เมนู

5. องฺคสุตฺตํ

[308] ‘‘ปญฺจิมานิ , ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส พลานิฯ กตมานิ ปญฺจ? รูปพลํ, โภคพลํ, ญาติพลํ, ปุตฺตพลํ, สีลพลํฯ รูปพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, น จ โภคพเลน – เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติฯ ยโต จ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม รูปพเลน จ สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ – เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติฯ รูปพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, น จ ญาติพเลน – เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติฯ ยโต จ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม รูปพเลน จ สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, ญาติพเลน จ – เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติฯ รูปพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, ญาติพเลน จ, น จ ปุตฺตพเลน – เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติฯ ยโต จ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม รูปพเลน จ สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, ญาติพเลน จ, ปุตฺตพเลน จ – เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติฯ รูปพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, ญาติพเลน จ, ปุตฺตพเลน จ, น จ สีลพเลน – เอวํ โส เตนงฺเคน อปริปูโร โหติฯ ยโต จ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม รูปพเลน จ สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, ญาติพเลน จ, ปุตฺตพเลน จ, สีลพเลน จ – เอวํ โส เตนงฺเคน ปริปูโร โหติฯ อิมานิ โข , ภิกฺขเว, ปญฺจ มาตุคามสฺส พลานี’’ติฯ ปญฺจมํฯ

6. นาเสนฺติสุตฺตํ

[309] ‘‘ปญฺจิมานิ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส พลานิฯ กตมานิ ปญฺจ? รูปพลํ, โภคพลํ, ญาติพลํ, ปุตฺตพลํ, สีลพลํฯ รูปพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, น จ สีลพเลน, นาเสนฺเตว นํ, กุเล น วาเสนฺติฯ รูปพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, น จ สีลพเลน, นาเสนฺเตว นํ, กุเล น วาเสนฺติฯ รูปพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, ญาติพเลน จ, น จ สีลพเลน, นาเสนฺเตว นํ, กุเล น วาเสนฺติฯ รูปพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, โภคพเลน จ, ญาติพเลน จ , ปุตฺตพเลน จ, น จ สีลพเลน, นาเสนฺเตว นํ, กุเล น วาเสนฺติฯ สีลพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, น จ รูปพเลน, วาเสนฺเตว นํ, กุเล น นาเสนฺติฯ สีลพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, น จ โภคพเลน, วาเสนฺเตว นํ, กุเล น นาเสนฺติฯ สีลพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, น จ ญาติพเลน, วาเสนฺเตว นํ, กุเล น นาเสนฺติฯ สีลพเลน จ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม สมนฺนาคโต โหติ, น จ ปุตฺตพเลน, วาเสนฺเตว นํ, กุเล น นาเสนฺติฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ มาตุคามสฺส พลานี’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. เหตุสุตฺตํ

[310] ‘‘ปญฺจิมานิ , ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส พลานิฯ กตมานิ ปญฺจ? รูปพลํ, โภคพลํ, ญาติพลํ, ปุตฺตพลํ, สีลพลํฯ น, ภิกฺขเว, มาตุคาโม รูปพลเหตุ วา โภคพลเหตุ วา ญาติพลเหตุ วา ปุตฺตพลเหตุ วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ สีลพลเหตุ โข, ภิกฺขเว, มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ มาตุคามสฺส พลานี’’ติฯ สตฺตมํฯ

8. ฐานสุตฺตํ

[311] ‘‘ปญฺจิมานิ , ภิกฺขเว, ฐานานิ ทุลฺลภานิ อกตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ กตมานิ ปญฺจ? ปติรูเป กุเล ชาเยยฺยนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, ปฐมํ ฐานํ ทุลฺลภํ อกตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ ปติรูเป กุเล ชายิตฺวา ปติรูปํ กุลํ คจฺเฉยฺยนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ ฐานํ ทุลฺลภํ อกตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ ปติรูเป กุเล ชายิตฺวา, ปติรูปํ กุลํ คนฺตฺวา, อสปตฺติ อคารํ อชฺฌาวเสยฺยนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ ฐานํ ทุลฺลภํ อกตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ ปติรูเป กุเล ชายิตฺวา, ปติรูปํ กุลํ คนฺตฺวา, อสปตฺติ อคารํ อชฺฌาวสนฺตี ปุตฺตวตี อสฺสนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ ฐานํ ทุลฺลภํ อกตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ ปติรูเป กุเล ชายิตฺวา, ปติรูปํ กุลํ คนฺตฺวา, อสปตฺติ อคารํ อชฺฌาวสนฺตี ปุตฺตวตี สมานา สามิกํ อภิภุยฺย วตฺเตยฺยนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, ปญฺจมํ ฐานํ ทุลฺลภํ อกตปุญฺเญน มาตุคาเมน ฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ ฐานานิ ทุลฺลภานิ อกตปุญฺเญน มาตุคาเมนาติฯ

‘‘ปญฺจิมานิ, ภิกฺขเว, ฐานานิ สุลภานิ กตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ กตมานิ ปญฺจ? ปติรูเป กุเล ชาเยยฺยนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, ปฐมํ ฐานํ สุลภํ กตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ ปติรูเป กุเล ชายิตฺวา ปติรูปํ กุลํ คจฺเฉยฺยนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ ฐานํ สุลภํ กตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ ปติรูเป กุเล ชายิตฺวา ปติรูปํ กุลํ คนฺตฺวา อสปตฺติ อคารํ อชฺฌาวเสยฺยนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ ฐานํ สุลภํ กตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ ปติรูเป กุเล ชายิตฺวา ปติรูปํ กุลํ คนฺตฺวา อสปตฺติ อคารํ อชฺฌาวสนฺตี ปุตฺตวตี อสฺสนฺติ – อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ ฐานํ สุลภํ กตปุญฺเญน มาตุคาเมนฯ