เมนู

3. อาเวณิกทุกฺขสุตฺตํ

[282] ‘‘ปญฺจิมานิ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส อาเวณิกานิ ทุกฺขานิ, ยานิ มาตุคาโม ปจฺจนุโภติ, อญฺญตฺเรว ปุริเสหิฯ กตมานิ ปญฺจ? อิธ, ภิกฺขเว , มาตุคาโม ทหโรว สมาโน ปติกุลํ คจฺฉติ, ญาตเกหิ วินา โหติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส ปฐมํ อาเวณิกํ ทุกฺขํ, ยํ มาตุคาโม ปจฺจนุโภติ, อญฺญตฺเรว ปุริเสหิฯ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม อุตุนี โหติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส ทุติยํ อาเวณิกํ ทุกฺขํ, ยํ มาตุคาโม ปจฺจนุโภติ, อญฺญตฺเรว ปุริเสหิฯ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม คพฺภินี โหติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส ตติยํ อาเวณิกํ ทุกฺขํ, ยํ มาตุคาโม ปจฺจนุโภติ, อญฺญตฺเรว ปุริเสหิฯ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม วิชายติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส จตุตฺถํ อาเวณิกํ ทุกฺขํ, ยํ มาตุคาโม ปจฺจนุโภติ, อญฺญตฺเรว ปุริเสหิฯ ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปุริสสฺส ปาริจริยํ อุเปติฯ อิทํ โข, ภิกฺขเว, มาตุคามสฺส ปญฺจมํ อาเวณิกํ ทุกฺขํ, ยํ มาตุคาโม ปจฺจนุโภติ, อญฺญตฺเรว ปุริเสหิฯ อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ มาตุคามสฺส อาเวณิกานิ ทุกฺขานิ, ยานิ มาตุคาโม ปจฺจนุโภติ, อญฺญตฺเรว ปุริเสหี’’ติฯ ตติยํฯ

4. ตีหิธมฺเมหิสุตฺตํ

[283] ‘‘ตีหิ , ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม เยภุยฺเยน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ กตเมหิ ตีหิ? อิธ, ภิกฺขเว, มาตุคาโม ปุพฺพณฺหสมยํ มจฺเฉรมลปริยุฏฺฐิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติฯ มชฺฌนฺหิกสมยํ อิสฺสาปริยุฏฺฐิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติฯ สายนฺหสมยํ กามราคปริยุฏฺฐิเตน เจตสา อคารํ อชฺฌาวสติฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม เยภุยฺเยน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติฯ จตุตฺถํฯ

5. โกธนสุตฺตํ

[284] อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, มาตุคามํ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺตํฯ กตีหิ นุ โข, ภนฺเต, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติ?

‘‘ปญฺจหิ โข, อนุรุทฺธ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อสฺสทฺโธ จ โหติ, อหิริโก จ โหติ, อโนตฺตปฺปี จ โหติ, โกธโน จ โหติ, ทุปฺปญฺโญ จ โหติ – อิเมหิ โข, อนุรุทฺธ, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติฯ ปญฺจมํฯ

6. อุปนาหีสุตฺตํ

[285] ‘‘ปญฺจหิ , อนุรุทฺธ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อสฺสทฺโธ จ โหติ, อหิริโก จ โหติ, อโนตฺตปฺปี จ โหติ, อุปนาหี จ โหติ, ทุปฺปญฺโญ จ โหติ – อิเมหิ โข, อนุรุทฺธ, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติฯ ฉฏฺฐํฯ

7. อิสฺสุกีสุตฺตํ

[286] ‘‘ปญฺจหิ, อนุรุทฺธ, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? อสฺสทฺโธ จ โหติ, อหิริโก จ โหติ, อโนตฺตปฺปี จ โหติ, อิสฺสุกี จ โหติ, ทุปฺปญฺโญ จ โหติ – อิเมหิ โข , อนุรุทฺธ, ปญฺจหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต มาตุคาโม กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติฯ สตฺตมํฯ