เมนู

11. โสสานิกงฺคกถา

[34] โสสานิกงฺคมฺปิ ‘‘น สุสานํ ปฏิกฺขิปามิ, โสสานิกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ อิเมสํ อญฺญตรวจเนน สมาทินฺนํ โหติฯ

เตน ปน โสสานิเกน ยํ มนุสฺสา คามํ นิเวสนฺตา ‘‘อิทํ สุสาน’’นฺติ ววตฺถเปนฺติ, น ตตฺถ วสิตพฺพํฯ น หิ มตสรีเร อชฺฌาปิเต ตํ สุสานํ นาม โหติ, ฌาปิตกาลโต ปน ปฏฺฐาย สเจปิ ทฺวาทสวสฺสานิ ฉฑฺฑิตํ, ตํ สุสานเมวฯ

ตสฺมิํ ปน วสนฺเตน จงฺกมมณฺฑปาทีนิ กาเรตฺวา มญฺจปีฐํ ปญฺญเปตฺวา ปานียปริโภชนียํ อุปฏฺฐาเปตฺวา ธมฺมํ วาเจนฺเตน น วสิตพฺพํฯ ครุกํ หิ อิทํ ธุตงฺคํ, ตสฺมา อุปฺปนฺนปริสฺสยวิฆาตตฺถาย สงฺฆตฺเถรํ วา ราชยุตฺตกํ วา ชานาเปตฺวา อปฺปมตฺเตน วสิตพฺพํฯ จงฺกมนฺเตน อทฺธกฺขิเกน อาฬาหนํ โอโลเกนฺเตน จงฺกมิตพฺพํฯ

สุสานํ คจฺฉนฺเตนาปิ มหาปถา อุกฺกมฺม อุปฺปถมคฺเคน คนฺตพฺพํฯ ทิวาเยว อารมฺมณํ ววตฺถเปตพฺพํฯ เอวญฺหิสฺส ตํ รตฺติํ ภยานกํ น ภวิสฺสติ, อมนุสฺสา รตฺติํ วิรวิตฺวา วิรวิตฺวา อาหิณฺฑนฺตาปิ น เกนจิ ปหริตพฺพาฯ เอกทิวสมฺปิ สุสานํ อคนฺตุํ น วฏฺฏติฯ มชฺฌิมยามํ สุสาเน เขเปตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปฏิกฺกมิตุํ วฏฺฏตีติ องฺคุตฺตรภาณกาฯ อมนุสฺสานํ ปิยํ ติลปิฏฺฐมาสภตฺตมจฺฉมํสขีรเตลคุฬาทิขชฺชโภชฺชํ น เสวิตพฺพํฯ กุลเคหํ น ปวิสิตพฺพนฺติ อิทมสฺส วิธานํ

ปเภทโต ปน อยมฺปิ ติวิโธ โหติฯ ตตฺถ อุกฺกฏฺเฐน ยตฺถ ธุวฑาหธุวกุณปธุวโรทนานิ อตฺถิ, ตตฺเถว วสิตพฺพํฯ มชฺฌิมสฺส ตีสุ เอกสฺมิมฺปิ สติ วฏฺฏติฯ มุทุกสฺส วุตฺตนเยน สุสานลกฺขณํ ปตฺตมตฺเต วฏฺฏติฯ

อิเมสํ ปน ติณฺณมฺปิ น สุสานมฺหิ วาสํ กปฺปเนน ธุตงฺคํ ภิชฺชติฯ สุสานํ อคตทิวเสติ องฺคุตฺตรภาณกาฯ อยเมตฺถ เภโท

อยํ ปนานิสํโส มรณสฺสติปฏิลาโภ, อปฺปมาทวิหาริตา, อสุภนิมิตฺตาธิคโม, กามราควิโนทนํ, อภิณฺหํ กายสภาวทสฺสนํ, สํเวคพหุลตา อาโรคฺยมทาทิปฺปหานํ, ภยเภรวสหนตา, อมนุสฺสานํ ครุภาวนียตา, อปฺปิจฺฉตาทีนํ อนุโลมวุตฺติตาติฯ

โสสานิกญฺหิ มรณานุสติปฺปภาวา,

นิทฺทาคตมฺปิ น ผุสนฺติ ปมาทโทสา;

สมฺปสฺสโต จ กุณปานิ พหูนิ ตสฺส,

กามานุภาววสคมฺปิ น โหติ จิตฺตํฯ

สํเวคเมติ วิปุลํ น มทํ อุเปติ,

สมฺมา อโถ ฆฏติ นิพฺพุติเมสมาโน;

โสสานิกงฺคมิติเนกคุณาวหตฺตา,

นิพฺพานนินฺนหทเยน นิเสวิตพฺพนฺติฯ

อยํ โสสานิกงฺเค สมาทานวิธานปฺปเภทเภทานิสํสวณฺณนาฯ

12. ยถาสนฺถติกงฺคกถา

[35] ยถาสนฺถติกงฺคมฺปิ ‘‘เสนาสนโลลุปฺปํ ปฏิกฺขิปามิ, ยถาสนฺถติกงฺคํ สมาทิยามี’’ติ อิเมสํ อญฺญตรวจเนน สมาทินฺนํ โหติฯ

เตน ปน ยถาสนฺถติเกน ยทสฺส เสนาสนํ ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ คาหิตํ โหติ, เตเนว ตุฏฺฐพฺพํ, น อญฺโญ อุฏฺฐาเปตพฺโพฯ อิทมสฺส วิธานํ

ปเภทโต ปน อยมฺปิ ติวิโธ โหติฯ ตตฺถ อุกฺกฏฺโฐ อตฺตโน ปตฺตเสนาสนํ ทูเรติ วา อจฺจาสนฺเนติ วา อมนุสฺสทีฆชาติกาทีหิ อุปทฺทุตนฺติ วา อุณฺหนฺติ วา สีตลนฺติ วา ปุจฺฉิตุํ น ลภติฯ มชฺฌิโม ปุจฺฉิตุํ ลภติฯ คนฺตฺวา ปน โอโลเกตุํ น ลภติฯ มุทุโก คนฺตฺวา โอโลเกตฺวา สจสฺส ตํ น รุจฺจติ, อญฺญํ คเหตุํ ลภติฯ

อิเมสํ ปน ติณฺณมฺปิ เสนาสนโลลุปฺเป อุปฺปนฺนมตฺเต ธุตงฺคํ ภิชฺชตีติ อยเมตฺถ เภโท

อยํ ปนานิสํโส, ‘‘ยํ ลทฺธํ เตน ตุฏฺฐพฺพ’’นฺติ (ชา. 1.1.136; ปาจิ. 793) วุตฺโตวาทกรณํ, สพฺรหฺมจารีนํ หิเตสิตา, หีนปณีตวิกปฺปปริจฺจาโค, อนุโรธวิโรธปฺปหานํ, อตฺริจฺฉตาย ทฺวารปิทหนํ, อปฺปิจฺฉตาทีนํ อนุโลมวุตฺติตาติฯ