปนฺโนฯ วิรตฺโตติ วิคตราโคฯ อฏฺฏียมาโนติ ทุกฺขิยมาโนฯ หรายมาโนติ ลชฺชมาโนฯ ชิคุจฺฉมาโนติ หีเฬนฺโตฯ

นวทฺวาเรหีติ ปากฏานํ มหนฺตานํ วเสน วุตฺตํ, โลมกูปวิวเรหิปิ สนฺทเตวาติฯ นิลียตีติ อตฺตานํ อทสฺเสนฺโต นิคูหติ, สงฺกุจติ วาฯ เอวนฺติ เอเกน ทฺวาเรน ปเวสนํ อเนเกหิ ทฺวาเรหิ อเนกธา นิกฺขามนํ, ปกาสนํ ปเวสนํ, นิคูฬฺหํ นิกฺขามนมฺปีติ โสมนสฺสชาเตน ปเวสนํ, มงฺกุภูเตน นิกฺขามนํ, สารตฺเตน ปเวสนํ, วิรตฺเตน นิกฺขามนนฺติ อิเมหิ ปกาเรหิฯ

[304] ปริโภคกาเลปีติ ปิ-สทฺเทน ปวิฏฺฐมตฺโตปิ นาม ปเวสทฺวารํ เชคุจฺฉํ กโรติ, ปเคว ลทฺธปริวาโส ปริปากปฺปตฺโต อิตรทฺวารานีติ ทสฺเสติฯ เอส อาหาโรฯ คนฺธหรณตฺถนฺติ วิสฺสคนฺธาปนยนตฺถํฯ กายคฺคินาติ คหณิเตชานุคเตน กายุสฺมานาฯ เผณุทฺเทหกนฺติ เผณานิ อุฏฺฐเปตฺวา อุฏฺฐเปตฺวาฯ ปจฺจิตฺวาติ ปริปากํ คนฺตฺวาฯ อุตฺตรมาโนติ อุปฺปิลวนฺโตฯ เสมฺหาทีติ อาทิ-สทฺเทน ปิตฺตาทิเก สงฺคณฺหาติฯ กรีสาทีติ อาทิ-สทฺเทน เสทชลฺลิกาทิเกฯ อิมานิ ทฺวารานิ มุขาทีนิฯ เอกจฺจนฺติ ปสฺสาวมคฺคํ สนฺธาย วทติฯ โจกฺขชาติกา ปน มุขาทีนิปิ โธวิตฺวา หตฺถํ ปุน โธวนฺติเยวฯ ปุน เอกจฺจนฺติ วจฺจมคฺคํฯ ทฺวตฺติกฺขตฺตุนฺติ ทฺวิกฺขตฺตุํ, ติกฺขตฺตุํ วาฯ เอตฺถ จ อาหารตฺถาย คมนปริเยสนานํ ปฏิกฺกูลตา อาหาเร ปฏิกฺกูลตา วุตฺตาฯ ปริโภคสฺส ตนฺนิสฺสยโต, อาสยนิธานานํ ตํสมฺพนฺธโต, อิตเรสํ ตพฺพิการโตติ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพฯ กิมิภกฺขภาโวปิ หิสฺส วิการปกฺเขเยว ฐเปตพฺโพติฯ

[305] ตํ นิมิตฺตนฺติ ยถาวุตฺเตหิ อากาเรหิ ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรนฺตสฺส ปฏิกฺกูลาการวเสน อุปฏฺฐิตํ กพฬีการาหารสญฺญิตํ ภาวนาย นิมิตฺตํ อารมฺมณํ, น อุคฺคหปฏิภาคนิมิตฺตํฯ ยทิ หิ ตตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺเชยฺย, ปฏิภาคนิมิตฺเตนปิ ภวิตพฺพํฯ ตถา จ สติ อปฺปนาปฺปตฺเตน ฌาเนน ภวิตพฺพํ, น จ ภวติ, กสฺมา? ภาวนาย นานาการโต, สภาวธมฺมภาเวน จ กมฺมฏฺฐานสฺส คมฺภีรภาวโตฯ เตนาห ‘‘กพฬีการาหารสฺส สภาวธมฺมตาย คมฺภีรตฺตา’’ติฯ เอตฺถ หิ ยทิปิ ปฏิกฺกูลาการวเสน ภาวนา ปวตฺตติฯ เย ปน ธมฺเม อุปาทาย กพฬีการาหารปญฺญตฺติ, เต เอว ธมฺมา ปฏิกฺกูลา, น ปญฺญตฺตีติ ปฏิกฺกูลาการคฺคหณมุเขนปิ สภาวธมฺเมเยว อารพฺภ ภาวนาย ปวตฺตนโต, สภาวธมฺมานญฺจ สภาเวเนว คมฺภีรภาวโต น ตตฺถ ฌานํ อปฺเปตุํ สกฺโกติฯ คมฺภีรภาวโต หิ ปุริมสจฺจทฺวยํ ทุทฺทสํ ชาตนฺติฯ ยทิ อุปจารสมาธินา จิตฺตํ สมาธิยติ, กถํ กมฺมฏฺฐานํ ‘‘สญฺญา’’ อิจฺเจว โวหรียตีติ อาห ‘‘ปฏิกฺกูลาการคฺคหณวเสน ปนา’’ติอาทิฯ

อิทานิ อิมิสฺสา ภาวนาย อานิสํสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมญฺจ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ รสตณฺหายาติ มธุราทิรสวิสยาย ตณฺหายฯ ปติลียตีติ สงฺกุจติ อเนกาการํ ตตฺถ ปฏิกฺกูลตาย สณฺฐิตตฺตาฯ

ปติกุฏตีติ อปสกฺกติ น วิสรติฯ ปติวตฺตตีติ นิวตฺตติฯ กนฺตารนิตฺถรณตฺถิโกติ มหโต ทุพฺภิกฺขกนฺตารสฺส นิตฺถรณปฺปโยชโนฯ วิคตมโทติ มานมทาทีนํ อภาเวน นิมฺมโท, มทาภาวคฺคหเณเนว จสฺส ทวมณฺฑนวิภูสนาทีนมฺปิ อภาโว คหิโตเยวาติ ทฏฺฐพฺพํฯ กพฬีการาหารปริญฺญามุเขนาติ วุตฺตนเยน ปฏิกฺกูลาการโต กพฬีการาหารสฺส ปริจฺฉิชฺช ชานนทฺวาเรนฯ ปญฺจกามคุณิโก ราโคติ อนติวตฺตนฏฺเฐน ปญฺจสุ กามคุเณสุ นิยุตฺโต, ตปฺปโยชโน วา ราโคฯ ปริญฺญํ สมติกฺกมํ คจฺฉติฯ รสตณฺหาย หิ สมฺมเทว วิคตาย รูปตณฺหาทโยปิ วิคตา เอว โหนฺติ โภชเน มตฺตญฺญุตาย อุกฺกํสคมนโตฯ สติ จ วิสยิสมติกฺกเม วิสโย สมติกฺกนฺโต เอว โหตีติ อาห ‘‘โส ปญฺจกามคุณปริญฺญามุเขน รูปกฺขนฺธํ ปริชานาตี’’ติฯ รูปายตนาทีสุ หิ ปริญฺญํ คจฺฉนฺเตสุ ตนฺนิสฺสยภูตานิ, ตคฺคาหกา ปสาทา จ สุเขเนว ปริญฺญํ คจฺฉนฺตีติฯ อปริปกฺกาทีติ อาทิ-สทฺเทน อาสยนิธานานมฺปิ สงฺคโห ทฏฺฐพฺโพฯ ตตฺถ อปริปกฺกํ ตาว อุทริยเมวฯ อาสยคฺคหเณน ปิตฺตเสมฺหปุพฺพโลหิตานํ, ปริปกฺกคฺคหเณน กรีสมุตฺตานํ, ผลคฺคหเณน เกสาทีนํ สพฺเพสํ ปริคฺคโห สิทฺโธ โหตีติ อาห ‘‘กายคตาสติภาวนาปิ ปาริปูริํ คจฺฉตี’’ติฯ อสุภสญฺญายาติ อสุภภาวนาย, อวิญฺญาณกอสุภภาวนานุโยคสฺสาติ อตฺโถฯ อนุโลมปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหติ ปฏิกฺกูลาการคฺคหเณน กายสฺส อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉภาวสลฺลกฺขณโตฯ อิมํ ปน ปฏิปตฺตินฺติ อิมํ อาหาเร ปฏิกฺกูลสญฺญาภาวนํฯ อมตปริโยสานตนฺติ นิพฺพานนิฏฺฐิตํ อาหาเร ปฏิกฺกูลสญฺญาภาวนาสงฺขาตํ อุปจารชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา นิพฺพานาธิคมนฺติ อตฺโถฯ

อาหาเรปฏิกฺกูลภาวนาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

จตุธาตุววตฺถานภาวนาวณฺณนา

[306] ‘‘เอกํ ววตฺถานนฺติ เอวํ อุทฺทิฏฺฐสฺส จตุธาตุววตฺถานสฺส ภาวนานิทฺเทโส อนุปฺปตฺโต’’ติ อุทฺเทโส นาม นิทฺเทสตฺโถ มุทุมชฺฌปญฺญาพาหุลฺลโต , อาคโต จ ภาโร อวสฺสํ วหิตพฺโพติ กตฺวา วุตฺตํฯ ตตฺถ สติปิ วิสยเภเทน ววตฺถานสฺส เภเท ววตฺถานภาวสามญฺเญน ปน ตํ อภินฺนํ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘เอกํ ววตฺถาน’’นฺติ, ปุพฺพภาเค วา สติปิ วิสยเภเท อตฺถสิทฺธิยํ ตสฺส เอกวิสยตาวาติ ‘‘เอกํ ววตฺถาน’’นฺติ วุตฺตํฯ ยถา หิ ทฺวตฺติํสากาเร กมฺมํ กโรนฺตสฺส โยคิโน ยทิปิ ปุพฺพภาเค วิสุํ วิสุํ โกฏฺฐาเสสุ มนสิกาโร ปวตฺตติ, อปรภาเค ปน เอกสฺมิํ ขเณ เอกสฺมิํเยว โกฏฺฐาเส อตฺถสิทฺธิ โหติ, น สพฺเพสุ, เอวมิธาปีติฯ ตตฺถ สิยา – ยถา ปฏิกฺกูลภาวสามญฺเญน ทฺวตฺติํสาการกมฺมฏฺฐาเน อเภทโต มนสิกาโร ปวตฺตติ, เอวํ อิธ ธาตุภาวสามญฺเญน อเภทโต มนสิกาโร ปวตฺตตีติ ‘‘เอกํ ววตฺถาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ? นยิทเมวํฯ ตตฺถ หิ ปณฺณตฺติสมติกฺกมโต ปฏฺฐาย ปฏิกฺกูลวเสเนว สพฺพตฺถ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ, อิธ ปน สภาวสรสลกฺขณโต ธาตุโย มนสิ กาตพฺพา, น ธาตุภาวสามญฺญโตฯ เตเนวาห ‘‘สภาวูปลกฺขณวเสน สนฺนิฏฺฐาน’’นฺติฯ กิํ วา เอเตน ปปญฺเจน, อญฺเญหิ เอกูนจตฺตาลีสาย กมฺมฏฺฐาเนหิ อสํสฏฺฐํ จตุธาตุววตฺถานํ นาม เอกํ กมฺมฏฺฐานนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ ววตฺถาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ ‘‘จตุธาตุววตฺถานสฺส ภาวนานิทฺเทโส’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ จตุธาตุววตฺถานํ ภาวนาว? สจฺจํ ภาวนาว, สกิํ ปวตฺตํ ปน ววตฺถานํ, ตสฺส พหุลีกาโร ภาวนาติ วจนเภเทน วุตฺตํฯ กถํ ปน ภาวนา นิทฺทิสียติ ตสฺสา วจีโคจราติกฺกนฺตภาวโตติ? นายํ โทโส ภาวนตฺเถ ภาวนาโวหารโตฯ ภาวนตฺโถ หิ กมฺมฏฺฐานปริคฺคโห อิธ ‘‘ภาวนา’’ติ อธิปฺเปโตฯ

สภาวูปลกฺขณวเสนาติ กกฺขฬตฺตาทิกสฺส สลกฺขณสฺส อุปธารณวเสนฯ อิทํ หิ กมฺมฏฺฐานํ ปถวีกสิณาทิกมฺมฏฺฐานํ วิย น ปณฺณตฺติมตฺตสลฺลกฺขณวเสน, นีลกสิณาทิกมฺมฏฺฐานํ วิย น นีลาทิวณฺณสลฺลกฺขณวเสน, นาปิ วิปสฺสนากมฺมฏฺฐานํ วิย สงฺขารานํ อนิจฺจตาทิสามญฺญลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตติ, อถ โข ปถวีอาทีนํ สภาวสลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สภาวูปลกฺขณวเสนา’’ติ, กกฺขฬตฺตาทิกสฺส สลกฺขณสฺส อุปธารณวเสนาติ อตฺโถฯ