เมนู

23. ปญฺญาภาวนานิสํสนิทฺเทโส

อานิสํสปกาสนา

[854] ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ปญฺญาภาวนาย โก อานิสํโส’’ติ, ตตฺถ วทามฯ อยญฺหิ ปญฺญาภาวนา นาม อเนกสตานิสํสาฯ ตสฺสา ทีเฆนาปิ อทฺธุนา น สุกรํ วิตฺถารโต อานิสํสํ ปกาเสตุํฯ สงฺเขปโต ปนสฺสา นานากิเลสวิทฺธํสนํ, อริยผลรสานุภวนํ, นิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนสมตฺถตา, อาหุเนยฺยภาวาทิสิทฺธีติ อยมานิสํโส เวทิตพฺโพฯ

นานากิเลสวิทฺธํสนกถา

[855] ตตฺถ ยํ นามรูปปริจฺเฉทโต ปฏฺฐาย สกฺกายทิฏฺฐาทีนํ วเสน นานากิเลสวิทฺธํสนํ วุตฺตํ, อยํ โลกิกาย ปญฺญาภาวนาย อานิสํโสฯ ยํ อริยมคฺคกฺขเณ สํโยชนาทีนํ วเสน นานากิเลสวิทฺธํสนํ วุตฺตํ, อยํ โลกุตฺตราย ปญฺญาภาวนาย อานิสํโสติ เวทิตพฺโพฯ

ภีมเวคานุปติตา, อสนีว สิลุจฺจเย;

วายุเวคสมุฏฺฐิโต, อรญฺญมิว ปาวโกฯ

อนฺธการํ วิย รวิ, สเตชุชฺชลมณฺฑโล;

ทีฆรตฺตานุปติตํ, สพฺพานตฺถวิธายกํฯ

กิเลสชาลํ ปญฺญา หิ, วิทฺธํสยติ ภาวิตา;

สนฺทิฏฺฐิกมโต ชญฺญา, อานิสํสมิมํ อิธฯ

ผลสมาปตฺติกถา

[856] อริยผลรสานุภวนนฺติ น เกวลญฺจ กิเลสวิทฺธํสนญฺเญว, อริยผลรสานุภวนมฺปิ ปญฺญาภาวนาย อานิสํโสฯ อริยผลนฺติ หิ โสตาปตฺติผลาทิ สามญฺญผลํ วุจฺจติฯ ตสฺส ทฺวีหากาเรหิ รสานุภวนํ โหติฯ มคฺควีถิยญฺจ ผลสมาปตฺติวเสน จ ปวตฺติยํฯ ตตฺราสฺส มคฺควีถิยํ ปวตฺติ ทสฺสิตาเยวฯ

[857] อปิจ เย ‘‘สํโยชนปฺปหานมตฺตเมว ผลํ นาม, น โกจิ อญฺโญ ธมฺโม อตฺถี’’ติ วทนฺติ, เตสํ อนุนยตฺถํ อิทํ สุตฺตมฺปิ ทสฺเสตพฺพํ – ‘‘กถํ ปโยคปฏิปฺปสฺสทฺธิปญฺญา ผเล ญาณํ? โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ทสฺสนฏฺเฐน สมฺมาทิฏฺฐิ มิจฺฉาทิฏฺฐิยา วุฏฺฐาติ, ตทนุวตฺตกกิเลเสหิ จ ขนฺเธหิ จ วุฏฺฐาติ, พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหิ วุฏฺฐาติฯ ตมฺปโยคปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา อุปฺปชฺชติ สมฺมาทิฏฺฐิ, มคฺคสฺเสตํ ผล’’นฺติ (ปฏิ. ม. 1.63) วิตฺถาเรตพฺพํฯ

‘‘จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา, จตฺตาริ จ สามญฺญผลานิ, อิเม ธมฺมา อปฺปมาณารมฺมณา’’ (ธ. ส. 1422)ฯ ‘‘มหคฺคโต ธมฺโม อปฺปมาณสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺฐา. 2.12.62) เอวมาทีนิปิ เจตฺถ สาธกานิฯ

[858] ผลสมาปตฺติยํ ปวตฺติทสฺสนตฺถํ ปนสฺส อิทํ ปญฺหากมฺมํ – กา ผลสมาปตฺติ, เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺติ, กสฺมา สมาปชฺชนฺติ, กถญฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ, กถํ ฐานํ, กถํ วุฏฺฐานํ, กิํ ผลสฺส อนนฺตรํ, กสฺส จ ผลํ อนนฺตรนฺติ?

[859] ตตฺถ กา ผลสมาปตฺตีติ ยา อริยผลสฺส นิโรเธ อปฺปนาฯ

[860] เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺตีติ สพฺเพปิ ปุถุชฺชนา น สมาปชฺชนฺติฯ กสฺมา? อนธิคตตฺตาฯ อริยา ปน สพฺเพปิ สมาปชฺชนฺติฯ กสฺมา? อธิคตตฺตาฯ อุปริมา ปน เหฏฺฐิมํ น สมาปชฺชนฺติ, ปุคฺคลนฺตรภาวุปคมเนน ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตาฯ เหฏฺฐิมา จ อุปริมํ, อนธิคตตฺตาฯ อตฺตโน อตฺตโนเยว ปน ผลํ สมาปชฺชนฺตีติ อิทเมตฺถ สนฺนิฏฺฐานํฯ

เกจิ ปน ‘‘โสตาปนฺนสกทาคามิโนปิ น สมาปชฺชนฺติฯ อุปริมา ทฺเวเยว สมาปชฺชนฺตี’’ติ วทนฺติฯ อิทญฺจ เตสํ การณํ, เอเต หิ สมาธิสฺมิํ ปริปูรการิโนติฯ ตํ ปุถุชฺชนสฺสาปิ อตฺตนา ปฏิลทฺธโลกิยสมาธิสมาปชฺชนโต อการณเมวฯ กิญฺเจตฺถ การณาการณจินฺตายฯ นนุ ปาฬิยํเยว วุตฺตํ – ‘‘กตเม ทส โคตฺรภุธมฺมา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? โสตาปตฺติมคฺคปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ…เป.… อุปายาสํ พหิทฺธา สงฺขารนิมิตฺตํ อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภุฯ

โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถาย สกทาคามิมคฺคํ …เป.… อรหตฺตผลสมาปตฺตตฺถาย… สุญฺญตวิหารสมาปตฺตตฺถาย… อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ…เป.… พหิทฺธา สงฺขารนิมิตฺตํ อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภู’’ติ (ปฏิ. ม. 1.60)ฯ ตสฺมา สพฺเพปิ อริยา อตฺตโน อตฺตโน ผลํ สมาปชฺชนฺตีติ นิฏฺฐเมตฺถ คนฺตพฺพํฯ

[861] กสฺมา สมาปชฺชนฺตีติ ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารตฺถํฯ ยถา หิ ราชา รชฺชสุขํ, เทวตา ทิพฺพสุขํ อนุภวนฺติ, เอวํ อริยา ‘‘อริยํ โลกุตฺตรสุขํ อนุภวิสฺสามา’’ติ อทฺธานปฺปริจฺเฉทํ กตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชนฺติฯ

[862] กถญฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ, กถํ ฐานํ, กถํ วุฏฺฐานนฺติ ทฺวีหิ ตาว อากาเรหิ อสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ – นิพฺพานโต อญฺญสฺส อารมฺมณสฺส อมนสิการา นิพฺพานสฺส จ มนสิการาฯ ยถาห – ‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา สพฺพนิมิตฺตานญฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร’’ติ (ม. นิ. 1.458)ฯ

[863] อยมฺปเนตฺถ สมาปชฺชนกฺกโมฯ ผลสมาปตฺตตฺถิเกน หิ อริยสาวเกน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน อุทยพฺพยาทิวเสน สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพาฯ ตสฺส ปวตฺตานุปุพฺพวิปสฺสนสฺส สงฺขารารมฺมณโคตฺรภุญาณานนฺตรา ผลสมาปตฺติวเสน นิโรเธ จิตฺตํ อปฺเปติฯ ผลสมาปตฺตินินฺนตาย เจตฺถ เสกฺขสฺสาปิ ผลเมว อุปฺปชฺชติ, น มคฺโคฯ

เย ปน วทนฺติ ‘‘โสตาปนฺโน ‘ผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชิสฺสามี’ติ วิปสฺสนํ ปฏฺฐเปตฺวา สกทาคามี โหติฯ สกทาคามี จ อนาคามี’’ติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘เอวํ สติ อนาคามี อรหา ภวิสฺสติ, อรหา ปจฺเจกพุทฺโธ, ปจฺเจกพุทฺโธ จ พุทฺโธฯ ตสฺมา น กิญฺจิ เอตํ, ปาฬิวเสเนว จ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติปิ น คเหตพฺพํฯ อิทเมว ปน คเหตพฺพํ – เสกฺขสฺสาปิ ผลเมว อุปฺปชฺชติ, น มคฺโคฯ ผลญฺจสฺส สเจ อเนน ปฐมชฺฌานิโก มคฺโค อธิคโต โหติฯ ปฐมชฺฌานิกเมว อุปฺปชฺชติฯ สเจ ทุติยาทีสุ อญฺญตรชฺฌานิโก, ทุติยาทีสุ อญฺญตรชฺฌานิกเมวาติฯ เอวํ ตาวสฺสา สมาปชฺชนํ โหติฯ

[864] ‘‘ตโย โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ฐิติยา สพฺพนิมิตฺตานญฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร, ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. 1.458) วจนโต ปนสฺสา ตีหากาเรหิ ฐานํ โหติฯ ตตฺถ ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโรติ สมาปตฺติโต ปุพฺเพ กาลปริจฺเฉโทฯ ‘‘อสุกสฺมิํ นาม กาเล วุฏฺฐหิสฺสามี’’ติ ปริจฺฉินฺนตฺตา หิสฺสา ยาว โส กาโล นาคจฺฉติ, ตาว ฐานํ โหติฯ เอวมสฺสา ฐานํ โหตีติฯ

[865] ‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฏฺฐานาย สพฺพนิมิตฺตานญฺจ มนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา อมนสิกาโร’’ติ (ม. นิ. 1.458) วจนโต ปนสฺสา ทฺวีหากาเรหิ วุฏฺฐานํ โหติฯ ตตฺถ สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปนิมิตฺตเวทนาสญฺญาสงฺขารวิญฺญาณนิมิตฺตานํฯ กามญฺจ น สพฺพาเนเวตานิ เอกโต มนสิกโรติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน ปเนตํ วุตฺตํฯ ตสฺมา ยํ ภวงฺคสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตํ มนสิกโรโต ผลสมาปตฺติวุฏฺฐานํ โหตีติ เอวมสฺสา วุฏฺฐานํ เวทิตพฺพํฯ

[866] กิํ ผลสฺส อนนฺตรํ, กสฺส จ ผลํ อนนฺตรนฺติ ผลสฺส ตาว ผลเมว วา อนนฺตรํ โหติ, ภวงฺคํ วาฯ ผลํ ปน อตฺถิ มคฺคานนฺตรํ, อตฺถิ ผลานนฺตรํ, อตฺถิ โคตฺรภุอนนฺตรํ, อตฺถิ เนวสญฺญานาสญฺญายตนานนฺตรํฯ ตตฺถ มคฺควีถิยํ มคฺคานนฺตรํ, ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ผลานนฺตรํฯ ผลสมาปตฺตีสุ ปุริมํ ปุริมํ โคตฺรภุอนนฺตรํฯ โคตฺรภูติ เจตฺถ อนุโลมํ เวทิตพฺพํฯ วุตฺตญฺเหตํ ปฏฺฐาเน – ‘‘อรหโต อนุโลมํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโยฯ เสกฺขานํ อนุโลมํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺฐา. 1.1.417)ฯ เยน ผเลน นิโรธา วุฏฺฐานํ โหติ, ตํ เนวสญฺญานาสญฺญายตนานนฺตรนฺติฯ ตตฺถ ฐเปตฺวา มคฺควีถิยํ อุปฺปนฺนํ ผลํ อวเสสํ สพฺพํ ผลสมาปตฺติวเสน ปวตฺตํ นามฯ เอวเมตํ มคฺควีถิยํ ผลสมาปตฺติยํ วา อุปฺปชฺชนวเสน,

ปฏิปฺปสฺสทฺธทรถํ , อมตารมฺมณํ สุภํ;

วนฺตโลกามิสํ สนฺตํ, สามญฺญผลมุตฺตมํฯ

โอชวนฺเตน สุจินา, สุเขน อภิสนฺทิตํ;

เยน สาตาติสาเตน, อมเตน มธุํ วิยฯ

ตํ สุขํ ตสฺส อริยสฺส, รสภูตมนุตฺตรํ;

ผลสฺส ปญฺญํ ภาเวตฺวา, ยสฺมา วินฺทติ ปณฺฑิโตฯ

ตสฺมา อริยผลสฺเสตํ, รสานุภวนํ อิธ;

วิปสฺสนาภาวนาย, อานิสํโสติ วุจฺจติฯ

นิโรธสมาปตฺติกถา

[867] นิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนสมตฺถตาติ น เกวลญฺจ อริยผลรสานุภวนํเยว, อยํ ปน นิโรธสมาปตฺติยา สมาปชฺชนสมตฺถตาปิ อิมิสฺสา ปญฺญาภาวนาย อานิสํโสติ เวทิตพฺโพฯ

ตตฺริทํ นิโรธสมาปตฺติยา วิภาวนตฺถํ ปญฺหากมฺมํ – กา นิโรธสมาปตฺติ, เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺติ, กตฺถ สมาปชฺชนฺติ, กสฺมา สมาปชฺชนฺติ, กถญฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ, กถํ ฐานํ, กถํ วุฏฺฐานํ, วุฏฺฐิตสฺส กิํนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, มตสฺส จ สมาปนฺนสฺส จ โก วิเสโส, นิโรธสมาปตฺติ กิํ สงฺขตา อสงฺขตา โลกิยา โลกุตฺตรา นิปฺผนฺนา อนิปฺผนฺนาติ?

[868] ตตฺถ กา นิโรธสมาปตฺตีติ ยา อนุปุพฺพนิโรธวเสน จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ อปฺปวตฺติฯ เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺตีติ สพฺเพปิ ปุถุชฺชนา, โสตาปนฺนา, สกทาคามิโน, สุกฺขวิปสฺสกา จ อนาคามิโน, อรหนฺโต น สมาปชฺชนฺติฯ อฏฺฐสมาปตฺติลาภิโน ปน อนาคามิโน, ขีณาสวา จ สมาปชฺชนฺติฯ ‘‘ทฺวีหิ พเลหิ สมนฺนาคตตฺตา , ตโย จ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา, โสฬสหิ ญาณจริยาหิ, นวหิ สมาธิจริยาหิ วสีภาวตา ปญฺญา นิโรธสมาปตฺติยา ญาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา 1.34) หิ วุตฺตํฯ อยญฺจ สมฺปทา ฐเปตฺวา อฏฺฐสมาปตฺติลาภิโน อนาคามิขีณาสเว อญฺเญสํ นตฺถิฯ ตสฺมา เตเยว สมาปชฺชนฺติ, น อญฺเญฯ

[869] กตมานิ ปเนตฺถ ทฺเว พลานิ…เป.… กตมา วสีภาวตาติ? น เอตฺถ กิญฺจิ อมฺเหหิ วตฺตพฺพํ อตฺถิฯ สพฺพมิทํ เอตสฺส อุทฺเทสสฺส นิทฺเทเส วุตฺตเมวฯ ยถาห –