เมนู

‘‘ส โข โส, คามณิ, อริยสาวโก เอวํ วิคตาภิชฺโฌ วิคตพฺยาปาโท อสมฺมูฬฺโห สมฺปชาโน ปฏิสฺสโต กรุณาสหคเตน เจตสา…เป.… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป.…ฯ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน ผริตฺวา วิหรติฯ เสยฺยถาปิ, คามณิ, พลวา สงฺขธโม อปฺปกสิเรเนว จตุทฺทิสา วิญฺญาเปยฺย; เอวเมว โข, คามณิ, เอวํ ภาวิตาย อุเปกฺขาย เจโตวิมุตฺติยา เอวํ พหุลีกตาย ยํ ปมาณกตํ กมฺมํ น ตํ ตตฺราวสิสฺสติ, น ตํ ตตฺราวติฏฺฐตี’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป.… อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ อฏฺฐมํฯ

9. กุลสุตฺตํ

[361] เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ เยน นาฬนฺทา ตทวสริ ฯ ตตฺร สุทํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเนฯ

เตน โข ปน สมเยน นาฬนฺทา ทุพฺภิกฺขา โหติ ทฺวีหิติกา เสตฏฺฐิกา สลากาวุตฺตาฯ เตน โข ปน สมเยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต นาฬนฺทายํ ปฏิวสติ มหติยา นิคณฺฐปริสาย สทฺธิํฯ อถ โข อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ นิคณฺฐสาวโก เยน นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อสิพนฺธกปุตฺตํ คามณิํ นิคณฺโฐ นาฏปุตฺโต เอตทโวจ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, คามณิ, สมณสฺส โคตมสฺส วาทํ อาโรเปหิฯ เอวํ เต กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉิสฺสติ – ‘อสิพนฺธกปุตฺเตน คามณินา สมณสฺส โคตมสฺส เอวํมหิทฺธิกสฺส เอวํมหานุภาวสฺส วาโท อาโรปิโต’’’ติฯ

‘‘กถํ ปนาหํ, ภนฺเต, สมณสฺส โคตมสฺส เอวํมหิทฺธิกสฺส เอวํมหานุภาวสฺส วาทํ อาโรเปสฺสามี’’ติ ? ‘‘เอหิ ตฺวํ, คามณิ, เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกม; อุปสงฺกมิตฺวา สมณํ โคตมํ เอวํ วเทหิ – ‘นนุ, ภนฺเต, ภควา อเนกปริยาเยน กุลานํ อนุทฺทยํ [อนุทยํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] วณฺเณติ, อนุรกฺขํ วณฺเณติ, อนุกมฺปํ วณฺเณตี’ติ? สเจ โข, คามณิ, สมโณ โคตโม เอวํ ปุฏฺโฐ เอวํ พฺยากโรติ – ‘เอวํ, คามณิ, ตถาคโต อเนกปริยาเยน กุลานํ อนุทฺทยํ วณฺเณติ, อนุรกฺขํ วณฺเณติ, อนุกมฺปํ วณฺเณตี’ติ, ตเมนํ ตฺวํ เอวํ วเทยฺยาสิ – ‘อถ กิญฺจรหิ, ภนฺเต, ภควา ทุพฺภิกฺเข ทฺวีหิติเก เสตฏฺฐิเก สลากาวุตฺเต มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ จาริกํ จรติ? อุจฺเฉทาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน, อนยาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน, อุปฆาตาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน’ติ! อิมํ โข เต, คามณิ, สมโณ โคตโม อุภโตโกฏิกํ ปญฺหํ ปุฏฺโฐ เนว สกฺขติ [สกฺขิติ (สี.) ม. นิ. 2.83] อุคฺคิลิตุํ, เนว สกฺขติ โอคิลิตุ’’นฺติฯ ‘‘เอวํ , ภนฺเต’’ติ โข อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ นิคณฺฐสฺส นาฏปุตฺตสฺส ปฏิสฺสุตฺวา อุฏฺฐายาสนา นิคณฺฐํ นาฏปุตฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘นนุ, ภนฺเต, ภควา อเนกปริยาเยน กุลานํ อนุทฺทยํ วณฺเณติ, อนุรกฺขํ วณฺเณติ, อนุกมฺปํ วณฺเณตี’’ติ? ‘‘เอวํ, คามณิ, ตถาคโต อเนกปริยาเยน กุลานํ อนุทฺทยํ วณฺเณติ, อนุรกฺขํ วณฺเณติ, อนุกมฺปํ วณฺเณตี’’ติฯ ‘‘อถ กิญฺจรหิ, ภนฺเต, ภควา ทุพฺภิกฺเข ทฺวีหิติเก เสตฏฺฐิเก สลากาวุตฺเต มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธิํ จาริกํ จรติ? อุจฺเฉทาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน, อนยาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน, อุปฆาตาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน’’ติฯ ‘‘อิโต โส, คามณิ, เอกนวุติกปฺเป [เอกนวุโต กปฺโป (สฺยา. กํ.), เอกนวุติกปฺโป (ปี.)] ยมหํ อนุสฺสรามิ, นาภิชานามิ กิญฺจิ กุลํ ปกฺกภิกฺขานุปฺปทานมตฺเตน อุปหตปุพฺพํฯ อถ โข ยานิ ตานิ กุลานิ อฑฺฒานิ มหทฺธนานิ มหาโภคานิ ปหูตชาตรูปรชตานิ ปหูตวิตฺตูปกรณานิ ปหูตธนธญฺญานิ, สพฺพานิ ตานิ ทานสมฺภูตานิ เจว สจฺจสมฺภูตานิ จ สามญฺญสมฺภูตานิ จฯ อฏฺฐ โข, คามณิ, เหตู, อฏฺฐ ปจฺจยา กุลานํ อุปฆาตายฯ

ราชโต วา กุลานิ อุปฆาตํ คจฺฉนฺติ, โจรโต วา กุลานิ อุปฆาตํ คจฺฉนฺติ, อคฺคิโต วา กุลานิ อุปฆาตํ คจฺฉนฺติ , อุทกโต วา กุลานิ อุปฆาตํ คจฺฉนฺติ, นิหิตํ วา ฐานา วิคจฺฉติ [นิหิตํ วา นาธิคจฺฉนฺติ (สี. ปี.)], ทุปฺปยุตฺตา วา กมฺมนฺตา วิปชฺชนฺติ, กุเล วา กุลงฺคาโรติ [กุลานํ วา กุลงฺคาโร (สี.)] อุปฺปชฺชติ, โย เต โภเค วิกิรติ วิธมติ วิทฺธํเสติ, อนิจฺจตาเย อฏฺฐมีติฯ อิเม โข, คามณิ, อฏฺฐ เหตู, อฏฺฐ ปจฺจยา กุลานํ อุปฆาตาย ฯ อิเมสุ โข, คามณิ, อฏฺฐสุ เหตูสุ, อฏฺฐสุ ปจฺจเยสุ สํวิชฺชมาเนสุ โย มํ เอวํ วเทยฺย – ‘อุจฺเฉทาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน, อนยาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน, อุปฆาตาย ภควา กุลานํ ปฏิปนฺโน’ติ, ตํ, คามณิ, วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺฐิํ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต เอวํ นิรเย’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป.… อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ นวมํฯ

10. มณิจูฬกสุตฺตํ

[362] เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน ราชนฺเตปุเร ราชปริสาย สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘กปฺปติ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ชาตรูปรชตํ, สาทิยนฺติ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชาตรูปรชตํ, ปฏิคฺคณฺหนฺติ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชาตรูปรชต’’นฺติ!

เตน โข ปน สมเยน มณิจูฬโก คามณิ ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติฯ อถ โข มณิจูฬโก คามณิ ตํ ปริสํ เอตทโวจ – ‘‘มา อยฺโย [อยฺยา (สี. ปี.)] เอวํ อวจุตฺถฯ น กปฺปติ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ชาตรูปรชตํ, น สาทิยนฺติ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชาตรูปรชตํ, นปฺปฏิคฺคณฺหนฺติ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชาตรูปรชตํ, นิกฺขิตฺตมณิสุวณฺณา สมณา สกฺยปุตฺติยา อเปตชาตรูปรชตา’’ติฯ อสกฺขิ โข มณิจูฬโก คามณิ ตํ ปริสํ สญฺญาเปตุํฯ อถ โข มณิจูฬโก คามณิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มณิจูฬโก คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ราชนฺเตปุเร ราชปริสาย สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘กปฺปติ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ ชาตรูปรชตํ, สาทิยนฺติ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชาตรูปรชตํ, ปฏิคฺคณฺหนฺติ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชาตรูปรชต’นฺติฯ เอวํ วุตฺเต, อหํ, ภนฺเต, ตํ ปริสํ เอตทโวจํ – ‘มา อยฺโย เอวํ อวจุตฺถฯ