เมนู

เอวํ วุตฺเต, อสฺสาโรโห คามณิ ปโรทิ, อสฺสูนิ ปวตฺเตสิฯ ‘‘เอตํ โข ตฺยาหํ, คามณิ, นาลตฺถํ – ‘อลํ, คามณิ, ติฏฺฐเตตํ; มา มํ เอตํ ปุจฺฉี’’’ติฯ ‘‘นาหํ, ภนฺเต, เอตํ โรทามิ ยํ มํ ภควา เอวมาหฯ อปิจาหํ, ภนฺเต, ปุพฺพเกหิ อาจริยปาจริเยหิ อสฺสาโรเหหิ ทีฆรตฺตํ นิกโต วญฺจิโต ปลุทฺโธ – ‘โย โส อสฺสาโรโห สงฺคาเม อุสฺสหติ วายมติ, ตเมนํ อุสฺสหนฺตํ วายมนฺตํ ปเร หนนฺติ ปริยาปาเทนฺติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปรชิตานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’’’ติฯ ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป.… อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ปญฺจมํฯ

6. อสิพนฺธกปุตฺตสุตฺตํ

[358] เอกํ สมยํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเนฯ อถ โข อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘พฺราหฺมณา, ภนฺเต, ปจฺฉา ภูมกา กามณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อุทโกโรหกา อคฺคิปริจารกาฯ เต มตํ กาลงฺกตํ อุยฺยาเปนฺติ นาม สญฺญาเปนฺติ นาม สคฺคํ นาม โอกฺกาเมนฺติฯ ภควา ปน, ภนฺเต, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปโหติ ตถา กาตุํ ยถา สพฺโพ โลโก กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘เตน หิ, คามณิ, ตญฺเญเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิฯ ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสี’’ติฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ, อิธสฺส ปุริโส ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺฐิโกฯ ตเมนํ มหา ชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปญฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย – ‘อยํ ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตู’ติฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ , อปิ นุ โส ปุริโส มหโต ชนกายสฺส อายาจนเหตุ วา โถมนเหตุ วา ปญฺชลิกา อนุปริสกฺกนเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, คามณิ, ปุริโส มหติํ ปุถุสิลํ คมฺภีเร อุทกรหเท ปกฺขิเปยฺยฯ

ตเมนํ มหา ชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปญฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย – ‘อุมฺมุชฺช, โภ ปุถุสิเล, อุปฺลว, โภ ปุถุสิเล , ถลมุปฺลว, โภ ปุถุสิเล’ติฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ, อปิ นุ สา ปุถุสิลา มหโต ชนกายสฺส อายาจนเหตุ วา โถมนเหตุ วา ปญฺชลิกา อนุปริสกฺกนเหตุ วา อุมฺมุชฺเชยฺย วา อุปฺลเวยฺย วา ถลํ วา อุปฺลเวยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘เอวเมว โข, คามณิ, โย โส ปุริโส ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺฐิโกฯ กิญฺจาปิ ตํ มหา ชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปญฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย – ‘อยํ ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชตู’’’ติ, อถ โข โส ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยฯ

‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ, อิธสฺส [อิธ (ก.), อิธ จสฺส (?)] ปุริโส ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต มุสาวาทา ปฏิวิรโต ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิตฺโต สมฺมาทิฏฺฐิโกฯ ตเมนํ มหา ชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปญฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย – ‘อยํ ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตู’ติฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ, อปิ นุ โส ปุริโส มหโต ชนกายสฺส อายาจนเหตุ วา โถมนเหตุ วา ปญฺชลิกา อนุปริสกฺกนเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, คามณิ, ปุริโส สปฺปิกุมฺภํ วา เตลกุมฺภํ วา คมฺภีเร อุทกรหเท โอคาเหตฺวา ภินฺเทยฺยฯ ตตฺร ยาสฺส สกฺขรา วา กฐลา วา สา อโธคามี [อโธคามินี (?)] อสฺส; ยญฺจ ขฺวสฺส ตตฺร สปฺปิ วา เตลํ วา ตํ อุทฺธํ คามิ อสฺสฯ ตเมนํ มหา ชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปญฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย – ‘โอสีท, โภ สปฺปิเตล, สํสีท , โภ สปฺปิเตล, อโธ คจฺฉ, โภ สปฺปิเตลา’ติฯ

ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ, อปิ นุ ตํ สปฺปิเตลํ มหโต ชนกายสฺส อายาจนเหตุ วา โถมนเหตุ วา ปญฺชลิกา อนุปริสกฺกนเหตุ วา โอสีเทยฺย วา สํสีเทยฺย วา อโธ วา คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘เอวเมว โข, คามณิ, โย โส ปุริโส ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต , สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต, อนภิชฺฌาลุ, อพฺยาปนฺนจิตฺโต, สมฺมาทิฏฺฐิโก, กิญฺจาปิ ตํ มหา ชนกาโย สงฺคมฺม สมาคมฺม อายาเจยฺย โถเมยฺย ปญฺชลิโก อนุปริสกฺเกยฺย – ‘อยํ ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตู’ติ, อถ โข โส ปุริโส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต…เป.… อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. เขตฺตูปมสุตฺตํ

[359] เอกํ สมยํ ภควา นาฬนฺทายํ วิหรติ ปาวาริกมฺพวเนฯ อถ โข อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อสิพนฺธกปุตฺโต คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘นนุ, ภนฺเต, ภควา สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรตี’’ติ? ‘‘เอวํ, คามณิ, ตถาคโต สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรตี’’ติฯ ‘‘อถ กิญฺจรหิ, ภนฺเต, ภควา เอกจฺจานํ สกฺกจฺจํ ธมฺมํ เทเสติ, เอกจฺจานํ โน ตถา สกฺกจฺจํ ธมฺมํ เทเสตี’’ติ? ‘‘เตน หิ, คามณิ, ตญฺเญเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิฯ ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ, อิธสฺสุ [อิธ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] กสฺสกสฺส คหปติโน ตีณิ เขตฺตานิ – เอกํ เขตฺตํ อคฺคํ, เอกํ เขตฺตํ มชฺฌิมํ, เอกํ เขตฺตํ หีนํ ชงฺคลํ อูสรํ ปาปภูมิฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ, อสุ กสฺสโก คหปติ พีชานิ ปติฏฺฐาเปตุกาโม กตฺถ ปฐมํ ปติฏฺฐาเปยฺย, ยํ วา อทุํ เขตฺตํ อคฺคํ , ยํ วา อทุํ เขตฺตํ มชฺฌิมํ, ยํ วา อทุํ เขตฺตํ หีนํ ชงฺคลํ อูสรํ ปาปภูมี’’ติ? ‘‘อสุ, ภนฺเต, กสฺสโก คหปติ พีชานิ ปติฏฺฐาเปตุกาโม ยํ อทุํ เขตฺตํ อคฺคํ ตตฺถ ปติฏฺฐาเปยฺย ฯ ตตฺถ ปติฏฺฐาเปตฺวา ยํ อทุํ เขตฺตํ มชฺฌิมํ ตตฺถ ปติฏฺฐาเปยฺยฯ ตตฺถ ปติฏฺฐาเปตฺวา ยํ อทุํ เขตฺตํ หีนํ ชงฺคลํ อูสรํ ปาปภูมิ ตตฺถ ปติฏฺฐาเปยฺยปิ, โนปิ ปติฏฺฐาเปยฺยฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อนฺตมโส โคภตฺตมฺปิ ภวิสฺสตี’’ติฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, คามณิ, ยํ อทุํ เขตฺตํ อคฺคํ; เอวเมว มยฺหํ ภิกฺขุภิกฺขุนิโยฯ เตสาหํ ธมฺมํ เทเสมิ – อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ, สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสมิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอเต หิ, คามณิ, มํทีปา มํเลณา มํตาณา มํสรณา วิหรนฺติฯ เสยฺยถาปิ, คามณิ, ยํ อทุํ เขตฺตํ มชฺฌิมํ; เอวเมว มยฺหํ อุปาสกอุปาสิกาโยฯ เตสํ ปาหํ ธมฺมํ เทเสมิ – อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ, สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสมิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอเต หิ, คามณิ, มํทีปา มํเลณา มํตาณา มํสรณา วิหรนฺติฯ เสยฺยถาปิ, คามณิ, ยํ อทุํ เขตฺตํ หีนํ ชงฺคลํ อูสรํ ปาปภูมิ; เอวเมว มยฺหํ อญฺญติตฺถิยา สมณพฺราหฺมณปริพฺพาชกา ฯ เตสํ ปาหํ ธมฺมํ เทเสมิ – อาทิกลฺยาณํ มชฺเฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสมิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อปฺเปว นาม เอกํ ปทมฺปิ อาชาเนยฺยุํ ตํ เนสํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, คามณิ, ปุริสสฺส ตโย อุทกมณิกา – เอโก อุทกมณิโก อจฺฉิทฺโท อหารี อปริหารี, เอโก อุทกมณิโก อจฺฉิทฺโท หารี ปริหารี, เอโก อุทกมณิโก ฉิทฺโท หารี ปริหารีฯ ตํ กิํ มญฺญสิ, คามณิ, อสุ ปุริโส อุทกํ นิกฺขิปิตุกาโม กตฺถ ปฐมํ นิกฺขิเปยฺย, โย วา โส อุทกมณิโก อจฺฉิทฺโท อหารี อปริหารี, โย วา โส อุทกมณิโก อจฺฉิทฺโท หารี ปริหารี, โย วา โส อุทกมณิโก ฉิทฺโท หารี ปริหารี’’ติ? ‘‘อสุ, ภนฺเต, ปุริโส อุทกํ นิกฺขิปิตุกาโม, โย โส อุทกมณิโก อจฺฉิทฺโท อหารี อปริหารี ตตฺถ นิกฺขิเปยฺย, ตตฺถ นิกฺขิปิตฺวา, โย โส อุทกมณิโก อจฺฉิทฺโท หารี ปริหารี ตตฺถ นิกฺขิเปยฺย, ตตฺถ นิกฺขิปิตฺวา, โย โส อุทกมณิโก ฉิทฺโท หารี ปริหารี ตตฺถ นิกฺขิเปยฺยปิ, โนปิ นิกฺขิเปยฺยฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อนฺตมโส ภณฺฑโธวนมฺปิ ภวิสฺสตี’’ติฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, คามณิ, โย โส อุทกมณิโก อจฺฉิทฺโท อหารี อปริหารี; เอวเมว มยฺหํ ภิกฺขุภิกฺขุนิโยฯ