เมนู

10. อพฺยากตสํยุตฺตํ

1. เขมาสุตฺตํ

[410] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน เขมา ภิกฺขุนี โกสเลสุ จาริกํ จรมานา อนฺตรา จ สาวตฺถิํ อนฺตรา จ สาเกตํ โตรณวตฺถุสฺมิํ วาสํ อุปคตา โหติฯ อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล สาเกตา สาวตฺถิํ คจฺฉนฺโต, อนฺตรา จ สาเกตํ อนฺตรา จ สาวตฺถิํ โตรณวตฺถุสฺมิํ เอกรตฺติวาสํ อุปคจฺฉิฯ อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล อญฺญตรํ ปุริสํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, โตรณวตฺถุสฺมิํ ตถารูปํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ชาน ยมหํ อชฺช ปยิรุปาเสยฺย’’นฺติฯ

‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข โส ปุริโส รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส ปฏิสฺสุตฺวา เกวลกปฺปํ โตรณวตฺถุํ อาหิณฺฑนฺโต [อนฺวาหิณฺฑนฺโต (สี.)] นาทฺทส ตถารูปํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ยํ ราชา ปเสนทิ โกสโล ปยิรุปาเสยฺยฯ อทฺทสา โข โส ปุริโส เขมํ ภิกฺขุนิํ โตรณวตฺถุสฺมิํ วาสํ อุปคตํฯ ทิสฺวาน เยน ราชา ปเสนทิ โกสโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ ปเสนทิํ โกสลํ เอตทโวจ –

‘‘นตฺถิ โข, เทว, โตรณวตฺถุสฺมิํ ตถารูโป สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ยํ เทโว ปยิรุปาเสยฺยฯ อตฺถิ จ โข, เทว, เขมา นาม ภิกฺขุนี, ตสฺส ภควโต สาวิกา อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ ตสฺสา โข ปน อยฺยาย เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต – ‘ปณฺฑิตา, วิยตฺตา เมธาวินี พหุสฺสุตา จิตฺตกถา กลฺยาณปฏิภานา’ติฯ ตํ เทโว ปยิรุปาสตู’’ติฯ

อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เยน เขมา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เขมํ ภิกฺขุนิํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เขมํ ภิกฺขุนิํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ นุ โข, อยฺเย, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, มหาราช, ภควตา – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ ปนยฺเย, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, มหาราช, อพฺยากตํ ภควตา – ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, อยฺเย, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, มหาราช, ภควตา – ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ ปนยฺเย, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติฯ ‘‘เอตมฺปิ โข, มหาราช, อพฺยากตํ ภควตา – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ

‘‘‘กิํ นุ โข, อยฺเย, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ, อิติ ปุฏฺฐา สมานา – ‘อพฺยากตํ โข เอตํ, มหาราช, ภควตา – โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วเทสิฯ ‘กิํ ปนยฺเย, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ ปุฏฺฐา สมานา – ‘เอตมฺปิ โข, มหาราช, อพฺยากตํ ภควตา – น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วเทสิฯ ‘กิํ นุ โข, อยฺเย, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ ปุฏฺฐา สมานา – ‘อพฺยากตํ โข เอตํ, มหาราช, ภควตา – โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วเทสิฯ ‘กิํ ปนยฺเย, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ ปุฏฺฐา สมานา – ‘เอตมฺปิ โข, มหาราช, อพฺยากตํ ภควตา – เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วเทสิฯ ‘โก นุ โข , อยฺเย, เหตุ, โก ปจฺจโย เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’’ติ?

‘‘เตน หิ, มหาราช, ตญฺเญเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิฯ ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, อตฺถิ เต โกจิ คณโก วา มุทฺทิโก วา สงฺขายโก วา โย ปโหติ คงฺคาย วาลุกํ [วาลิกํ (สี. สฺยา. กํ.)] คเณตุํ – เอตฺตกา [เอตฺติกา (สี.)] วาลุกา อิติ วา, เอตฺตกานิ วาลุกสตานิ อิติ วา, เอตฺตกานิ วาลุกสหสฺสานิ อิติ วา, เอตฺตกานิ วาลุกสตสหสฺสานิ อิติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, อยฺเย’’ฯ

‘‘อตฺถิ ปน เต โกจิ คณโก วา มุทฺทิโก วา สงฺขายโก วา โย ปโหติ มหาสมุทฺเท อุทกํ คเณตุํ – เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานิ อิติ วา, เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานิ อิติ วา, เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานิ อิติ วา, เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานิ อิติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, อยฺเย’’ฯ ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘มหายฺเย, สมุทฺโท คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เยน รูเป ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย ตํ รูปํ ตถาคตสฺส ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวงฺกตํ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมํฯ รูปสงฺขายวิมุตฺโต โข, มหาราช, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโทฯ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติฯ

‘‘ยาย เวทนาย ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย, สา เวทนา ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมาฯ เวทนาสงฺขายวิมุตฺโต, มหาราช, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโทฯ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติฯ

‘‘ยาย สญฺญา ตถาคตํ…เป.… เยหิ สงฺขาเรหิ ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย, เต สงฺขารา ตถาคตสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวงฺกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมาฯ สงฺขารสงฺขายวิมุตฺโต โข, มหาราช, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโทฯ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ , ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติฯ

‘‘เยน วิญฺญาเณ ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย ตํ วิญฺญาณํ ตถาคตสฺส ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวงฺกตํ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมํฯ วิญฺญาณสงฺขายวิมุตฺโต โข, มหาราช, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโทฯ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปตี’’ติฯ อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล เขมาย ภิกฺขุนิยา ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา เขมํ ภิกฺขุนิํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล อปเรน สมเยน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ นุ โข, ภนฺเต, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, มหาราช, มยา – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, ภนฺเต, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, มหาราช, อพฺยากตํ มยา – ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, ภนฺเต, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, มหาราช, มยา – ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, ภนฺเต, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, มหาราช, อพฺยากตํ มยา – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, ภนฺเต, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน – ‘อพฺยากตํ โข เอตํ, มหาราช, มยา – โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วเทสิ…เป.…ฯ ‘‘‘กิํ ปน, ภนฺเต, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน – ‘‘‘เอตมฺปิ โข, มหาราช, อพฺยากตํ มยา – เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วเทสิฯ โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติ?

‘‘เตน หิ, มหาราช, ตญฺเญเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิฯ ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิฯ

ตํ กิํ มญฺญสิ, มหาราช, อตฺถิ เต โกจิ คณโก วา มุทฺทิโก วา สงฺขายโก วา โย ปโหติ คงฺคาย วาลุกํ คเณตุํ – เอตฺตกา วาลุกา อิติ วา…เป.… เอตฺตกานิ วาลุกสตสหสฺสานิ อิติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘อตฺถิ ปน เต โกจิ คณโก วา มุทฺทิโก วา สงฺขายโก วา โย ปโหติ มหาสมุทฺเท อุทกํ คเณตุํ – เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานิ อิติ วา…เป.… เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานิ อิติ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘มหา, ภนฺเต, สมุทฺโท คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโหฯ เอวเมว โข, มหาราช, เยน รูเปน ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย, ตํ รูปํ ตถาคตสฺส ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวงฺกตํ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมํฯ รูปสงฺขายวิมุตฺโต โข, มหาราช, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโทฯ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติฯ ยาย เวทนาย…เป.… ยาย สญฺญาย…เป.… เยหิ สงฺขาเรหิ…เป.…’’ฯ

‘‘เยน วิญฺญาเณน ตถาคตํ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปยฺย, ตํ วิญฺญาณํ ตถาคตสฺส ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวงฺกตํ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมํฯ วิญฺญาณสงฺขายวิมุตฺโต โข, มหาราช, ตถาคโต คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห – เสยฺยถาปิ มหาสมุทฺโทฯ ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปติ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ น อุเปตี’’ติฯ

‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยตฺร หิ นาม สตฺถุ เจว [สตฺถุโน เจว (สี.)] สาวิกาย จ อตฺเถน อตฺโถ พฺยญฺชเนน พฺยญฺชนํ สํสนฺทิสฺสติ , สเมสฺสติ, น วิโรธยิสฺสติ [วิหายิสฺสติ (สี. สฺยา. กํ.), วิคายิสฺสติ (ก.)] ยทิทํ อคฺคปทสฺมิํฯ เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ เขมํ ภิกฺขุนิํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ อปุจฺฉิํฯ สาปิ เม อยฺยา เอเตหิ ปเทหิ เอเตหิ พฺยญฺชเนหิ เอตมตฺถํ พฺยากาสิ, เสยฺยถาปิ ภควาฯ อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยตฺร หิ นาม สตฺถุ เจว สาวิกาย จ อตฺเถน อตฺโถ พฺยญฺชเนน พฺยญฺชนํ สํสนฺทิสฺสติ, สเมสฺสติ, น วิโรธยิสฺสติ ยทิทํ อคฺคปทสฺมิํฯ หนฺท ทานิ มยํ, ภนฺเต, คจฺฉามฯ พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติฯ ‘‘ยสฺส ทานิ ตฺวํ, มหาราช, กาลํ มญฺญสี’’ติฯ

อถ โข ราชา ปเสนทิ โกสโล ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามีติฯ ปฐมํฯ

2. อนุราธสุตฺตํ

[411] เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อนุราโธ ภควโต อวิทูเร อรญฺญกุฏิกายํ วิหรติฯ อถ โข สมฺพหุลา อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เยนายสฺมา อนุราโธ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อนุราเธน สทฺธิํ สมฺโมทิํสุฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ ฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อายสฺมนฺตํ อนุราธํ เอตทโวจุํ – ‘‘โย โส, อาวุโส อนุราธ, ตถาคโต อุตฺตมปุริโส ปรมปุริโส ปรมปตฺติปตฺโต, ตํ ตถาคโต อิเมสุ จตูสุ ฐาเนสุ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปติ – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา’’ติ? ‘‘โย โส, อาวุโส, ตถาคโต อุตฺตมปุริโส ปรมปุริโส ปรมปตฺติปตฺโต, ตํ ตถาคโต อญฺญตฺร อิเมหิ จตูหิ ฐาเนหิ ปญฺญาปยมาโน ปญฺญาเปติ – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อายสฺมนฺตํ อนุราธํ เอตทโวจุํ – ‘‘โส จายํ [โย จายํ (สี.)] ภิกฺขุ นโว ภวิสฺสติ อจิรปพฺพชิโต, เถโร วา ปน พาโล อพฺยตฺโต’’ติฯ อถ โข เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อายสฺมนฺตํ อนุราธํ นววาเทน จ พาลวาเทน จ อปสาเทตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกมิํสุฯ