เมนู

19. กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทโส

ปจฺจยปริคฺคหกถา

[678] เอตสฺเสว ปน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหเณน ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตริตฺวา ฐิตํ ญาณํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ นามฯ

ตํ สมฺปาเทตุกาโม ภิกฺขุ ยถา นาม กุสโล ภิสกฺโก โรคํ ทิสฺวา ตสฺส สมุฏฺฐานํ ปริเยสติฯ ยถา วา ปน อนุกมฺปโก ปุริโส ทหรํ กุมารํ มนฺทํ อุตฺตานเสยฺยกํ รถิกาย นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘กสฺส นุ โข อยํ ปุตฺตโก’’ติ ตสฺส มาตาปิตโร อาวชฺชติ, เอวเมว ตสฺส นามรูปสฺส เหตุปจฺจยปริเยสนํ อาปชฺชติฯ

โส อาทิโตว อิติ ปฏิสญฺจิกฺขติ ‘‘น ตาวิธํ นามรูปํ อเหตุกํ, สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺเพสญฺจ เอกสทิสภาวาปตฺติโต, น อิสฺสราทิเหตุกํ, นามรูปโต อุทฺธํ อิสฺสราทีนํ อภาวโตฯ เยปิ นามรูปมตฺตเมว อิสฺสราทโยติ วทนฺติ, เตสํ อิสฺสราทิสงฺขาตนามรูปสฺส อเหตุกภาวปฺปตฺติโตฯ ตสฺมา ภวิตพฺพมสฺส เหตุปจฺจเยหิ, เก นุ โข เต’’ติฯ

[679] โส เอวํ นามรูปสฺส เหตุปจฺจเย อาวชฺเชตฺวา อิมสฺส ตาว รูปกายสฺส เอวํ เหตุปจฺจเย ปริคฺคณฺหาติ – ‘‘อยํ กาโย นิพฺพตฺตมาโน เนว อุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกโสคนฺธิกาทีนํ อพฺภนฺตเร นิพฺพตฺตติ, น มณิมุตฺตาหาราทีนํ, อถ โข อามาสยปกฺกาสยานํ อนฺตเร อุทรปฏลํ ปจฺฉโต ปิฏฺฐิกณฺฏกํ ปุรโต กตฺวา อนฺตอนฺตคุณปริวาริโต สยมฺปิ ทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูโล ทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูเล ปรมสมฺพาเธ โอกาเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสโอฬิคลฺลจนฺทนิกาทีสุ กิมิว นิพฺพตฺตติฯ ตสฺเสวํ นิพฺพตฺตมานสฺส ‘อวิชฺชา ตณฺหา อุปาทานํ กมฺม’นฺติ อิเม จตฺตาโร ธมฺมา นิพฺพตฺตกตฺตา เหตุ, อาหาโร อุปตฺถมฺภกตฺตา ปจฺจโยติ ปญฺจ ธมฺมา เหตุปจฺจยา โหนฺติฯ เตสุปิ อวิชฺชาทโย ตโย อิมสฺส กายสฺส มาตา วิย ทารกสฺส อุปนิสฺสยา โหนฺติฯ

กมฺมํ ปิตา วิย ปุตฺตสฺส ชนกํ ฯ อาหาโร ธาติ วิย ทารกสฺส สนฺธารโก’’ติฯ เอวํ รูปกายสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กตฺวา, ปุน ‘‘จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. 2.43) นเยน นามกายสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติฯ

โส เอวํ ปจฺจยโต นามรูปสฺส ปวตฺติํ ทิสฺวา ยถา อิทํ เอตรหิ, เอวํ อตีเตปิ อทฺธาเน ปจฺจยโต ปวตฺติตฺถ, อนาคเตปิ ปจฺจยโต ปวตฺติสฺสตีติ สมนุปสฺสติฯ

[680] ตสฺเสวํ สมนุปสฺสโต ยา สา ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ‘‘อโหสิํ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานํ, น นุ โข อโหสิํ อตีตมทฺธานํ, กิํ นุ โข อโหสิํ อตีตมทฺธานํ, กถํ นุ โข อโหสิํ อตีตมทฺธานํ, กิํ หุตฺวา กิํ อโหสิํ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติ (ม. นิ. 1.18; สํ. นิ. 2.20) ปญฺจวิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, ยาปิ อปรนฺตํ อารพฺภ ‘‘ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, น นุ โข ภวิสฺสามิ อนาคตมทฺธานํ, กิํ นุ โข ภวิสฺสามิ อนาคตมทฺธานํ, กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ อนาคตมทฺธานํ, กิํ หุตฺวา กิํ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ ปญฺจวิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, ยาปิ ปจฺจุปฺปนฺนํ อารพฺภ ‘‘เอตรหิ วา ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อชฺฌตฺตํ กถํกถี โหติ – อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กิํ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหิํ คามี ภวิสฺสตี’’ติ (ม. นิ. 1.18) ฉพฺพิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, สา สพฺพาปิ ปหียติฯ

[681] อปโร สาธารณาสาธารณวเสน ทุวิธํ นามสฺส ปจฺจยํ ปสฺสติ, กมฺมาทิวเสน จตุพฺพิธํ รูปสฺสฯ ทุวิโธ หิ นามสฺส ปจฺจโย สาธารโณ อสาธารโณ จฯ ตตฺถ จกฺขาทีนิ ฉ ทฺวารานิ, รูปาทีนิ ฉ อารมฺมณานิ นามสฺส สาธารโณ ปจฺจโย, กุสลาทิเภทโต สพฺพปฺปการสฺสาปิ ตโต ปวตฺติโตฯ มนสิการาทิโก อสาธารโณฯ โยนิโส มนสิการสทฺธมฺมสฺสวนาทิโก หิ กุสลสฺเสว โหติ, วิปรีโต อกุสลสฺส, กมฺมาทิโก วิปากสฺส, ภวงฺคาทิโก กิริยสฺสาติฯ

รูปสฺส ปน กมฺมํ จิตฺตํ อุตุ อาหาโรติ อยํ กมฺมาทิโก จตุพฺพิโธ ปจฺจโยฯ

ตตฺถ กมฺมํ อตีตเมว กมฺมสมุฏฺฐานสฺส รูปสฺส ปจฺจโย โหติ ฯ จิตฺตํ จิตฺตสมุฏฺฐานสฺส อุปฺปชฺชมานํฯ อุตุอาหารา อุตุอาหารสมุฏฺฐานสฺส ฐิติกฺขเณ ปจฺจยา โหนฺตีติฯ เอวเมเวโก นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติฯ

โส เอวํ ปจฺจยโต นามรูปสฺส ปวตฺติํ ทิสฺวา ยถา อิทํ เอตรหิ, เอวํ อตีเตปิ อทฺธาเน ปจฺจยโต ปวตฺติตฺถ, อนาคเตปิ ปจฺจยโต ปวตฺติสฺสตีติ สมนุปสฺสติฯ ตสฺเสวํ สมนุปสฺสโต วุตฺตนเยเนว ตีสุปิ อทฺธาสุ วิจิกิจฺฉา ปหียติฯ

[682] อปโร เตสํเยว นามรูปสงฺขาตานํ สงฺขารานํ ชราปตฺติํ ชิณฺณานญฺจ ภงฺคํ ทิสฺวา อิทํ สงฺขารานํ ชรามรณํ นาม ชาติยา สติ โหติ, ชาติ ภเว สติ, ภโว อุปาทาเน สติ, อุปาทานํ ตณฺหาย สติ, ตณฺหา เวทนาย สติ, เวทนา ผสฺเส สติ, ผสฺโส สฬายตเน สติ, สฬายตนํ นามรูเป สติ, นามรูปํ วิญฺญาเณ สติ, วิญฺญาณํ สงฺขาเรสุ สติ, สงฺขารา อวิชฺชาย สตีติ เอวํ ปฏิโลมปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติฯ อถสฺส วุตฺตนเยเนว วิจิกิจฺฉา ปหียติฯ

[683] อปโร ‘‘อิติ โข อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ (สํ. นิ. 2.2) ปุพฺเพ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺสิตอนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาทวเสเนว นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติฯ อถสฺส วุตฺตนเยเนว กงฺขา ปหียติฯ

[684] อปโร ‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมิํ โมโห อวิชฺชา, อายูหนา สงฺขารา, นิกนฺติ ตณฺหา, อุปคมนํ อุปาทานํ, เจตนา ภโวติ อิเม ปญฺจ ธมฺมา ปุริมกมฺมภวสฺมิํ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา, อิธ ปฏิสนฺธิ วิญฺญาณํ, โอกฺกนฺติ นามรูปํ, ปสาโท อายตนํ, ผุฏฺโฐ ผสฺโส, เวทยิตํ เวทนาติ อิเม ปญฺจ ธมฺมา อิธูปปตฺติภวสฺมิํ ปุเรกตสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยาฯ อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนานํ โมโห อวิชฺชา…เป.… เจตนา ภโวติ อิเม ปญฺจ ธมฺมา อิธ กมฺมภวสฺมิํ อายติํ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยา’’ติ (ปฏิ. ม. 1.47) เอวํ กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติฯ

[685] ตตฺถ จตุพฺพิธํ กมฺมํ – ทิฏฺฐธมฺมเวทนียํ, อุปปชฺชเวทนียํ, อปราปริยเวทนียํ, อโหสิกมฺมนฺติฯ

เตสุ เอกชวนวีถิยํ สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปฐมชวนเจตนา ทิฏฺฐิธมฺมเวทนียกมฺมํ นามฯ ตํ อิมสฺมิญฺเญว อตฺตภาเว วิปากํ เทติฯ ตถา อสกฺโกนฺตํ ปน ‘‘อโหสิกมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, นตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ (ปฏิ. ม. 1.234) อิมสฺส ติกสฺส วเสน อโหสิกมฺมํ นาม โหติฯ อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นามฯ ตํ อนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติฯ ตถา อสกฺโกนฺตํ วุตฺตนเยเนว อโหสิกมฺมํ นาม โหติฯ อุภินฺนํ อนฺตเร ปญฺจ ชวนเจตนา อปราปริยเวทนียกมฺมํ นามฯ ตํ อนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติฯ สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติฯ

[686] อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ กมฺมํ – ยํ ครุกํ, ยํ พหุลํ, ยทาสนฺนํ, กฏตฺตา วา ปน กมฺมนฺติฯ ตตฺถ กุสลํ วา โหตุ อกุสลํ วา, ครุกาครุเกสุ ยํ ครุกํ มาตุฆาตาทิกมฺมํ วา มหคฺคตกมฺมํ วา, ตเทว ปฐมํ วิปจฺจติฯ ตถา พหุลาพหุเลสุปิ ยํ พหุลํ โหติ สุสีลฺยํ วา ทุสฺสีลฺยํ วา, ตเทว ปฐมํ วิปจฺจติฯ ยทาสนฺนํ นาม มรณกาเล อนุสฺสริตกมฺมํฯ ยญฺหิ อาสนฺนมรโณ อนุสฺสริตุํ สกฺโกติ, เตเนว อุปปชฺชติฯ เอเตหิ ปน ตีหิ มุตฺตํ ปุนปฺปุนํ ลทฺธาเสวนํ กฏตฺตา วา ปน กมฺมํ นาม โหติ, เตสํ อภาเว ตํ ปฏิสนฺธิํ อากฑฺฒติฯ

[687] อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ กมฺมํ – ชนกํ, อุปตฺถมฺภกํ, อุปปีฬกํ, อุปฆาตกนฺติฯ ตตฺถ ชนกํ นาม กุสลมฺปิ โหติ อกุสลมฺปิฯ ตํ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากกฺขนฺเธ ชเนติฯ อุปตฺถมฺภกํ ปน วิปากํ ชเนตุํ น สกฺโกติ, อญฺเญน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชมานกสุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตติฯ อุปปีฬกํ อญฺเญน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชมานกสุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทติฯ อุปฆาตกํ ปน สยํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมานํ อญฺญํ ทุพฺพลกมฺมํ ฆาเตตฺวา ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติฯ เอวํ ปน กมฺเมน กเต โอกาเส ตํ วิปากํ อุปฺปนฺนํ นาม วุจฺจติฯ

อิติ อิเมสํ ทฺวาทสนฺนํ กมฺมานํ กมฺมนฺตรญฺเจว วิปากนฺตรญฺจ พุทฺธานํ กมฺมวิปากญาณสฺเสว ยาถาวสรสโต ปากฏํ โหติ, อสาธารณํ สาวเกหิฯ วิปสฺสเกน ปน กมฺมนฺตรญฺจ วิปากนฺตรญฺจ เอกเทสโต ชานิตพฺพํฯ ตสฺมา อยํ มุขมตฺตทสฺสเนน กมฺมวิเสโส ปกาสิโตติฯ

[688] อิติ อิมํ ทฺวาทสวิธํ กมฺมํ กมฺมวฏฺเฏ ปกฺขิปิตฺวา เอวํ เอโก กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติฯ โส เอวํ กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสน ปจฺจยโต นามรูปสฺส ปวตฺติํ ทิสฺวา ‘‘ยถา อิทํ เอตรหิ, เอวํ อตีเตปิ อทฺธาเน กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสน ปจฺจยโต ปวตฺติตฺถ, อนาคเตปิ กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสเนว ปจฺจยโต ปวตฺติสฺสตี’’ติฯ อิติ กมฺมญฺเจว กมฺมวิปาโก จ, กมฺมวฏฺฏญฺจ วิปากวฏฺฏญฺจ, กมฺมปวตฺตญฺจ วิปากปวตฺตญฺจ, กมฺมสนฺตติ จ วิปากสนฺตติ จ, กิริยา จ กิริยาผลญฺจฯ

กมฺมา วิปากา วตฺตนฺติ, วิปาโก กมฺมสมฺภโว;

กมฺมา ปุนพฺภโว โหติ, เอวํ โลโก ปวตฺตตีติฯ –

สมนุปสฺสติฯ ตสฺเสวํ สมนุปสฺสโต ยา สา ปุพฺพนฺตาทโย อารพฺภ ‘‘อโหสิํ นุ โข อห’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตา โสฬสวิธา วิจิกิจฺฉา, สา สพฺพา ปหียติฯ สพฺพภวโยนิคติฏฺฐิตินิวาเสสุ เหตุผลสมฺพนฺธวเสน ปวตฺตมานํ นามรูปมตฺตเมว ขายติฯ โส เนว การณโต อุทฺธํ การกํ ปสฺสติ, น วิปากปฺปวตฺติโต อุทฺธํ วิปากปฏิสํเวทกํฯ การเณ ปน สติ ‘‘การโก’’ติ, วิปากปฺปวตฺติยา สติ ‘‘ปฏิสํเวทโก’’ติ สมญฺญามตฺเตน ปณฺฑิตา โวหรนฺติจฺเจวสฺส สมฺมปฺปญฺญาย สุทิฏฺฐํ โหติฯ

[689] เตนาหุ โปราณา –

‘‘กมฺมสฺส การโก นตฺถิ, วิปากสฺส จ เวทโก;

สุทฺธธมฺมา ปวตฺตนฺติ, เอเวตํ สมฺมทสฺสนํฯ

‘‘เอวํ กมฺเม วิปาเก จ, วตฺตมาเน สเหตุเก;

พีชรุกฺขาทิกานํว, ปุพฺพา โกฏิ น นายติ;

อนาคเตปิ สํสาเร, อปฺปวตฺตํ น ทิสฺสติฯ

‘‘เอตมตฺถํ อนญฺญาย, ติตฺถิยา อสยํวสี;

สตฺตสญฺญํ คเหตฺวาน, สสฺสตุจฺเฉททสฺสิโน;

ทฺวาสฏฺฐิทิฏฺฐิํ คณฺหนฺติ, อญฺญมญฺญวิโรธิตาฯ

‘‘ทิฏฺฐิพนฺธนพทฺธา เต, ตณฺหาโสเตน วุยฺหเร;

ตณฺหาโสเตน วุยฺหนฺตา, น เต ทุกฺขา ปมุจฺจเรฯ

‘‘เอวเมตํ อภิญฺญาย, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;

คมฺภีรํ นิปุณํ สุญฺญํ, ปจฺจยํ ปฏิวิชฺฌติฯ

‘‘กมฺมํ นตฺถิ วิปากมฺหิ, ปาโก กมฺเม น วิชฺชติ;

อญฺญมญฺญํ อุโภ สุญฺญา, น จ กมฺมํ วินา ผลํฯ

‘‘ยถา น สูริเย อคฺคิ, น มณิมฺหิ น โคมเย;

น เตสํ พหิ โส อตฺถิ, สมฺภาเรหิ จ ชายติฯ

‘‘ตถา น อนฺโต กมฺมสฺส, วิปาโก อุปลพฺภติ;

พหิทฺธาปิ น กมฺมสฺส, น กมฺมํ ตตฺถ วิชฺชติฯ

‘‘ผเลน สุญฺญํ ตํ กมฺมํ, ผลํ กมฺเม น วิชฺชติ;

กมฺมญฺจ โข อุปาทาย, ตโต นิพฺพตฺตเต ผลํฯ

‘‘น เหตฺถ เทโว พฺรหฺมา วา, สํสารสฺสตฺถิการโก;

สุทฺธธมฺมา ปวตฺตนฺติ, เหตุสมฺภารปจฺจยา’’ติฯ

[690] ตสฺเสวํ กมฺมวฏฺฏวิปากวฏฺฏวเสน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กตฺวา ตีสุ อทฺธาสุ ปหีนวิจิกิจฺฉสฺส สพฺเพ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนธมฺมา จุติปฏิสนฺธิวเสน วิทิตา โหนฺติ, สาสฺส โหติ ญาตปริญฺญา

โส เอวํ ปชานาติ – เย อตีเต กมฺมปจฺจยา นิพฺพตฺตา ขนฺธา, เต ตตฺเถว นิรุทฺธา, อตีตกมฺมปจฺจยา ปน อิมสฺมิํ ภเว อญฺเญ นิพฺพตฺตา, อตีตภวโต อิมํ ภวํ อาคโต เอกธมฺโมปิ นตฺถิ, อิมสฺมิมฺปิ ภเว กมฺมปจฺจเยน นิพฺพตฺตา ขนฺธา นิรุชฺฌิสฺสนฺติ, ปุนพฺภเว อญฺเญ นิพฺพตฺติสฺสนฺติ, อิมมฺหา ภวา ปุนพฺภวํ เอกธมฺโมปิ น คมิสฺสติฯ

อปิจ โข ยถา น อาจริยมุขโต สชฺฌาโย อนฺเตวาสิกสฺส มุขํ ปวิสติ, น จ ตปฺปจฺจยา ตสฺส มุเข สชฺฌาโย น วตฺตติ, น ทูเตน มนฺโตทกํ ปีตํ โรคิโน อุทรํ ปวิสติ, น จ ตสฺส ตปฺปจฺจยา โรโค น วูปสมฺมติ, น มุเข มณฺฑนวิธานํ อาทาสตลาทีสุ มุขนิมิตฺตํ คจฺฉติ, น จ ตตฺถ ตปฺปจฺจยา มณฺฑนวิธานํ น ปญฺญายติ, น เอกิสฺสา วฏฺฏิยา ทีปสิขา อญฺญํ วฏฺฏิํ สงฺกมติ, น จ ตตฺถ ตปฺปจฺจยา ทีปสิขา น นิพฺพตฺตติ, เอวเมว น อตีตภวโต อิมํ ภวํ, อิโต วา ปุนพฺภวํ โกจิ ธมฺโม สงฺกมติ, น จ อตีตภเว ขนฺธายตนธาตุปจฺจยา อิธ, อิธ วา ขนฺธายตนธาตุปจฺจยา ปุนพฺภเว ขนฺธายตนธาตุโย น นิพฺพตฺตนฺตีติฯ

ยเถว จกฺขุวิญฺญาณํ, มโนธาตุอนนฺตรํ;

น เจว อาคตํ นาปิ, น นิพฺพตฺตํ อนนฺตรํฯ

ตเถว ปฏิสนฺธิมฺหิ, วตฺตเต จิตฺตสนฺตติ;

ปุริมํ ภิชฺชเต จิตฺตํ, ปจฺฉิมํ ชายเต ตโตฯ

เตสํ อนฺตริกา นตฺถิ, วีจิ เตสํ น วิชฺชติ;

น จิโต คจฺฉติ กิญฺจิ, ปฏิสนฺธิ จ ชายตีติฯ

[691] เอวํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วิทิตสพฺพธมฺมสฺส สพฺพากาเรน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหญาณํ ถามคตํ โหติ, โสฬสวิธา กงฺขา สุฏฺฐุตรํ ปหียติฯ น เกวลญฺจ สา เอว, ‘‘สตฺถริ กงฺขตี’’ติ (ธ. ส. 1008) อาทินยปฺปวตฺตา อฏฺฐวิธาปิ กงฺขา ปหียติเยว, ทฺวาสฏฺฐิ ทิฏฺฐิคตานิ วิกฺขมฺภนฺติฯ เอวํ นานานเยหิ นามรูปปจฺจยปริคฺคหเณน ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตริตฺวา ฐิตํ ญาณํ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธีติ เวทิตพฺพํฯ ธมฺมฏฺฐิติญาณนฺติปิ ยถาภูตญาณนฺติปิ สมฺมาทสฺสนนฺติปิ เอตสฺเสวาธิวจนํฯ วุตฺตญฺเหตํ –

‘‘อวิชฺชา ปจฺจโย, สงฺขารา ปจฺจยสมุปฺปนฺนาฯ อุโภเปเต ธมฺมา ปจฺจยสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปญฺญา ธมฺมฏฺฐิติญาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. 1.46)ฯ

‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต กตเม ธมฺเม ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ, กถํ สมฺมาทสฺสนํ โหติ, กถํ ตทนฺวเยน สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจโต สุทิฏฺฐา โหนฺติ, กตฺถ กงฺขา ปหียติ? ทุกฺขโต…เป.… อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต กตเม ธมฺเม ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ…เป.… กตฺถ กงฺขา ปหียตีติ?

‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต นิมิตฺตํ ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ, เตน วุจฺจติ สมฺมาทสฺสนํฯ เอวํ ตทนฺวเยน สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจโต สุทิฏฺฐา โหนฺติฯ เอตฺถ กงฺขา ปหียติฯ ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปวตฺตํ ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ…เป.… อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต นิมิตฺตญฺจ ปวตฺตญฺจ ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติ, เตน วุจฺจติ สมฺมาทสฺสนํฯ เอวํ ตทนฺวเยน สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตโต สุทิฏฺฐา โหนฺติฯ เอตฺถ กงฺขา ปหียติฯ

‘‘ยญฺจ ยถาภูตญาณํ ยญฺจ สมฺมาทสฺสนํ ยา จ กงฺขาวิตรณา, อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จ, อุทาหุ เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นานนฺติ? ยญฺจ ยถาภูตญาณํ ยญฺจ สมฺมาทสฺสนํ ยา จ กงฺขาวิตรณา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. 1.227)ฯ

อิมินา ปน ญาเณน สมนฺนาคโต วิปสฺสโก พุทฺธสาสเน ลทฺธสฺสาโส ลทฺธปติฏฺโฐ นิยตคติโก จูฬโสตาปนฺโน นาม โหติฯ

ตสฺมา ภิกฺขุ สทา สโต, นามรูปสฺส สพฺพโส;

ปจฺจเย ปริคฺคณฺเหยฺย, กงฺขาวิตรณตฺถิโกติฯ

อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค

ปญฺญาภาวนาธิกาเร

กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทโส นาม

เอกูนวีสติโม ปริจฺเฉโทฯ

20. มคฺคามคฺคญาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทโส

สมฺมสนญาณกถา

[692] อยํ มคฺโค, อยํ น มคฺโคติ เอวํ มคฺคญฺจ อมคฺคญฺจ ญตฺวา ฐิตํ ญาณํ ปน มคฺคามคฺคญาณทสฺสนวิสุทฺธิ นามฯ

ตํ สมฺปาเทตุกาเมน กลาปสมฺมสนสงฺขาตาย นยวิปสฺสนาย ตาว โยโค กรณีโยฯ กสฺมา? อารทฺธวิปสฺสกสฺส โอภาสาทิสมฺภเว มคฺคามคฺคญาณสมฺภวโตฯ อารทฺธวิปสฺสกสฺส หิ โอภาสาทีสุ สมฺภูเตสุ มคฺคามคฺคญาณํ โหติ, วิปสฺสนาย จ กลาปสมฺมสนํ อาทิฯ ตสฺมา เอตํ กงฺขาวิตรณานนฺตรํ อุทฺทิฏฺฐํฯ อปิจ ยสฺมา ตีรณปริญฺญาย วตฺตมานาย มคฺคามคฺคญาณํ อุปฺปชฺชติ, ตีรณปริญฺญา จ ญาตปริญฺญานนฺตรา, ตสฺมาปิ ตํ มคฺคามคฺคญาณทสฺสนวิสุทฺธิํ สมฺปาเทตุกาเมน กลาปสมฺมสเน ตาว โยโค กาตพฺโพฯ

[693] ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ติสฺโส หิ โลกิยปริญฺญา ญาตปริญฺญา ตีรณปริญฺญา ปหานปริญฺญา จฯ ยา สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อภิญฺญาปญฺญา ญาตฏฺเฐ ญาณํฯ ปริญฺญาปญฺญา ตีรณฏฺเฐ ญาณํฯ ปหานปญฺญา ปริจฺจาคฏฺเฐ ญาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. 1.75)ฯ ตตฺถ ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, เวทยิตลกฺขณา เวทนา’’ติ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตา ปญฺญา ญาตปริญฺญา นามฯ ‘‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา’’ติอาทินา นเยน เตสํเยว ธมฺมานํ สามญฺญลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนา ปญฺญา ตีรณปริญฺญา นามฯ เตสุเยว ปน ธมฺเมสุ นิจฺจสญฺญาทิปชหนวเสน ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนา ปญฺญา ปหานปริญฺญา นามฯ

ตตฺถ สงฺขารปริจฺเฉทโต ปฏฺฐาย ยาว ปจฺจยปริคฺคหา ญาตปริญฺญาย ภูมิฯ เอตสฺมิํ หิ อนฺตเร ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจํ โหติฯ กลาปสมฺมสนโต ปน ปฏฺฐาย ยาว อุทยพฺพยานุปสฺสนา ตีรณปริญฺญาย ภูมิฯ เอตสฺมิํ หิ อนฺตเร สามญฺญลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจํ โหติฯ