เมนู

8. คามณิสํยุตฺตํ

1. จณฺฑสุตฺตํ

[353] สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข จณฺโฑ คามณิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข จณฺโฑ คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺโจ จณฺโฑ จณฺโฑตฺเวว [เยน มิเธกจฺโจ จณฺโฑเตว (สี. ปี.)] สงฺขํ คจฺฉติฯ โก ปน, ภนฺเต, เหตุ, โก ปจฺจโย เยน มิเธกจฺโจ โสรโต โสรโตตฺเวว [เยน มิเธกจฺโจ สุรโตเตว (สี. ปี.)] สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘อิธ, คามณิ, เอกจฺจสฺส ราโค อปฺปหีโน โหติฯ ราคสฺส อปฺปหีนตฺตา ปเร โกเปนฺติ, ปเรหิ โกปิยมาโน โกปํ ปาตุกโรติฯ โส จณฺโฑตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติฯ โทโส อปฺปหีโน โหติฯ โทสสฺส อปฺปหีนตฺตา ปเร โกเปนฺติ, ปเรหิ โกปิยมาโน โกปํ ปาตุกโรติฯ โส จณฺโฑตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติฯ โมโห อปฺปหีโน โหติฯ โมหสฺส อปฺปหีนตฺตา ปเร โกเปนฺติ, ปเรหิ โกปิยมาโน โกปํ ปาตุกโรติฯ โส จณฺโฑตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติฯ อยํ โข, คามณิ, เหตุ, อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺโจ จณฺโฑ จณฺโฑตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ’’ฯ

‘‘อิธ ปน, คามณิ, เอกจฺจสฺส ราโค ปหีโน โหติฯ ราคสฺส ปหีนตฺตา ปเร น โกเปนฺติ, ปเรหิ โกปิยมาโน โกปํ น ปาตุกโรติฯ โส โสรโตตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติฯ โทโส ปหีโน โหติฯ โทสสฺส ปหีนตฺตา ปเร น โกเปนฺติ, ปเรหิ โกปิยมาโน โกปํ น ปาตุกโรติฯ โส โสรโตตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติฯ โมโห ปหีโน โหติฯ โมหสฺส ปหีนตฺตา ปเร น โกเปนฺติ, ปเรหิ โกปิยมาโน โกปํ น ปาตุกโรติฯ โส โสรโตตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติฯ อยํ โข, คามณิ, เหตุ อยํ ปจฺจโย เยน มิเธกจฺโจ โสรโต โสรโตตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, จณฺโฑ คามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต! เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ปฐมํฯ

2. ตาลปุฏสุตฺตํ

[354] เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ อถ โข ตาลปุโฏ [ตาลปุตฺโต (สี. สฺยา. กํ.)] นฏคามณิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ตาลปุโฏ นฏคามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต, ปุพฺพกานํ อาจริยปาจริยานํ นฏานํ ภาสมานานํ – ‘โย โส นโฏ รงฺคมชฺเฌ สมชฺชมชฺเฌ สจฺจาลิเกน ชนํ หาเสติ รเมติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปหาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’ติฯ อิธ ภควา กิมาหา’’ติ? ‘‘อลํ, คามณิ, ติฏฺฐเตตํฯ มา มํ เอตํ ปุจฺฉี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข ตาลปุโฏ นฏคามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต, ปุพฺพกานํ อาจริยปาจริยานํ นฏานํ ภาสมานานํ – ‘โย โส นโฏ รงฺคมชฺเฌ สมชฺชมชฺเฌ สจฺจาลิเกน ชนํ หาเสติ รเมติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปหาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’ติฯ อิธ ภควา กิมาหา’’ติ? ‘‘อลํ, คามณิ, ติฏฺฐเตตํฯ มา มํ เอตํ ปุจฺฉี’’ติฯ ตติยมฺปิ โข ตาลปุโฏ นฏคามณิ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, ภนฺเต, ปุพฺพกานํ อาจริยปาจริยานํ นฏานํ ภาสมานานํ – ‘โย โส นโฏ รงฺคมชฺเฌ สมชฺชมชฺเฌ สจฺจาลิเกน ชนํ หาเสติ รเมติ, โส กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ปหาสานํ เทวานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชตี’ติฯ อิธ ภควา กิมาหา’’ติ?

‘‘อทฺธา โข ตฺยาหํ, คามณิ, น ลภามิ [นาลตฺถํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] – ‘อลํ, คามณิ, ติฏฺฐเตตํ, มา มํ เอตํ ปุจฺฉี’ติฯ อปิ จ ตฺยาหํ พฺยากริสฺสามิฯ ปุพฺเพ โข, คามณิ, สตฺตา อวีตราคา ราคพนฺธนพทฺธาฯ เตสํ นโฏ รงฺคมชฺเฌ สมชฺชมชฺเฌ เย ธมฺมา รชนียา เต อุปสํหรติ ภิยฺโยโสมตฺตายฯ ปุพฺเพ โข, คามณิ, สตฺตา อวีตโทสา โทสพนฺธนพทฺธาฯ