เมนู

17. ปญฺญาภูมินิทฺเทโส

ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถา

[570] อิทานิ ‘‘ขนฺธายตนธาตุอินฺทฺริยสจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิเภทา ธมฺมา ภูมี’’ติ เอวํ วุตฺเตสุ อิมิสฺสา ปญฺญาย ภูมิภูเตสุ ธมฺเมสุ ยสฺมา ปฏิจฺจสมุปฺปาโทเจว, อาทิสทฺเทน สงฺคหิตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมา จ อวเสสา โหนฺติ, ตสฺมา เตสํ วณฺณนากฺกโม อนุปฺปตฺโตฯ

ตตฺถ อวิชฺชาทโย ตาว ธมฺมา ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ เวทิตพฺพาฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา –

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท? อวิชฺชาปจฺจยา, ภิกฺขเว, สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติฯ เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ (สํ. นิ. 2.1)ฯ

ชรามรณาทโย ปน ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมาติ เวทิตพฺพาฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา –

‘‘กตเม จ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมา? ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมํฯ ชาติ, ภิกฺขเว…เป.… ภโว… อุปาทานํ… ตณฺหา… เวทนา… ผสฺโส… สฬายตนํ… นามรูปํ… วิญฺญาณํ… สงฺขารา… อวิชฺชา, ภิกฺขเว, อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมาฯ อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมา’’ติ (สํ. นิ. 2.20)ฯ

[571] อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโปฯ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ ปจฺจยธมฺมา เวทิตพฺพาฯ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ธมฺมาติ เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ นิพฺพตฺตธมฺมาฯ

กถมิทํ ชานิตพฺพนฺติ เจ? ภควโต วจเนนฯ ภควตา หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมเทสนาสุตฺเต –

‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท? ชาติปจฺจยา, ภิกฺขเว, ชรามรณํ, อุปฺปาทา วา ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ตถาคตานํ ฐิตาว สา ธาตุ ธมฺมฏฺฐิตตา ธมฺมนิยามตา อิทปฺปจฺจยตาฯ ตํ ตถาคโต อภิสมฺพุชฺฌติ อภิสเมติ, อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา อภิสเมตฺวา อาจิกฺขติ เทเสติ ปญฺญเปติ ปฏฺฐเปติ วิวรติ วิภชติ อุตฺตานีกโรติ, ปสฺสถาติ จาหฯ ชาติปจฺจยา, ภิกฺขเว, ชรามรณํฯ ภวปจฺจยา, ภิกฺขเว, ชาติ…เป.… อวิชฺชาปจฺจยา, ภิกฺขเว, สงฺขารา อุปฺปาทา วา ตถาคตานํ…เป.… อุตฺตานีกโรติ ปสฺสถาติ จาหฯ อวิชฺชาปจฺจยา, ภิกฺขเว, สงฺขาราฯ อิติ โข, ภิกฺขเว, ยา ตตฺร ตถตา อวิตถตา อนญฺญถตา อิทปฺปจฺจยตาฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ (สํ. นิ. 2.20)ฯ

[572] เอวํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสนฺเตน ตถตาทีหิ เววจเนหิ ปจฺจยธมฺมาว ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ วุตฺตาฯ ตสฺมา ชรามรณาทีนํ ธมฺมานํ ปจฺจยลกฺขโณ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท, ทุกฺขานุพนฺธนรโส, กุมฺมคฺคปจฺจุปฏฺฐาโนติ เวทิตพฺโพฯ

โส ปนายํ เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ อนูนาธิเกเหว ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส สมฺภวโต ตถตาติ, สามคฺคิํ อุปคเตสุ ปจฺจเยสุ มุหุตฺตมฺปิ ตโต นิพฺพตฺตธมฺมานํ อสมฺภวาภาวโต อวิตถตาติ, อญฺญธมฺมปจฺจเยหิ อญฺญธมฺมานุปฺปตฺติโต อนญฺญถตาติ, ยถาวุตฺตานํ เอเตสํ ชรามรณาทีนํ ปจฺจยโต วา ปจฺจยสมูหโต วา อิทปฺปจฺจยตาติ วุตฺโตฯ

[573] ตตฺรายํ วจนตฺโถ, อิเมสํ ปจฺจยา อิทปฺปจฺจยาฯ อิทปฺปจฺจยา เอว อิทปฺปจฺจยตาฯ อิทปฺปจฺจยานํ วา สมูโห อิทปฺปจฺจยตาฯ ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํฯ

[574] เกจิ ปน ปฏิจฺจ สมฺมา จ ติตฺถิยปริกปฺปิตปกติปุริสาทิการณนิรเปกฺโข อุปฺปาโท ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ เอวํ อุปฺปาทมตฺตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ วทนฺติ , ตํ น ยุชฺชติฯ กสฺมา? สุตฺตาภาวโต, สุตฺตวิโรธโต, คมฺภีรนยาสมฺภวโต, สทฺทเภทโต จฯ ‘‘อุปฺปาทมตฺตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ หิ สุตฺตํ นตฺถิฯ ตํ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ จ วทนฺตสฺส ปเทสวิหารสุตฺตวิโรโธ อาปชฺชติฯ กถํ? ภควโต หิ ‘‘อถ โข ภควา รตฺติยา ปฐมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสากาสี’’ติ (มหาว. 1) อาทิวจนโต ปฏิจฺจสมุปฺปาทมนสิกาโร ปฐมาภิสมฺพุทฺธวิหาโร, ปเทสวิหาโร จ ตสฺเสกเทสวิหาโรฯ ยถาห ‘‘เยน สฺวาหํ, ภิกฺขเว, วิหาเรน ปฐมาภิสมฺพุทฺโธ วิหรามิ, ตสฺส ปเทเสน วิหาสิ’’นฺติ (สํ. นิ. 5.11)ฯ ตตฺร จ ปจฺจยาการทสฺสเนน วิหาสิ, น อุปฺปาทมตฺตทสฺสเนนาติฯ ยถาห ‘‘โส เอวํ ปชานามิ มิจฺฉาทิฏฺฐิปจฺจยาปิ เวทยิตํ สมฺมาทิฏฺฐิปจฺจยาปิ เวทยิตํ มิจฺฉาสงฺกปฺปปจฺจยาปิ เวทยิต’’นฺติ (สํ. นิ. 5.11) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํฯ เอวํ อุปฺปาทมตฺตํ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ วทนฺตสฺส ปเทสวิหารสุตฺตวิโรโธ อาปชฺชติฯ ตถา กจฺจานสุตฺตวิโรโธฯ

กจฺจานสุตฺเตปิ หิ ‘‘โลกสมุทยํ โข, กจฺจาน, ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสโต ยา โลเก นตฺถิตา, สา น โหตี’’ติ (สํ. นิ. 2.15) อนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาโท โลกปจฺจยโต ‘‘โลกสมุทโย’’ติ อุจฺเฉททิฏฺฐิสมุคฺฆาตตฺถํ ปกาสิโต, น อุปฺปาทมตฺตํฯ น หิ อุปฺปาทมตฺตทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺฐิยา สมุคฺฆาโต โหติฯ ปจฺจยานุปรมทสฺสเนน ปน โหติฯ ปจฺจยานุปรเม ผลานุปรมโตติฯ เอวํ อุปฺปาทมตฺตํ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ วทนฺตสฺส กจฺจานสุตฺตวิโรโธปิ อาปชฺชติฯ

คมฺภีรนยาสมฺภวโตติ วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา ‘‘คมฺภีโร จายํ, อานนฺท, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท คมฺภีราวภาโส จา’’ติ (ที. นิ. 2.95; สํ. นิ. 2.60)ฯ คมฺภีรตฺตญฺจ นาม จตุพฺพิธํ, ตํ ปรโต วณฺณยิสฺสามฯ ตํ อุปฺปาทมตฺเต นตฺถิฯ จตุพฺพิธนยปฏิมณฺฑิตญฺเจตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ วณฺณยนฺติ, ตมฺปิ นยจตุกฺกํ อุปฺปาทมตฺเต นตฺถีติ คมฺภีรนยาสมฺภวโตปิ น อุปฺปาทมตฺตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทฯ

[575] สทฺทเภทโตติ ปฏิจฺจสทฺโท จ ปนายํ สมาเน กตฺตริ ปุพฺพกาเล ปยุชฺชมาโน อตฺถสิทฺธิกโร โหติฯ เสยฺยถิทํ, ‘‘จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณ’’นฺติ (สํ. นิ. 2.43)ฯ

อิธ ปน ภาวสาธเนน อุปฺปาทสทฺเทน สทฺธิํ ปยุชฺชมาโน สมานสฺส กตฺตุ อภาวโต สทฺทเภทํ คจฺฉติ, น จ กิญฺจิ อตฺถํ สาเธตีติ สทฺทเภทโตปิ น อุปฺปาทมตฺตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติฯ

ตตฺถ สิยา – ‘‘โหติ-สทฺเทน สทฺธิํ โยชยิสฺสาม ‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท โหตี’ติ’’, ตํ น ยุตฺตํฯ กสฺมา? โยคาภาวโต เจว, อุปฺปาทสฺส จ อุปฺปาทปตฺติโทสโตฯ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท…เป.… อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ (สํ. นิ. 2.1)ฯ อิเมสุ หิ ปเทสุ เอเกนปิ สทฺธิํ โหติ-สทฺโท โยคํ น คจฺฉติ, น จ อุปฺปาโท โหติฯ สเจ ภเวยฺย, อุปฺปาทสฺสาปิ อุปฺปาโท ปาปุเณยฺยาติฯ

[576] เยปิ มญฺญนฺติ ‘‘อิทปฺปจฺจยานํ ภาโว อิทปฺปจฺจยตา, ภาโว จ นาม โย อากาโร อวิชฺชาทีนํ สงฺขาราทิปาตุภาเว เหตุ, โสฯ ตสฺมิญฺจ สงฺขารวิกาเร ปฏิจฺจสมุปฺปาทสญฺญา’’ติ, เตสํ ตํ น ยุชฺชติฯ กสฺมา? อวิชฺชาทีนํ เหตุวจนโตฯ ภควตา หิ ‘‘ตสฺมาติห, อานนฺท, เอเสว เหตุ, เอตํ นิทานํ, เอส สมุทโย, เอส ปจฺจโย ชรามรณสฺส ยทิทํ ชาติ…เป.… สงฺขารานํ, ยทิทํ อวิชฺชา’’ติ (ที. นิ. 2.98 อาทโย) เอวํ อวิชฺชาทโยว เหตูติ วุตฺตา, น เตสํ วิกาโรฯ ตสฺมา ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ ปจฺจยธมฺมา เวทิตพฺพา’’ติ อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, ตํ สมฺมา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

[577] ยา ปเนตฺถ ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ อิมาย พฺยญฺชนจฺฉายาย อุปฺปาโทเยวายํ วุตฺโตติ สญฺญา อุปฺปชฺชติ, สา อิมสฺส ปทสฺส เอวมตฺถํ คเหตฺวา วูปสเมตพฺพาฯ ภควตา หิ,

ทฺเวธา ตโต ปวตฺเต, ธมฺมสมูเห ยโต อิทํ วจนํ;

ตปฺปจฺจโย ตโตยํ, ผโลปจาเรน อิติ วุตฺโตฯ

โย หิ อยํ ปจฺจยตาย ปวตฺโต ธมฺมสมูโห, ตตฺถ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ อิทํ วจนํ ทฺวิธา อิจฺฉนฺติฯ โส หิ ยสฺมา ปตียมาโน หิตาย สุขาย จ สํวตฺตติ, ตสฺมา ปจฺเจตุมรหนฺติ นํ ปณฺฑิตาติ ปฏิจฺโจฯ อุปฺปชฺชมาโน จ สห สมฺมา จ อุปฺปชฺชติ, น เอเกกโต, นาปิ อเหตุโตติ สมุปฺปาโทฯ

เอวํ ปฏิจฺโจ จ โส สมุปฺปาโท จาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ฯ อปิจ สห อุปฺปชฺชตีติ สมุปฺปาโท, ปจฺจยสามคฺคิํ ปน ปฏิจฺจ อปจฺจกฺขายาติ เอวมฺปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทฯ ตสฺส จายํ เหตุสมูโห ปจฺจโยติ ตปฺปจฺจยตฺตา อยมฺปิ, ยถา โลเก เสมฺหสฺส ปจฺจโย คุโฬ เสมฺโห คุโฬติ วุจฺจติ, ยถา จ สาสเน สุขปฺปจฺจโย พุทฺธานํ อุปฺปาโท ‘‘สุโข พุทฺธานํ อุปฺปาโท’’ติ วุจฺจติ, ตถา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท อิจฺเจว ผลโวหาเรน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพฯ

[578] อถ วา,

ปฏิมุขมิโตติ วุตฺโต, เหตุสมูโห อยํ ปฏิจฺโจติ;

สหิเต อุปฺปาเทติ จ, อิติ วุตฺโต โส สมุปฺปาโทฯ

โย หิ เอส สงฺขาราทีนํ ปาตุภาวาย อวิชฺชาทิเอเกกเหตุสีเสน นิทฺทิฏฺโฐ เหตุสมูโห, โส สาธารณผลนิปฺผาทกฏฺเฐน อเวกลฺลฏฺเฐน จ สามคฺคิองฺคานํ อญฺญมญฺเญน ปฏิมุขํ อิโต คโตติ กตฺวา ปฏิจฺโจติ วุจฺจติฯ สฺวายํ สหิเตเยว อญฺญมญฺญํ อวินิพฺโภควุตฺติธมฺเม อุปฺปาเทตีติ สมุปฺปาโทติปิ วุตฺโตฯ เอวมฺปิ ปฏิจฺโจ จ โส สมุปฺปาโท จาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทฯ

[579] อปโร นโย –

ปจฺจยตา อญฺโญญฺญํ, ปฏิจฺจ ยสฺมา สมํ สห จ ธมฺเม;

อยมุปฺปาเทติ ตโตปิ, เอวมิธ ภาสิตา มุนินาฯ

อวิชฺชาทิสีเสน นิทฺทิฏฺฐปจฺจเยสุ หิ เย ปจฺจยา ยํ สงฺขาราทิกํ ธมฺมํ อุปฺปาเทนฺติ, น เต อญฺญมญฺญํ อปฏิจฺจ อญฺญมญฺญเวกลฺเล สติ อุปฺปาเทตุํ สมตฺถาติฯ ตสฺมา ปฏิจฺจ สมํ สห จ น เอเกกเทสํ, นาปิ ปุพฺพาปรภาเวน อยํ ปจฺจยตา ธมฺเม อุปฺปาเทตีติ อตฺถานุสารโวหารกุสเลน มุนินา เอวมิธ ภาสิตา, ปฏิจฺจสมุปฺปาโทตฺเวว ภาสิตาติ อตฺโถฯ

[580] เอวํ ภาสมาเนน จ,

ปุริเมน สสฺสตาทีน, มภาโว ปจฺฉิเมน จ ปเทน;

อุจฺเฉทาทิวิฆาโต, ทฺวเยน ปริทีปิโต ญาโยฯ

ปุริเมนาติ ปจฺจยสามคฺคิปริทีปเกน ปฏิจฺจปเทน ปวตฺติธมฺมานํ ปจฺจยสามคฺคิยํ อายตฺตวุตฺติตฺตา สสฺสตาเหตุวิสมเหตุวสวตฺติวาทปฺปเภทานํ สสฺสตาทีนํ อภาโว ปริทีปิโต โหติ? กิํ หิ สสฺสตานํ, อเหตุอาทิวเสน วา ปวตฺตานํ ปจฺจยสามคฺคิยาติ? ปจฺฉิเมน จ ปเทนาติ ธมฺมานํ อุปฺปาทปริทีปเกน สมุปฺปาทปเทน ปจฺจยสามคฺคิยํ ธมฺมานํ อุปฺปตฺติโต วิหตา อุจฺเฉทนตฺถิกอกิริยวาทาติ อุจฺเฉทาทิวิฆาโต ปริทีปิโต โหติฯ ปุริมปุริมปจฺจยวเสน หิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมาเนสุ ธมฺเมสุ กุโต อุจฺเฉโท, นตฺถิกากิริยวาทา จาติฯ ทฺวเยนาติ สกเลน ปฏิจฺจสมุปฺปาทวจเนน ตสฺสา ตสฺสา ปจฺจยสามคฺคิยา สนฺตติํ อวิจฺฉินฺทิตฺวา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สมฺภวโต มชฺฌิมา ปฏิปทา, ‘‘โส กโรติ โส ปฏิสํเวเทติ, อญฺโญ กโรติ อญฺโญ ปฏิสํเวเทตี’’ติ วาทปฺปหานํ, ชนปทนิรุตฺติยา อนภินิเวโส, สมญฺญาย อนติธาวนนฺติ อยํ ญาโย ปริทีปิโต โหตีติ อยํ ตาว ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ วจนมตฺตสฺส อตฺโถฯ

[581] ยา ปนายํ ภควตา ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสนฺเตน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา นเยน นิกฺขิตฺตา ตนฺติ, ตสฺสา อตฺถสํวณฺณนํ กโรนฺเตน วิภชฺชวาทิมณฺฑลํ โอตริตฺวา อาจริเย อนพฺภาจิกฺขนฺเตน สกสมยํ อโวกฺกมนฺเตน ปรสมยํ อนายูหนฺเตน สุตฺตํ อปฺปฏิพาหนฺเตน วินยํ อนุโลเมนฺเตน มหาปเทเส โอโลเกนฺเตน ธมฺมํ ทีเปนฺเตน อตฺถํ สงฺคาเหนฺเตน ตเมวตฺถํ ปุนราวตฺเตตฺวา อปเรหิปิ ปริยายนฺตเรหิ นิทฺทิสนฺเตน จ ยสฺมา อตฺถสํวณฺณนา กาตพฺพา โหติ, ปกติยาปิ จ ทุกฺกราว ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส อตฺถสํวณฺณนาฯ ยถาหุ โปราณา –

‘‘สจฺจํ สตฺโต ปฏิสนฺธิ, ปจฺจยาการเมว จ;

ทุทฺทสา จตุโร ธมฺมา, เทเสตุํ จ สุทุกฺกรา’’ติฯ

ตสฺมา อญฺญตฺร อาคมาธิคมปฺปตฺเตหิ น สุกรา ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺสตฺถวณฺณนาติ ปริตุลยิตฺวา,

วตฺตุกาโม อหํ อชฺช, ปจฺจยาการวณฺณนํ;

ปติฏฺฐํ นาธิคจฺฉามิ, อชฺโฌคาฬฺโหว สาครํฯ

สาสนํ ปนิทํ นานา, เทสนานยมณฺฑิตํ;

ปุพฺพาจริยมคฺโค จ, อพฺโพจฺฉินฺโน ปวตฺตติฯ

ยสฺมา ตสฺมา ตทุภยํ, สนฺนิสฺสายตฺถวณฺณนํ;

อารภิสฺสามิ เอตสฺส, ตํ สุณาถ สมาหิตาฯ

วุตฺตญฺเหตํ ปุพฺพาจริเยหิ –

‘‘โย โกจิ มํ อฏฺฐิกตฺวา สุเณยฺย,

ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;

ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ,

อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติฯ

[582] อิติ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติอาทีสุ หิ อาทิโตเยว ตาว,

เทสนาเภทโต อตฺถ, ลกฺขเณกวิธาทิโตฯ องฺคานญฺจ ววตฺถานา, วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

ตตฺถ เทสนาเภทโตติ ภควโต หิ วลฺลิหารกานํ จตุนฺนํ ปุริสานํ วลฺลิคหณํ วิย อาทิโต วา มชฺฌโต วา ปฏฺฐาย ยาว ปริโยสานํ, ตถา ปริโยสานโต วา มชฺฌโต วา ปฏฺฐาย ยาว อาทีติ จตุพฺพิธา ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาฯ

ยถา หิ วลฺลิหารเกสุ จตูสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มูลเมว ปฐมํ ปสฺสติ, โส ตํ มูเล เฉตฺวา สพฺพํ อากฑฺฒิตฺวา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป.… ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ (ม. นิ. 1.402; สํ. นิ. 2.2) อาทิโต ปฏฺฐาย ยาว ปริโยสานาปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสติฯ

ยถา ปน เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มชฺฌํ ปฐมํ ปสฺสติ, โส มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา อุปริภาคญฺเญว อากฑฺฒิตฺวา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘ตสฺส ตํ เวทนํ อภินนฺทโต อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺฐโต อุปฺปชฺชติ นนฺทีฯ ยา เวทนาสุ นนฺที, ตทุปาทานํฯ ตสฺสุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ (ม. นิ. 1.409; สํ. นิ. 3.5) มชฺฌโต ปฏฺฐาย ยาว ปริโยสานาปิ เทเสติฯ

ยถา จ เตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา อคฺคํ ปฐมํ ปสฺสติ, โส อคฺเค คเหตฺวา อคฺคานุสาเรน ยาว มูลา สพฺพํ อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, ชาติปจฺจยา นุ โข, ภิกฺขเว, ชรามรณํ โน วา กถํ โว เอตฺถ โหตีติ? ชาติปจฺจยา, ภนฺเต, ชรามรณํฯ เอวํ โน เอตฺถ โหติ ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติฯ ภวปจฺจยา ชาติ…เป.… อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, อวิชฺชาปจฺจยา นุ โข, ภิกฺขเว, สงฺขารา โน วา กถํ โว เอตฺถ โหตี’’ติ (ม. นิ. 1.403) ปริโยสานโต ปฏฺฐาย ยาว อาทิโตปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ เทเสติฯ

ยถา ปเนเตสุ ปุริเสสุ เอโก วลฺลิยา มชฺฌเมว ปฐมํ ปสฺสติ, โส มชฺเฌ ฉินฺทิตฺวา เหฏฺฐา โอตรนฺโต ยาว มูลา อาทาย กมฺเม อุปเนติ, เอวํ ภควา ‘‘อิเม จ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อาหารา กินฺนิทานา, กิํสมุทยา, กิํชาติกา, กิํปภวา? อิเม จตฺตาโร อาหารา ตณฺหานิทานา, ตณฺหาสมุทยา, ตณฺหาชาติกา, ตณฺหาปภวาฯ ตณฺหา กินฺนิทานา… เวทนา… ผสฺโส… สฬายตนํ… นามรูปํ… วิญฺญาณํ… สงฺขารา กินฺนิทานา…เป.… สงฺขารา อวิชฺชานิทานา…เป.… อวิชฺชาปภวา’’ติ (สํ. นิ. 2.11) มชฺฌโต ปฏฺฐาย ยาว อาทิโต เทเสติฯ

[583] กสฺมา ปเนวํ เทเสตีติ? ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส สมนฺตภทฺทกตฺตา สยญฺจ เทสนาวิลาสปฺปตฺตตฺตาฯ สมนฺตภทฺทโก หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท, ตโต ตโต ญายปฏิเวธาย สํวตฺตติเยว ฯ เทสนาวิลาสปฺปตฺโต จ ภควา จตุเวสารชฺชปฏิสมฺภิทาโยเคน จตุพฺพิธคมฺภีรภาวปฺปตฺติยา จฯ โส เทสนาวิลาสปฺปตฺตตฺตา นานานเยเหว ธมฺมํ เทเสติฯ

วิเสสโต ปนสฺส ยา อาทิโต ปฏฺฐาย อนุโลมเทสนา, สา ปวตฺติการณวิภาคสํมูฬฺหํ เวเนยฺยชนํ สมนุปสฺสโต ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถญฺจ ปวตฺตาติ วิญฺญาตพฺพาฯ

ยา ปริโยสานโต ปฏฺฐาย ปฏิโลมเทสนา, สา ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน ชายติ จ ชียติ จ มียติ จ จวติ จ อุปปชฺชติ จา’’ติอาทินา (ที. นิ. 2.57; สํ. นิ. 2.4) นเยน กิจฺฉาปนฺนํ โลกํ อนุวิโลกยโต ปุพฺพภาคปฏิเวธานุสาเรน ตสฺส ตสฺส ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสฺส อตฺตนา อธิคตการณสนฺทสฺสนตฺถํฯ ยา มชฺฌโต ปฏฺฐาย ยาว อาทิ ปวตฺตา, สา อาหารนิทานววตฺถาปนานุสาเรน ยาว อตีตํ อทฺธานํ อติหริตฺวา ปุน อตีตทฺธโต ปภุติ เหตุผลปฏิปาฏิสนฺทสฺสนตฺถํฯ ยา ปน มชฺฌโต ปฏฺฐาย ยาว ปริโยสานํ ปวตฺตา, สา ปจฺจุปฺปนฺเน อทฺธาเน อนาคตทฺธเหตุสมุฏฺฐานโต ปภุติ อนาคตทฺธสนฺทสฺสนตฺถํฯ ตาสุ ยา ปวตฺติการณสมฺมูฬฺหสฺส เวเนยฺยชนสฺส ยถาสเกหิ การเณหิ ปวตฺติสนฺทสฺสนตฺถํ อุปฺปตฺติกฺกมสนฺทสฺสนตฺถญฺจ อาทิโต ปฏฺฐาย อนุโลมเทสนา วุตฺตา, สา อิธ นิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ

[584] กสฺมา ปเนตฺถ อวิชฺชา อาทิโต วุตฺตา, กิํ ปกติวาทีนํ ปกติ วิย อวิชฺชาปิ อการณํ มูลการณํ โลกสฺสาติ? น อการณํฯ ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. 1.103) หิ อวิชฺชาย การณํ วุตฺตํฯ อตฺถิ ปน ปริยาโย เยน มูลการณํ สิยา, โก ปน โสติ? วฏฺฏกถาย สีสภาโวฯ

ภควา หิ วฏฺฏกถํ กเถนฺโต ทฺเว ธมฺเม สีสํ กตฺวา กเถติ, อวิชฺชํ วาฯ ยถาห – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปญฺญายติ อวิชฺชาย ‘อิโต ปุพฺเพ อวิชฺชา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ, เอวญฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปญฺญายติ อิทปฺปจฺจยา อวิชฺชา’’ติ (อ. นิ. 10.61)ฯ ภวตณฺหํ วาฯ ยถาห – ‘‘ปุริมา, ภิกฺขเว, โกฏิ น ปญฺญายติ ภวตณฺหาย ‘อิโต ปุพฺเพ ภวตณฺหา นาโหสิ, อถ ปจฺฉา สมภวี’ติ, เอวญฺเจตํ, ภิกฺขเว, วุจฺจติ, อถ จ ปน ปญฺญายติ อิทปฺปจฺจยา ภวตณฺหา’’ติ (อ. นิ. 10.62)ฯ

[585] กสฺมา ปน ภควา วฏฺฏกถํ กเถนฺโต อิเม ทฺเว ธมฺเม สีสํ กตฺวา กเถตีติ? สุคติทุคฺคติคามิโน กมฺมสฺส วิเสสเหตุภูตตฺตาฯ ทุคฺคติคามิโน หิ กมฺมสฺส วิเสสเหตุ อวิชฺชาฯ

กสฺมา? ยสฺมา อวิชฺชาภิภูโต ปุถุชฺชโน อคฺคิสนฺตาปลคุฬาภิฆาตปริสฺสมาภิภูตา วชฺฌคาวี ตาย ปริสฺสมาตุรตาย นิรสฺสาทมฺปิ อตฺตโน อนตฺถาวหมฺปิ จ อุณฺโหทกปานํ วิย กิเลสสนฺตาปโต นิรสฺสาทมฺปิ ทุคฺคตินิปาตนโต จ อตฺตโน อนตฺถาวหมฺปิ ปาณาติปาตาทิํ อเนกปฺปการํ ทุคฺคติคามิกมฺมํ อารภติฯ สุคติคามิโน ปน กมฺมสฺส วิเสสเหตุ ภวตณฺหาฯ กสฺมา? ยสฺมา ภวตณฺหาภิภูโต ปุถุชฺชโน สา วุตฺตปฺปการา คาวี สีตูทกตณฺหาย สอสฺสาทํ อตฺตโน ปริสฺสมวิโนทนญฺจ สีตูทกปานํ วิย กิเลสสนฺตาปวิรหโต สอสฺสาทํ สุคติสมฺปาปเนน อตฺตโน ทุคฺคติทุกฺขปริสฺสมวิโนทนญฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิอาทิํ อเนกปฺปการํ สุคติคามิกมฺมํ อารภติฯ

[586] เอเตสุ ปน วฏฺฏกถาย สีสภูเตสุ ธมฺเมสุ กตฺถจิ ภควา เอกธมฺมมูลิกํ เทสนํ เทเสติฯ เสยฺยถิทํ, ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อวิชฺชูปนิสา สงฺขารา, สงฺขารูปนิสํ วิญฺญาณ’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. 2.23)ฯ ตถา ‘‘อุปาทานิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒติ, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. 2.52)ฯ กตฺถจิ อุภยมูลิกมฺปิฯ เสยฺยถิทํ, ‘‘อวิชฺชานีวรณสฺส, ภิกฺขเว, พาลสฺส ตณฺหาย สมฺปยุตฺตสฺส เอวมยํ กาโย สมุทาคโตฯ อิติ อยญฺเจว กาโย พหิทฺธา จ นามรูปํ อิตฺเถตํ ทฺวยํฯ ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโส สเฬวายตนานิ, เยหิ ผุฏฺโฐ พาโล สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. 2.19)ฯ ตาสุ เทสนาสุ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อยมิธ อวิชฺชาวเสน เอกธมฺมมูลิกา เทสนาติ เวทิตพฺพาฯ เอวํ ตาเวตฺถ เทสนาเภทโต วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

[587] อตฺถโตติ อวิชฺชาทีนํ ปทานํ อตฺถโตฯ เสยฺยถิทํ, ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเฐน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถฯ ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชาฯ ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชาฯ ขนฺธานํ ราสฏฺฐํ, อายตนานํ อายตนฏฺฐํ, ธาตูนํ สุญฺญฏฺฐํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติยฏฺฐํ, สจฺจานํ ตถฏฺฐํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชาฯ ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชาฯ อนฺตวิรหิเต สํสาเร สพฺพโยนิคติภววิญฺญาณฏฺฐิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชาฯ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุปิ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา

อปิจ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานญฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา

ยํ ปฏิจฺจ ผลเมติ, โส ปจฺจโยฯ ปฏิจฺจาติ น วินา อปจฺจกฺขตฺวาติ อตฺโถฯ เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถฯ อปิจ อุปการกฏฺโฐ ปจฺจยฏฺโฐฯ อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโยฯ ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา

สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ สงฺขาราฯ อปิจ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารสทฺเทน อาคตสงฺขาราติ ทุวิธา สงฺขาราฯ ตตฺถ ปุญฺญาปุญฺญาเนญฺชาภิสงฺขารา ตโย, กายวจีจิตฺตสงฺขารา ตโยติ อิเม ฉ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราฯ เต สพฺเพปิ โลกิยกุสลากุสลเจตนามตฺตเมว โหนฺติฯ

สงฺขตสงฺขาโร, อภิสงฺขตสงฺขาโร, อภิสงฺขรณกสงฺขาโร, ปโยคาภิสงฺขาโรติ อิเม ปน จตฺตาโร สงฺขาร-สทฺเทน อาคตสงฺขาราฯ ตตฺถ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. 2.221, 272; สํ. นิ. 1.186) วุตฺตา สพฺเพปิ สปฺปจฺจยา ธมฺมา สงฺขตสงฺขารา นามฯ กมฺมนิพฺพตฺตา เตภูมกา รูปารูปธมฺมา อภิสงฺขตสงฺขาราติ อฏฺฐกถาสุ วุตฺตา, เตปิ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติ (ที. นิ. 2.221; 272; สํ. นิ. 1.186) เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติฯ วิสุํ ปน เนสํ อาคตฏฺฐานํ น ปญฺญายติฯ เตภูมิกกุสลากุสลเจตนา ปน อภิสงฺขรณกสงฺขาโรติ วุจฺจติ, ตสฺส ‘‘อวิชฺชาคโตยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปุญฺญญฺเจว สงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. 2.51) อาคตฏฺฐานํ ปญฺญายติฯ กายิกเจตสิกํ ปน วีริยํ ปโยคาภิสงฺขาโรติ วุจฺจติ, โส ‘‘ยาวติกา อภิสงฺขารสฺส คติ, ตาวติกา คนฺตฺวา อกฺขาหตํ มญฺเญ อฏฺฐาสี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. 3.15) อาคโตฯ

น เกวลญฺจ เอเตเยว, อญฺเญปิ ‘‘สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปชฺชนฺตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปฐมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติอาทินา (ม. นิ. 1.464) นเยน สงฺขาร-สทฺเทน อาคตา อเนเก สงฺขาราฯ เตสุ นตฺถิ โส สงฺขาโร, โย สงฺขตสงฺขาเรหิ สงฺคหํ น คจฺเฉยฺย, อิโต ปรํ สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณนฺติอาทีสุ วุตฺตํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ

อวุตฺเต ปน วิชานาตีติ วิญฺญาณํฯ นมตีติ นามํฯ รุปฺปตีติ รูปํฯ อาเย ตโนติ อายตญฺจ นยตีติ อายตนํฯ ผุสตีติ ผสฺโสฯ เวทยตีติ เวทนาฯ ปริตสฺสตีติ ตณฺหาฯ อุปาทิยตีติ อุปาทานํฯ ภวติ ภาวยติ จาติ ภโวฯ ชนนํ ชาติฯ ชิรณํ ชราฯ มรนฺติ เอเตนาติ มรณํฯ โสจนํ โสโกฯ ปริเทวนํ ปริเทโวฯ ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํฯ อุปฺปาทฏฺฐิติวเสน วา ทฺวิธา ขณตีติปิ ทุกฺขํฯ ทุมฺมนภาโว โทมนสฺสํฯ ภุโส อายาโส อุปายาโส

สมฺภวนฺตีติ อภินิพฺพตฺตนฺติฯ น เกวลญฺจ โสกาทีเหว, อถ โข สพฺพปเทหิ สมฺภวนฺติ-สทฺทสฺส โยชนา กาตพฺพาฯ อิตรถา หิ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ วุตฺเต กิํ กโรนฺตีติ น ปญฺญาเยยฺย, สมฺภวนฺตีติ ปน โยชนาย สติ อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโยฯ ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตีติ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนววตฺถานํ กตํ โหติฯ เอส นโย สพฺพตฺถฯ

เอวนฺติ นิทฺทิฏฺฐนยนิทสฺสนํฯ เตน อวิชฺชาทีเหว การเณหิ, น อิสฺสรนิมฺมานาทีหีติ ทสฺเสติฯ เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺสฯ เกวลสฺสาติ อสมฺมิสฺสสฺส, สกลสฺส วาฯ ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ทุกฺขสมูหสฺส, น สตฺตสฺส, น สุขสุภาทีนํฯ สมุทโยติ นิพฺพตฺติฯ โหตีติ สมฺภวติฯ เอวเมตฺถ อตฺถโต วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

[588] ลกฺขณาทิโตติ อวิชฺชาทีนํ ลกฺขณาทิโตฯ เสยฺยถิทํ – อญฺญาณลกฺขณา อวิชฺชา, สมฺโมหนรสา, ฉาทนปจฺจุปฏฺฐานา, อาสวปทฏฺฐานาฯ อภิสงฺขรณลกฺขณา สงฺขารา, อายูหนรสา, เจตนาปจฺจุปฏฺฐานา, อวิชฺชาปทฏฺฐานาฯ วิชานนลกฺขณํ วิญฺญาณํ, ปุพฺพงฺคมรสํ, ปฏิสนฺธิปจฺจุปฏฺฐานํ, สงฺขารปทฏฺฐานํ, วตฺถารมฺมณปทฏฺฐานํ วาฯ นมนลกฺขณํ นามํ, สมฺปโยครสํ, อวินิพฺโภคปจฺจุปฏฺฐานํ, วิญฺญาณปทฏฺฐานํฯ รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, วิกิรณรสํ, อพฺยากตปจฺจุปฏฺฐานํ, วิญฺญาณปทฏฺฐานํฯ อายตนลกฺขณํ สฬายตนํ, ทสฺสนาทิรสํ, วตฺถุทฺวารภาวปจฺจุปฏฺฐานํ, นามรูปปทฏฺฐานํฯ ผุสนลกฺขโณ ผสฺโส, สงฺฆฏฺฏนรโส, สงฺคติปจฺจุปฏฺฐาโน, สฬายตนปทฏฺฐาโนฯ อนุภวนลกฺขณา เวทนา, วิสยรสสมฺโภครสา, สุขทุกฺขปจฺจุปฏฺฐานา, ผสฺสปทฏฺฐานาฯ เหตุลกฺขณา ตณฺหา, อภินนฺทนรสา, อติตฺตภาวปจฺจุปฏฺฐานา, เวทนาปทฏฺฐานาฯ

คหณลกฺขณํ อุปาทานํ, อมุญฺจนรสํ, ตณฺหาทฬฺหตฺตทิฏฺฐิปจฺจุปฏฺฐานํ, ตณฺหาปทฏฺฐานํฯ กมฺมกมฺมผลลกฺขโณ ภโว, ภาวนภวนรโส, กุสลากุสลาพฺยากตปจฺจุปฏฺฐาโน , อุปาทานปทฏฺฐาโนฯ ชาติอาทีนํ ลกฺขณาทีนิ สจฺจนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิฯ เอวเมตฺถ ลกฺขณาทิโตปิ วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

[589] เอกวิธาทิโตติ เอตฺถ อวิชฺชา อญฺญาณาทสฺสนโมหาทิภาวโต เอกวิธาฯ อปฺปฏิปตฺติมิจฺฉาปฏิปตฺติโต ทุวิธาฯ ตถา สสงฺขาราสงฺขารโตฯ เวทนตฺตยสมฺปโยคโต ติวิธาฯ จตุสจฺจปฏิเวธโต จตุพฺพิธาฯ คติปญฺจกาทีนวจฺฉาทนโต ปญฺจวิธาฯ ทฺวารารมฺมณโต ปน สพฺเพสุปิ อรูปธมฺเมสุ ฉพฺพิธตา เวทิตพฺพาฯ

สงฺขารา สาสววิปากธมฺมธมฺมาทิภาวโต เอกวิธาฯ กุสลากุสลโต ทุวิธาฯ ตถา ปริตฺตมหคฺคตหีนมชฺฌิมมิจฺฉตฺตนิยตานิยตโตฯ ติวิธา ปุญฺญาภิสงฺขาราทิภาวโตฯ จตุพฺพิธา จตุโยนิสํวตฺตนโตฯ ปญฺจวิธา ปญฺจคติคามิโตฯ

วิญฺญาณํ โลกิยวิปากาทิภาวโต เอกวิธํฯ สเหตุกาเหตุกาทิโต ทุวิธํฯ ภวตฺตยปริยาปนฺนโต, เวทนตฺตยสมฺปโยคโต, อเหตุกทฺวิเหตุกติเหตุกโต จ ติวิธํฯ โยนิคติวเสน จตุพฺพิธํ, ปญฺจวิธญฺจฯ

นามรูปํ วิญฺญาณสนฺนิสฺสยโต กมฺมปจฺจยโต จ เอกวิธํฯ สารมฺมณนารมฺมณโต ทุวิธํฯ อตีตาทิโต ติวิธํฯ โยนิคติวเสน จตุพฺพิธํ, ปญฺจวิธญฺจฯ

สฬายตนํ สญฺชาติสโมสรณฏฺฐานโต เอกวิธํฯ ภูตปฺปสาทวิญฺญาณาทิโต ทุวิธํฯ สมฺปตฺตาสมฺปตฺตโนภยโคจรโต ติวิธํฯ โยนิคติปริยาปนฺนโต จตุพฺพิธํ ปญฺจวิธญฺจาติ อิมินา นเยน ผสฺสาทีนมฺปิ เอกวิธาทิภาโว เวทิตพฺโพติ เอวเมตฺถ เอกวิธาทิโตปิ วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

[590] องฺคานญฺจ ววตฺถานาติ โสกาทโย เจตฺถ ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตาฯ ชรามรณพฺภาหตสฺส หิ พาลสฺส เต สมฺภวนฺติฯ

ยถาห – ‘‘อสฺสุตวา, ภิกฺขเว, ปุถุชฺชโน สารีริกาย ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโฐ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ สมฺโมหมาปชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. 4.252)ฯ ยาว จ เตสํ ปวตฺติ, ตาว อวิชฺชายาติ ปุนปิ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ สมฺพนฺธเมว โหติ ภวจกฺกํฯ ตสฺมา เตสํ ชรามรเณเนว เอกสงฺเขปํ กตฺวา ทฺวาทเสว ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานีติ เวทิตพฺพานิฯ เอวเมตฺถ องฺคานํ ววตฺถานโตปิ วิญฺญาตพฺโพ วินิจฺฉโยฯ

อยํ ตาเวตฺถ สงฺเขปกถาฯ

อวิชฺชาปจฺจยาสงฺขารปทกถา

[561] อยํ ปน วิตฺถารนโย – อวิชฺชาติ สุตฺตนฺตปริยาเยน ทุกฺขาทีสุ จตูสุ ฐาเนสุ อญฺญาณํ, อภิธมฺมปริยาเยน ปุพฺพนฺตาทีหิ สทฺธิํ อฏฺฐสุฯ วุตฺตญฺเหตํ ‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา, ทุกฺเข อญฺญาณํ…เป.… ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อญฺญาณํ, ปุพฺพนฺเต อญฺญาณํ, อปรนฺเต, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อญฺญาณ’’นฺติ (ธ. ส. 1106)ฯ ตตฺถ กิญฺจาปิ ฐเปตฺวา โลกุตฺตรํ สจฺจทฺวยํ เสสฏฺฐาเนสุ อารมฺมณวเสน อวิชฺชา อุปฺปชฺชติ, เอวํ สนฺเตปิ ปฏิจฺฉาทนวเสเนว อิธ อธิปฺเปตาฯ สา หิ อุปฺปนฺนา ทุกฺขสจฺจํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ติฏฺฐติ, ยาถาวสรสลกฺขณํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติ, ตถา สมุทยํ, นิโรธํ, มคฺคํ, ปุพฺพนฺตสงฺขาตํ อตีตํ ขนฺธปญฺจกํ, อปรนฺตสงฺขาตํ อนาคตํ ขนฺธปญฺจกํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺตสงฺขาตํ ตทุภยํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมสงฺขาตํ อิทปฺปจฺจยตญฺเจว ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺเม จ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ติฏฺฐติฯ ‘‘อยํ อวิชฺชา, อิเม สงฺขารา’’ติ เอวํ ยาถาวสรสลกฺขณเมตฺถ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทติฯ ตสฺมา ทุกฺเข อญฺญาณํ…เป.… อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อญฺญาณนฺติ วุจฺจติฯ

[592] สงฺขาราติ ปุญฺญาทโย ตโย กายสงฺขาราทโย ตโยติ เอวํ ปุพฺเพ สงฺเขปโต วุตฺตา ฉ, วิตฺถารโต ปเนตฺถ ปุญฺญาภิสงฺขาโร ทานสีลาทิวเสน ปวตฺตา อฏฺฐ กามาวจรกุสลเจตนา เจว ภาวนาวเสน ปวตฺตา ปญฺจ รูปาวจรกุสลเจตนา จาติ เตรส เจตนา โหนฺติฯ