เมนู

8. นกุลปิตุสุตฺตํ

[131] เอกํ สมยํ ภควา ภคฺเคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร เภสกฬาวเน มิคทาเยฯ อถ โข นกุลปิตา คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป.… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข นกุลปิตา คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเฐว ธมฺเม โน ปรินิพฺพายนฺติ? โก ปน, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเฐว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตี’’ติ? ‘‘สนฺติ โข, คหปติ, จกฺขุวิญฺเญยฺยา รูปา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียาฯ ตญฺเจ ภิกฺขุ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺฐติฯ ตสฺส ตํ อภินนฺทโต อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺฐโต ตนฺนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ โหติ ตทุปาทานํฯ สอุปาทาโน, คหปติ, ภิกฺขุ โน ปรินิพฺพายติ…เป.… สนฺติ โข, คหปติ, ชิวฺหาวิญฺเญยฺยา รสา…เป.… สนฺติ โข, คหปติ, มโนวิญฺเญยฺยา ธมฺมา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียา ฯ ตญฺเจ ภิกฺขุ อภินนฺทติ อภิวทติ อชฺโฌสาย ติฏฺฐติฯ ตสฺส ตํ อภินนฺทโต อภิวทโต อชฺโฌสาย ติฏฺฐโต ตนฺนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ โหติ ตทุปาทานํฯ สอุปาทาโน, คหปติ, ภิกฺขุ โน ปรินิพฺพายติ ฯ อยํ โข, คหปติ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเฐว ธมฺเม โน ปรินิพฺพายนฺติ’’ฯ

‘‘สนฺติ จ โข, คหปติ, จกฺขุวิญฺเญยฺยา รูปา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียาฯ ตญฺเจ ภิกฺขุนาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺฐติฯ ตสฺส ตํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺฐโต น ตนฺนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ โหติ, น ตทุปาทานํฯ อนุปาทาโน, คหปติ, ภิกฺขุ ปรินิพฺพายติ…เป.… สนฺติ โข, คหปติ, ชิวฺหาวิญฺเญยฺยา รสา…เป.… สนฺติ โข, คหปติ, มโนวิญฺเญยฺยา ธมฺมา อิฏฺฐา กนฺตา มนาปา ปิยรูปา กามูปสํหิตา รชนียาฯ ตญฺเจ ภิกฺขุ นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺฐติฯ ตสฺส ตํ นาภินนฺทโต นาภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺฐโต น ตนฺนิสฺสิตํ วิญฺญาณํ โหติ น ตทุปาทานํฯ อนุปาทาโน, คหปติ, ภิกฺขุ ปรินิพฺพายติฯ อยํ โข, คหปติ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺเจ สตฺตา ทิฏฺเฐว ธมฺเม ปรินิพฺพายนฺตี’’ติฯ อฏฺฐมํฯ

9. โลหิจฺจสุตฺตํ

[132] เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากจฺจาโน อวนฺตีสุ วิหรติ มกฺกรกเต [มกฺกรกเฏ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อรญฺญกุฏิกายํฯ อถ โข โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส สมฺพหุลา อนฺเตวาสิกา กฏฺฐหารกา มาณวกา เยนายสฺมโต มหากจฺจานสฺส อรญฺญกุฏิกา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ปริโต ปริโต กุฏิกาย อนุจงฺกมนฺติ อนุวิจรนฺติ อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา กานิจิ กานิจิ เสเลยฺยกานิ กโรนฺติ [เสลิสฺสกานิ กโรนฺตา (สี.)] – ‘‘อิเม ปน มุณฺฑกา สมณกา อิพฺภา กณฺหา [กิณฺหา (สี. ปี.)] พนฺธุปาทาปจฺจา, อิเมสํ ภรตกานํ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน วิหารา นิกฺขมิตฺวา เต มาณวเก เอตทโวจ – ‘‘มา มาณวกา สทฺทมกตฺถ; ธมฺมํ โว ภาสิสฺสามี’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, เต มาณวกา ตุณฺหี อเหสุํฯ อถ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน เต มาณวเก คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

‘‘สีลุตฺตมา ปุพฺพตรา อเหสุํ,

เต พฺราหฺมณา เย ปุราณํ สรนฺติ;

คุตฺตานิ ทฺวารานิ สุรกฺขิตานิ,

อเหสุํ เตสํ อภิภุยฺย โกธํฯ

‘‘ธมฺเม จ ฌาเน จ รตา อเหสุํ,

เต พฺราหฺมณา เย ปุราณํ สรนฺติ;

อิเม จ โวกฺกมฺม ชปามเสติ,

โคตฺเตน มตฺตา วิสมํ จรนฺติฯ

‘‘โกธาภิภูตา ปุถุอตฺตทณฺฑา [โกธาภิภูตาสุปุถุตฺตทณฺฑา (สฺยา. กํ. ก.)],

วิรชฺชมานา สตณฺหาตณฺเหสุ;

อคุตฺตทฺวารสฺส ภวนฺติ โมฆา,

สุปิเนว ลทฺธํ ปุริสสฺส วิตฺตํฯ

‘‘อนาสกา ถณฺฑิลสายิกา จ;

ปาโต สินานญฺจ ตโย จ เวทาฯ

‘‘ขราชินํ ชฏาปงฺโก, มนฺตา สีลพฺพตํ ตโป;

กุหนา วงฺกทณฺฑา จ, อุทกาจมนานิ จฯ

‘‘วณฺณา เอเต พฺราหฺมณานํ, กตา กิญฺจิกฺขภาวนา;

จิตฺตญฺจ สุสมาหิตํ, วิปฺปสนฺนมนาวิลํ;

อขิลํ สพฺพภูเตสุ, โส มคฺโค พฺรหฺมปตฺติยา’’ติฯ

อถ โข เต มาณวกา กุปิตา อนตฺตมนา เยน โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา โลหิจฺจํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยคฺเฆ! ภวํ ชาเนยฺย, สมโณ มหากจฺจาโน พฺราหฺมณานํ มนฺเต [มนฺตํ (ก.)] เอกํเสน อปวทติ, ปฏิกฺโกสตี’’ติ? เอวํ วุตฺเต, โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ กุปิโต อโหสิ อนตฺตมโนฯ อถ โข โลหิจฺจสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘น โข ปน เมตํ ปติรูปํ โยหํ อญฺญทตฺถุ มาณวกานํเยว สุตฺวา สมณํ มหากจฺจานํ อกฺโกเสยฺยํ [อกฺโกเสยฺยํ วิรุชฺเฌยฺยํ (สฺยา. กํ. ก.)] ปริภาเสยฺยํฯ ยํนูนาหํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺเฉยฺย’’นฺติฯ

อถ โข โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ เตหิ มาณวเกหิ สทฺธิํ เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ

เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โลหิจฺโจ พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ – ‘‘อาคมํสุ นุ ขฺวิธ, โภ กจฺจาน, อมฺหากํ สมฺพหุลา อนฺเตวาสิกา กฏฺฐหารกา มาณวกา’’ติ? ‘‘อาคมํสุ ขฺวิธ เต, พฺราหฺมณ, สมฺพหุลา อนฺเตวาสิกา กฏฺฐหารกา มาณวกา’’ติฯ ‘‘อหุ ปน โภโต กจฺจานสฺส เตหิ มาณวเกหิ สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ? ‘‘อหุ โข เม, พฺราหฺมณ, เตหิ มาณวเกหิ สทฺธิํ โกจิเทว กถาสลฺลาโป’’ติ ฯ ‘‘ยถา กถํ ปน โภโต กจฺจานสฺส เตหิ มาณวเกหิ สทฺธิํ อโหสิ กถาสลฺลาโป’’ติ? ‘‘เอวํ โข เม, พฺราหฺมณ, เตหิ มาณวเกหิ สทฺธิํ อโหสิ กถาสลฺลาโป –

‘‘สีลุตฺตมา ปุพฺพตรา อเหสุํ,

เต พฺราหฺมณา เย ปุราณํ สรนฺติ;…เป.…;

อขิลํ สพฺพภูเตสุ,

โส มคฺโค พฺรหฺมปตฺติยา’’ติฯ

‘‘เอวํ โข เม, พฺราหฺมณ, เตหิ มาณวเกหิ สทฺธิํ อโหสิ กถาสลฺลาโป’’ติฯ

‘‘‘อคุตฺตทฺวาโร’ติ [อคุตฺตทฺวาโร อคุตฺตทฺวาโรติ (ก.)] ภวํ กจฺจาโน อาหฯ กิตฺตาวตา นุ โข, โภ กจฺจาน, อคุตฺตทฺวาโร โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป อธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป รูเป พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺฐิตกายสฺสติ [อนุปฏฺฐิตาย สติยา (สฺยา. กํ. ปี. ก.) อุปริ อาสีวิสวคฺเค อวสฺสุตสุตฺเต ปน ‘‘อนุปฏฺฐิตกายสฺสตี’’ตฺเวว สพฺพตฺถ ทิสฺสติ] จ วิหรติ, ปริตฺตเจตโส ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย ปิยรูเป ธมฺเม อธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป จ ธมฺเม พฺยาปชฺชติ, อนุปฏฺฐิตกายสฺสติ จ วิหรติ, ปริตฺตเจตโส ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติฯ เอวํ โข, พฺราหฺมณ, อคุตฺตทฺวาโร โหตี’’ติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, โภ กจฺจาน; อพฺภุตํ, โภ กจฺจาน! ยาวญฺจิทํ โภตา กจฺจาเนน อคุตฺตทฺวาโรว สมาโน อคุตฺตทฺวาโรติ อกฺขาโตฯ

‘‘‘คุตฺตทฺวาโร’ติ ภวํ กจฺจาโน อาหฯ กิตฺตาวตา นุ โข, โภ กจฺจาน, คุตฺตทฺวาโร โหตี’’ติ? ‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา ปิยรูเป รูเป นาธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป รูเป น พฺยาปชฺชติ, อุปฏฺฐิตกายสฺสติ จ วิหรติ, อปฺปมาณเจตโส ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ ปชานาติ ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย ปิยรูเป ธมฺเม นาธิมุจฺจติ, อปฺปิยรูเป ธมฺเม น พฺยาปชฺชติ, อุปฏฺฐิตกายสฺสติ จ วิหรติ, อปฺปมาณเจตโส ตญฺจ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ยถาภูตํ ปชานาติ, ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติฯ เอวํ โข, พฺราหฺมณ, คุตฺตทฺวาโร โหตี’’ติฯ

‘‘อจฺฉริยํ, โภ กจฺจาน; อพฺภุตํ, โภ กจฺจาน! ยาวญฺจิทํ โภตา กจฺจาเนน คุตฺตทฺวาโรว สมาโน คุตฺตทฺวาโรติ อกฺขาโตฯ อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน; อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน! เสยฺยถาปิ, โภ กจฺจาน, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย, จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ โภตา กจฺจาเนน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, โภ กจฺจาน, ตํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ, ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ กจฺจาโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตํฯ ยถา จ ภวํ กจฺจาโน มกฺกรกเต อุปาสกกุลานิ อุปสงฺกมติ; เอวเมว โลหิจฺจกุลํ อุปสงฺกมตุฯ ตตฺถ เย มาณวกา วา มาณวิกา วา ภวนฺตํ กจฺจานํ อภิวาเทสฺสนฺติ ปจฺจุฏฺฐิสฺสนฺติ อาสนํ วา อุทกํ วา ทสฺสนฺติ, เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ นวมํฯ

10. เวรหจฺจานิสุตฺตํ

[133] เอกํ สมยํ อายสฺมา อุทายี กามณฺฑายํ วิหรติ โตเทยฺยสฺส พฺราหฺมณสฺส อมฺพวเนฯ อถ โข เวรหจฺจานิโคตฺตาย พฺราหฺมณิยา อนฺเตวาสี มาณวโก เยนายสฺมา อุทายี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อุทายินา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ มาณวกํ อายสฺมา อุทายี ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข โส มาณวโก อายสฺมตา อุทายินา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อุฏฺฐายาสนา เยน เวรหจฺจานิโคตฺตา พฺราหฺมณี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เวรหจฺจานิโคตฺตํ พฺราหฺมณิํ เอตทโวจ – ‘‘ยคฺเฆ, โภติ, ชาเนยฺยาสิ [โภติ ชาเนยฺย (สี. ปี. ก.), โภตี ชาเนยฺย (สฺยา. กํ.)]! สมโณ อุทายี ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ , สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสตี’’ติฯ

‘‘เตน หิ ตฺวํ, มาณวก, มม วจเนน สมณํ อุทายิํ นิมนฺเตหิ สฺวาตนาย ภตฺเตนา’’ติ ฯ ‘‘เอวํ โภตี’’ติ โข โส มาณวโก เวรหจฺจานิโคตฺตาย พฺราหฺมณิยา ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา อุทายี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ กิร, ภวํ, อุทายิ, อมฺหากํ อาจริยภริยาย เวรหจฺจานิโคตฺตาย พฺราหฺมณิยา สฺวาตนาย ภตฺต’’นฺติฯ อธิวาเสสิ โข อายสฺมา อุทายี ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข อายสฺมา อุทายี ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เวรหจฺจานิโคตฺตาย พฺราหฺมณิยา นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข เวรหจฺจานิโคตฺตา พฺราหฺมณี อายสฺมนฺตํ อุทายิํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปสิ สมฺปวาเรสิฯ อถ โข เวรหจฺจานิโคตฺตา พฺราหฺมณี อายสฺมนฺตํ อุทายิํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ ปาทุกา อาโรหิตฺวา อุจฺเจ อาสเน นิสีทิตฺวา สีสํ โอคุณฺฐิตฺวา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘ภณ, สมณ, ธมฺม’’นฺติฯ ‘‘ภวิสฺสติ, ภคินิ, สมโย’’ติ วตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมิ [ปกฺกามิ (สฺยา. กํ. ปี.)]

ทุติยมฺปิ โข โส มาณวโก เยนายสฺมา อุทายี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อุทายินา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ มาณวกํ อายสฺมา อุทายี ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ