เมนู

อวิชฺชาปจฺจยาสงฺขารปทวิตฺถารกถา

[616] เอวมิเมสุ จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ อยํ อวิชฺชา,

ปจฺจโย โหติ ปุญฺญานํ, ทุวิธาเนกธา ปน;

ปเรสํ ปจฺฉิมานํ สา, เอกธา ปจฺจโย มตาติฯ

ตตฺถ ปุญฺญานํ ทุวิธาติ อารมฺมณปจฺจเยน จ อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺเวธา ปจฺจโย โหติฯ สา หิ อวิชฺชํ ขยโต วยโต สมฺมสนกาเล กามาวจรานํ ปุญฺญาภิสงฺขารานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย โหติฯ อภิญฺญาจิตฺเตน สโมหจิตฺตํ ชานนกาเล รูปาวจรานํฯ อวิชฺชาสมติกฺกมตฺถาย ปน ทานาทีนิ เจว กามาวจรปุญฺญกิริยวตฺถูนิ ปูเรนฺตสฺส, รูปาวจรชฺฌานานิ จ อุปฺปาเทนฺตสฺส ทฺวินฺนมฺปิ เตสํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติฯ ตถา อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตฺตา กามภวรูปภวสมฺปตฺติโย ปตฺเถตฺวา ตาเนว ปุญฺญานิ กโรนฺตสฺสฯ

อเนกธา ปน ปเรสนฺติ อปุญฺญาภิสงฺขารานํ อเนกธา ปจฺจโย โหติฯ กถํ? เอสา หิ อวิชฺชํ อารพฺภ ราคาทีนํ อุปฺปชฺชนกาเล อารมฺมณปจฺจเยน, ครุํกตฺวา อสฺสาทนกาเล อารมฺมณาธิปติอารมฺมณูปนิสฺสเยหิ, อวิชฺชาสมฺมูฬฺหสฺส อนาทีนวทสฺสาวิโน ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน, ทุติยชวนาทีนํ อนนฺตรสมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจเยหิ, ยํกิญฺจิ อกุสลํ กโรนฺตสฺส เหตุ สหชาต อญฺญมญฺญ นิสฺสย สมฺปยุตฺต อตฺถิ อวิคตปจฺจเยหีติ อเนกธา ปจฺจโย โหติฯ

ปจฺฉิมานํ สา เอกธา ปจฺจโย มตาติ อาเนญฺชาภิสงฺขารานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว เอกธา ปจฺจโย มตาฯ โส ปนสฺสา อุปนิสฺสยภาโว ปุญฺญาภิสงฺขาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติฯ

[617] เอตฺถาห – กิํ ปนายเมกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย, อุทาหุ อญฺเญปิ ปจฺจยา สนฺตีติ? กิํ ปเนตฺถ, ยทิ ตาว เอกาว, เอกการณวาโท อาปชฺชติฯ อถญฺเญปิ สนฺติ, ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอกการณนิทฺเทโส นุปปชฺชตีติ? น นุปปชฺชติฯ กสฺมา? ยสฺมา –

เอกํ น เอกโต อิธ, นาเนกมเนกโตปิ โน เอกํ;

ผลมตฺถิ อตฺถิ ปน เอก-เหตุผลทีปเน อตฺโถฯ

เอกโต หิ การณโต น อิธ กิญฺจิ เอกํ ผลมตฺถิ, น อเนกํฯ นาปิ อเนเกหิ การเณหิ เอกํฯ อเนเกหิ ปน การเณหิ อเนกเมว โหติฯ ตถา หิ อเนเกหิ อุตุปถวีพีชสลิลสงฺขาเตหิ การเณหิ อเนกเมว รูปคนฺธรสาทิกํ องฺกุรสงฺขาตํ ผลํ อุปฺปชฺชมานํ ทิสฺสติฯ ยํ ปเนตํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณ’’นฺติ เอเกกเหตุผลทีปนํ กตํ, ตตฺถ อตฺโถ อตฺถิ, ปโยชนํ วิชฺชติฯ

ภควา หิ กตฺถจิ ปธานตฺตา, กตฺถจิ ปากฏตฺตา, กตฺถจิ อสาธารณตฺตา เทสนาวิลาสสฺส จ เวเนยฺยานญฺจ อนุรูปโต เอกเมว เหตุํ วา ผลํ วา ทีเปติฯ ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติ หิ ปธานตฺตา เอกเมว เหตุผลมาหฯ ผสฺโส หิ เวทนาย ปธานเหตุ ยถาผสฺสํ เวทนา ววตฺถานโตฯ เวทนา จ ผสฺสสฺส ปธานผลํ ยถาเวทนํ ผสฺสววตฺถานโตฯ ‘‘เสมฺหสมุฏฺฐานา อาพาธา’’ติ (อ. นิ. 10.60) ปากฏตฺตา เอกํ เหตุมาหฯ ปากโฏ หิ เอตฺถ เสมฺโห, น กมฺมาทโยฯ ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, อกุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต อโยนิโสมนสิการมูลกา’’ติ อสาธารณตฺตา เอกํ เหตุมาหฯ อสาธารโณ หิ อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลานํ, สาธารณานิ วตฺถารมฺมณาทีนีติฯ ตสฺมา อยมิธ อวิชฺชา วิชฺชมาเนสุปิ อญฺเญสุ วตฺถารมฺมณสหชาตธมฺมาทีสุ สงฺขารการเณสุ ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. 2.52) จ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย’’ติ (ม. นิ. 1.104) จ วจนโต อญฺเญสมฺปิ ตณฺหาทีนํ สงฺขารเหตูนํ เหตูติ ปธานตฺตา, ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปุญฺญาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตี’’ติ ปากฏตฺตา, อสาธารณตฺตา จ สงฺขารานํ เหตุภาเวน ทีปิตาติ เวทิตพฺพาฯ เอเตเนว จ เอเกกเหตุผลทีปนปริหารวจเนน สพฺพตฺถ เอเกกเหตุผลทีปเน ปโยชนํ เวทิตพฺพนฺติฯ

[618] เอตฺถาห – เอวํ สนฺเตปิ เอกนฺตานิฏฺฐผลาย สาวชฺชาย อวิชฺชาย กถํ ปุญฺญาเนญฺชาภิสงฺขารปจฺจยตฺตํ ยุชฺชติ? น หิ นิมฺพพีชโต อุจฺฉุ อุปฺปชฺชตีติฯ กถํ น ยุชฺชิสฺสติ? โลกสฺมิญฺหิ –

วิรุทฺโธ จาวิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา;

ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ, วิปากา เอว เต จ นฯ

ธมฺมานํ หิ ฐานสภาวกิจฺจาทิวิรุทฺโธ จาวิรุทฺโธ จ ปจฺจโย โลเก สิทฺโธฯ ปุริมจิตฺตํ หิ อปรจิตฺตสฺส ฐานวิรุทฺโธ ปจฺจโย, ปุริมสิปฺปาทิสิกฺขา จ ปจฺฉา ปวตฺตมานานํ สิปฺปาทิกิริยานํฯ กมฺมํ รูปสฺส สภาววิรุทฺโธ ปจฺจโย, ขีราทีนิ จ ทธิอาทีนํฯ อาโลโก จกฺขุวิญฺญาณสฺส กิจฺจวิรุทฺโธ, คุฬาทโย จ อาสวาทีนํฯ จกฺขุรูปาทโย ปน จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ ฐานาวิรุทฺธา ปจฺจยาฯ ปุริมชวนาทโย ปจฺฉิมชวนาทีนํ สภาวาวิรุทฺธา กิจฺจาวิรุทฺธา จฯ

ยถา จ วิรุทฺธาวิรุทฺธา ปจฺจยา สิทฺธา, เอวํ สทิสาสทิสาปิฯ สทิสเมว หิ อุตุอาหารสงฺขาตํ รูปํ รูปสฺส ปจฺจโย, สาลิพีชาทีนิ จ สาลิผลาทีนํฯ อสทิสมฺปิ รูปํ อรูปสฺส, อรูปญฺจ รูปสฺส ปจฺจโย โหติ, โคโลมาวิโลม-วิสาณ-ทธิติลปิฏฺฐาทีนิ จ ทุพฺพา-สรภูติณกาทีนํฯ เยสญฺจ ธมฺมานํ เต วิรุทฺธาวิรุทฺธสทิสาสทิสปจฺจยา, น เต ธมฺมา เตสํ ธมฺมานํ วิปากา เอวฯ

อิติ อยํ อวิชฺชา วิปากวเสน เอกนฺตานิฏฺฐผลา, สภาววเสน จ สาวชฺชาปิ สมานา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ ปุญฺญาภิสงฺขาราทีนํ ยถานุรูปํ ฐานกิจฺจสภาววิรุทฺธาวิรุทฺธปจฺจยวเสน, สทิสาสทิสปจฺจยวเสน จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพาฯ โส จสฺสา ปจฺจยภาโว ‘‘ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อญฺญาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อญฺญาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสญฺญาย คเหตฺวา ตสฺส เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต เอวฯ

[619] อปิจ อยํ อญฺโญปิ ปริยาโย –

จุตูปปาเต สํสาเร, สงฺขารานญฺจ ลกฺขเณ;

โย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน-ธมฺเมสุ จ วิมุยฺหติฯ

อภิสงฺขโรติ โส เอเต, สงฺขาเร ติวิเธ ยโต;

อวิชฺชา ปจฺจโย เตสํ, ติวิธานมฺปยํ ตโตติฯ

กถํ ปน โย เอเตสุ วิมุยฺหติ, โส ติวิเธเปเต สงฺขาเร กโรตีติ เจฯ จุติยา ตาว วิมูฬฺโห ‘‘สพฺพตฺถ ขนฺธานํ เภโท มรณ’’นฺติ จุติํ อคณฺหนฺโต ‘‘สตฺโต มรติ, สตฺตสฺส เทหนฺตรสงฺกมน’’นฺติอาทีนิ วิกปฺเปติฯ

อุปปาเต วิมูฬฺโห ‘‘สพฺพตฺถ ขนฺธานํ ปาตุภาโว ชาตี’’ติ อุปปาตํ อคณฺหนฺโต ‘‘สตฺโต อุปปชฺชติ, สตฺตสฺส นวสรีรปาตุภาโว’’ติอาทีนิ วิกปฺเปติฯ

สํสาเร วิมูฬฺโห โย เอส,

‘‘ขนฺธานญฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนาน จ;

อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตี’’ติฯ –

เอวํ วณฺณิโต สํสาโร, ตํ เอวํ อคณฺหนฺโต ‘‘อยํ สตฺโต อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ คจฺฉติ, ปรสฺมา โลกา อิมํ โลกํ อาคจฺฉตี’’ติอาทีนิ วิกปฺเปติฯ

สงฺขารานํ ลกฺขเณ วิมูฬฺโห สงฺขารานํ สภาวลกฺขณํ สามญฺญลกฺขณญฺจ อคณฺหนฺโต สงฺขาเร อตฺตโต อตฺตนิยโต ธุวโต สุขโต สุภโต วิกปฺเปติฯ

ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเมสุ วิมูฬฺโห อวิชฺชาทีหิ สงฺขาราทีนํ ปวตฺติํ อคณฺหนฺโต ‘‘อตฺตา ชานาติ วา น ชานาติ วา, โส เอว กโรติ จ กาเรติ จฯ โส ปฏิสนฺธิยํ อุปปชฺชติ, ตสฺส อณุอิสฺสราทโย กลลาทิภาเวน สรีรํ สณฺฐเปนฺโต อินฺทฺริยานิ สมฺปาเทนฺติฯ โส อินฺทฺริยสมฺปนฺโน ผุสติ, เวทิยติ, ตณฺหียติ, อุปาทิยติ, ฆฏิยติฯ โส ปุน ภวนฺตเร ภวตี’’ติ วา, ‘‘สพฺเพ สตฺตา นิยติสงฺคติภาวปริณตา’’ติ (ที. นิ. 1.168) วา วิกปฺเปติฯ

โส อวิชฺชาย อนฺธีกโต เอวํ วิกปฺเปนฺโต ยถา นาม อนฺโธ ปถวิยํ วิจรนฺโต มคฺคมฺปิ อมคฺคมฺปิ ถลมฺปิ นินฺนมฺปิ สมมฺปิ วิสมมฺปิ ปฏิปชฺชติ, เอวํ ปุญฺญมฺปิ อปุญฺญมฺปิ อาเนญฺชาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตีติฯ

เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ยถาปิ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปริณายโก;

เอกทา ยาติ มคฺเคน, อุมฺมคฺเคนาปิ เอกทาฯ

‘‘สํสาเร สํสรํ พาโล, ตถา อปริณายโก;

กโรติ เอกทา ปุญฺญํ, อปุญฺญมปิ เอกทาฯ

‘‘ยทา จ ญตฺวา โส ธมฺมํ, สจฺจานิ อภิสเมสฺสติ;

ตทา อวิชฺชูปสมา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติฯ

อยํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ปทสฺมิํ วิตฺถารกถาฯ

สงฺขารปจฺจยาวิญฺญาณปทวิตฺถารกถา

[620] สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณปเท – วิญฺญาณนฺติ จกฺขุวิญฺญาณาทิ ฉพฺพิธํฯ ตตฺถ จกฺขุวิญฺญาณํ กุสลวิปากํ อกุสลวิปากนฺติ ทุวิธํ โหติฯ ตถา โสตฆานชิวฺหากอายวิญฺญาณานิฯ มโนวิญฺญาณํ กุสลากุสลวิปากา ทฺเว มโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกมโนวิญฺญาณธาตุโย, อฏฺฐ สเหตุกานิ กามาวจรวิปากจิตฺตานิ, ปญฺจ รูปาวจรานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรานีติ พาวีสติวิธํ โหติฯ อิติ อิเมหิ ฉหิ วิญฺญาเณหิ สพฺพานิปิ พาตฺติํส โลกิยวิปากวิญฺญาณานิ สงฺคหิตานิ โหนฺติฯ โลกุตฺตรานิ ปน วฏฺฏกถาย น ยุชฺชนฺตีติ น คหิตานิฯ

ตตฺถ สิยา ‘‘กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ อิทํ วุตฺตปฺปการํ วิญฺญาณํ สงฺขารปจฺจยา โหตี’’ติ? อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโตฯ วิปากํ เหตํ, วิปากญฺจ น อุปจิตกมฺมาภาเว อุปฺปชฺชติฯ ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย สพฺเพสํ สพฺพวิปากานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น จ อุปฺปชฺชนฺตีติ ชานิตพฺพเมตํ สงฺขารปจฺจยา อิทํ วิญฺญาณํ โหตีติฯ

กตรสงฺขารปจฺจยา กตรํ วิญฺญาณนฺติ เจฯ กามาวจรปุญฺญาภิสงฺขารปจฺจยา ตาว กุสลวิปากานิ ปญฺจ จกฺขุวิญฺญาณาทีนิ, มโนวิญฺญาเณ เอกา มโนธาตุ, ทฺเว มโนวิญฺญาณธาตุโย, อฏฺฐ กามาวจรมหาวิปากานีติ โสฬสฯ ยถาห –