เมนู

อกุสลวณฺณนา

เอตฺตาวตา จ ยํ ‘‘กุสลากุสลาพฺยากตชาติเภทโต ติวิธ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตํ กุสลํ, ตํ สรูปโต นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรุทฺทิฏฺฐํ อกุสลํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘อกุสลํ ปนา’’ติอาทิฯ ‘‘ภูมิโต เอกวิธ’’นฺติ วุตฺตมตฺถํ นิยเมตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กามาวจรเมวา’’ติฯ นิกายนฺตริกา ปน รูปารูปาวจรมฺปิ อกุสลํ อิจฺฉนฺตีติ เตสํ มตินิเสธนตฺถํ อวธารณํ กตํฯ มหคฺคตภูมิยํ อุปฺปชฺชนฺตมฺปิ เหตํ ตตฺถ รูปธาตุยํ ปวตฺติวิปากํ เทนฺตมฺปิ เอกนฺเตน กามาวจรเมวาติฯ กุโต ปเนส นิยโมติ? กามตณฺหาวิสยภาวโตฯ กามตณฺหาวิสยตา หิ กามาวจรภาวสฺส การณํ ยถา รูปารูปตณฺหาวิสยตา รูปารูปภาวสฺสฯ เอกํเสน เจตํ เอวํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํฯ อิตรถา พฺยาปิตลกฺขณํ น สิยาฯ ยทิ หิ อาลมฺพิตพฺพธมฺมวเสน ภูมิววตฺถานํ กเรยฺย, เอวํ สติ อนารมฺมณานํ สงฺคโห น สิยาฯ อถ วิปากทานวเสน, เอวมฺปิ อวิปากานํ สงฺคโห น สิยา, ตสฺมา อาลมฺพณธมฺมวเสเนว ปริยาปนฺนานํ สา กาตพฺพาฯ อปริยาปนฺนานํ ปน โลกโต อุตฺติณฺณตาย โลกุตฺตรตา, อุตฺตริตราภาวโต อนุตฺตรตา จ เวทิตพฺพาติฯ

โทมนสฺสสฺส อนีวรณาวตฺถาย อภาเวน ตํสหคตจิตฺตุปฺปาโท กามภูมิยํเยว ปวตฺตตีติ โส นิยตวตฺถุโก, อิตเร อรูปภูมิยมฺปิ ปวตฺตนโต อนิยตวตฺถุกาติ อาห ‘‘นิยตา…เป.… ทุวิธ’’นฺติฯ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตานํ โมเหกเหตุกตฺตา, อิตเรสมฺปิ โลภโมหโทสโมหวเสน ทฺวิเหตุกตฺตา อาห ‘‘เอกเหตุกทุเหตุกโต’’ติฯ อาทิโต เอกาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปฏิสนฺธิชนนโต, อุทฺธจฺจสหคตสฺส ตทภาวโต อาห ‘‘ปฏิสนฺธิชนกาชนกโต’’ติฯ อุทฺธจฺจสหคตญฺหิ ปวตฺติวิปากํ เทนฺตมฺปิ ปฏิสนฺธิํ นากฑฺฒติฯ ยโต วกฺขติ –

‘‘เอกาทสวิธานํ ตุ, หิตฺวา อุทฺธจฺจมานสํ;

เอกาทสวิธา เจว, ภวนฺติ ปฏิสนฺธิโย’’ติฯ (อภิธ. 536);

เยน ปน การเณน ตํ ปฏิสนฺธิํ นากฑฺฒติ, ตํ ปฏิสนฺธิวินิจฺฉยกถาหิ อิมิสฺสา คาถาย วณฺณนาปเทเสเยว วกฺขาม ตีหิ เวทนาหีติ สุขทุกฺโขเปกฺขาสงฺขาตาหิ ตีหิ เวทนาหิฯ ยถาห – ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนาฯ กตมา ติสฺโส? สุขา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา’’ติ (สํ. นิ. 4.249)ฯ ยํ ปน กตฺถจิ สุตฺเต ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา ทุกฺขา’’ติ (สํ. นิ. 4.267) วจนํ, ตํ กุสลปกฺขิกํ อุเปกฺขํ สุเข, อกุสลปกฺขิกญฺจ ทุกฺเข ปกฺขิปิตฺวา ปริยาเยน วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ สุปฺปติฏฺฐิตภาวการณตฺตา มูลมิวาติ มูลํ, โลโภ มูลํ เอตสฺสาติ โลภมูลํฯ กิญฺจาปิ หิ โมโหปิ โลภมูเลสุ อตฺถิ, โส ปน สพฺพากุสลสาธารณตฺตา ววตฺถานกโร น โหตีติ อสาธารณธมฺมวเสน ‘‘โลภมูล’’นฺเตฺวว วุตฺตํ ยถา ‘‘เภริสทฺโท ยวงฺกุโร’’ติฯ ตถา ‘‘โทสมูล’’นฺติ เอตฺถาปิฯ มูลนฺตรวิรหโต โมโห เอว มูลํ อิมสฺส, นาญฺญนฺติ โมหมูลํ

มิจฺฉาวเสน ทสฺสนํ ทิฏฺฐิ, ทิฏฺฐิเยว ทิฏฺฐิคตํ ยถา ‘‘อากาสคตํ ถามคต’’นฺติฯ อถ วา วิปริเยสคฺคาหิกาย ทิฏฺฐิยา คตเมว, น เอตฺถ คนฺตพฺพวตฺถุ ตถาสภาวนฺติ ทิฏฺฐิคตํ, ทฺวาสฏฺฐิยา วา ทิฏฺฐีสุ อนฺโตคธนฺติ ทิฏฺฐิคตํ, เตน สมํ ปกาเรหิ ยุตฺตนฺติ ทิฏฺฐิคตสมฺปยุตฺตํ

‘‘ยทา หี’’ติอาทิ โลภมูลจิตฺตานํ ปวตฺติอาการทสฺสนํฯ มิจฺฉาทิฏฺฐินฺติ อุจฺเฉททิฏฺฐิอาทิํ มิจฺฉาทิฏฺฐิํฯ ตาย หิ วิปลฺลตฺตจิตฺตา ตาว โกธวิสโย, ยาว อินฺทฺริยโคจโรติ ปรโลกํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นตฺถิ กาเมสุ อาทีนโว’’ติ คณฺหนฺติฯ อาทิ-สทฺเทน –

‘‘เอส ปนฺโถวิตโถ เทวยาเน,

เยน ยนฺติ ปุตฺตวนฺโต วิโสกา;

ตํ ปสฺสนฺติ ปสโว ปกฺขิโน จ,

เตน เต มาตริปิ มิถุนํ จรนฺตี’’ติฯ –

อาทินา นเยน ปุตฺตมุขทสฺสนํ สคฺคโมกฺขมคฺโคติ เอวมาทิกํ มิจฺฉาทิฏฺฐิํ สงฺคณฺหาติฯ กาเม วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อนิยมตฺโถฯ เตน ‘‘พฺราหฺมณานํ สุวณฺณหรณเมว อทินฺนาทาเน สาวชฺชํ, อิตรํ อนวชฺชํ, คุรูนํ, คุนฺนํ, อตฺตโน ชีวิตสฺส, วิวาหสฺส จ อตฺถาย มุสาวาโท อนวชฺโช, อิตโร สาวชฺโช, คุรุอาทีนํ อตฺถาย เปสุญฺญกรณํ อนวชฺชํ, อิตรํ สาวชฺชํ, ภารตยุทฺธสีตาหรณาทิกถา ปาปวูปสมาย โหตี’’ติ เอวมาทิเก มิจฺฉาคาเห สงฺคณฺหาติฯ ทิฏฺฐมงฺคลาทีนีติ ทิฏฺฐสุตมุตมงฺคลานิฯ สารโต ปจฺเจตีติ วุฑฺฒิยา ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน อคฺคเหตฺวา ‘‘อิทเมว วุฑฺฒิการณ’’นฺติ เอวํ สารวเสน คณฺหาติฯ สภาวติกฺเขเนวาติ โลภสฺส, มิจฺฉาภินิเวสสฺส วา วเสน สรเสเนว ติขิเณน กุรุเรนฯ มนฺเทนาติ ทนฺเธน อติขิเณนฯ ตาทิสํ ปน อตฺตโน, ปรสฺส วา สมุสฺสาหเนน ปวตฺตตีติ อาห ‘‘สมุสฺสาหิเตนา’’ติฯ ปรสฺส ภณฺฑํ วา หรตีติ วา-สทฺเทน ตถาปวตฺตนกมุสาวาทาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพฯ กามานํ วาติ อนุภุยฺยมานานํ กามคุณานํฯ วา-สทฺเทน ปรสนฺตกสฺส อยถาธิปฺเปตตาย ยํ ลทฺธํ, ตํ คเหตพฺพนฺติ คหณาทิกํ สงฺคณฺหาติฯ

สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน เภทาภาวโต โทสมูลํ อสงฺขาริกสสงฺขาริกเภทโต ทุวิธํฯ ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘โทมนสฺสสหคตํ ปฏิฆสมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ? อสาธารณธมฺเมหิ ตสฺส จิตฺตสฺส อุปลกฺขณตฺถํฯ ปาณสฺส อตีว, อติกฺกมิตฺวา วา ปาตนํ ปาณาติปาโตอาทิ-สทฺเทน อทินฺนาทานมุสาวาทเปสุญฺญผรุสสมฺผปฺปลาปพฺยาปาเท สงฺคณฺหาติฯ ทสอกุสลกมฺมปเถสุ หิ กาเมสุมิจฺฉาจารอภิชฺฌามิจฺฉาทิฏฺฐิสงฺขาตา ตโยว กมฺมปถา อิมินา น สิชฺฌนฺติฯ สภาวติกฺขํ หุตฺวา ปวตฺตมานํ จิตฺตํ อสงฺขารเมว โหติ, อิตรํ สสงฺขารนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ติกฺขมนฺทปฺปวตฺติกาเล’’ติฯ

มนฺทํ ปน หุตฺวา ปวตฺตมานํ เอกํเสน สสงฺขารเมวาติ น สกฺกาว วิญฺญาตุํฯ ยํ สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน ปวตฺตติ, ตํ มนฺทเมว โหตีติ กตฺวา ตถา วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ

โมหมูลํ จิตฺตํ มูลนฺตรวิรหโต อติมูฬฺหํ วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจโยคโต จญฺจลญฺจาติ อุเปกฺขาสหคตเมว โหติ, น ตสฺส กทาจิปิ สภาวติกฺขตา อตฺถิฯ อารมฺมเณ หิ สํสปฺปนวเสน, วิกฺขิปนวเสน จ ปวตฺตมานสฺส จิตฺตทฺวยสฺส กิํ ตาทิเส กิจฺเจ สภาวติกฺขตาย, อุสฺสาเหตพฺพตาย วา ภวิตพฺพํ, ตสฺมา น ตตฺถ สงฺขารเภโท อตฺถิฯ นนุ จ อุทฺธจฺจํ สพฺพากุสลสาธารณํ, กสฺมา ปน เอตเมว เตน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘อุทฺธจฺจสหคต’’นฺติฯ วิเสสโต พลวภาวโตฯ อิทญฺหิ เอตสฺมิํ จิตฺเต พลวํ, ตสฺมา สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ปธานํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อิทเมว เตน วิเสสิตพฺพํฯ เตเนว หิ ปาฬิยํ เสสากุสเลสุ อุทฺธจฺจํ เยวาปนกวเสน อาคตํ, อิธ ปน สรูปโตเยว นิทฺทิฏฺฐํฯ เอวํ อสาธารณปฺปธานธมฺมวเสน โมหมูลํ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ อุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตนฺติ ทุวิธํ วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ อสนฺนิฏฺฐานํ สํสโย, วิกฺเขโป อวูปสโม, ภนฺตตาติ อตฺโถฯ ตตฺถ วิจิกิจฺฉาสหคตสฺส อสนฺนิฏฺฐานกาเล, อุทฺธจฺจสหคตสฺส วิกฺเขปกาเล จ ปวตฺติ เวทิตพฺพาฯ

ยถานุรูปนฺติ ปฏิสนฺธิชนกาชนกสฺส, กมฺมปถภาวปฺปตฺตาปตฺตสฺส จ อนุรูปโตฯ อถ วา ยถานุรูปนฺติ โย ยสฺส เหตุ, ตทนุรูปโตฯ

เยภุยฺเยน หิ โลภมูลเกน ขุปฺปิปาสาทินิรนฺตรเปตวิสเย อุปฺปชฺชนฺติ, โทสมูลเกน โทโส วิย จณฺฑชาตตาย ตํสริกฺขเก นิรเย, โมหมูลเกน นิจฺจสมฺมูฬฺหาย ติรจฺฉานโยนิยํ, ตสฺมา โลภาทิเหตุอนุรูปโต ตตฺถ ตตฺถ อปาเย อุปปตฺติํ นิปฺผาเทตีติ อาห ‘‘ยถานุรูปํ…เป.… อุปปตฺติยา’’ติ ฯ อกุสลวิปากานํ ทุกฺขปฺปธานตาย ‘‘ทุกฺขวิเสสสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ

[31] อปาเปน อลามเกน ปาปาปาปปฺปหีเนน ปาปาปาเปสุ มานเสสุ ยํ ปาปมานสํ วุตฺตํ, ปาปาปาเปสุ ปุคฺคเลสุ อปาเปน ปาปาปาปปฺปหีเนน ยํ ปาปมานสํ วุตฺตนฺติ วา สมฺพนฺโธฯ อถ วา ปาปาปาเปสุ มานเสสุ ปาเปน ปาปมานเสน ปาปวเสน ปาปาปาปปฺปหีเนน ยํ ปาปมานสํ วุตฺตนฺติ โยชนาฯ อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – อสมฺมาสมฺพุทฺเธน ตาว ธมฺมสภาวสฺส ทุพฺพิชานียตฺตา กุสลมฺปิ อกุสลโต, อกุสลมฺปิ กุสลโต วุจฺเจยฺย, ภควโต ปน สห วาสนาหิ วิทฺธํสิตากุสลสฺส กมฺมกฺขยกรญาเณน ปจฺจยเวกลฺลโต วิทฺธํสิตกุสลกมฺมสฺส จ สมฺมาสมฺพุทฺธภาวโต เอกนฺเตเนว อกุสลเทสนา อกุสลธมฺมวเสเนวาติฯ

อกุสลวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

อพฺยากตวณฺณนา

อญฺญมญฺญวิสิฏฺฐานํ กุสลากุสลานํ ปากนฺติ วิปากํ, วิปกฺกภาวมาปนฺนานมรูปธมฺมานเมตมธิวจนํฯ ยถา หิ โลเก สาลิพีชาทีนํ ผลานิ ตํสทิสานิ นิพฺพตฺตานิ วิปกฺกานิ นาม โหนฺติ, วิปากนิรุตฺติญฺจ ลภนฺติ, น มูลงฺกุรปตฺตทณฺฑนฬาทีนิ, เอวํ กุสลากุสลานํ ผลานิ อรูปธมฺมภาเวน, สารมฺมณภาเวน จ ตํสทิสานิ วิปกฺกภาวมาปนฺนานีติ วิปากนิรุตฺติํ ลภนฺติ, น ปน กมฺมาภินิพฺพตฺตาปิ รูปธมฺมา กมฺมวิสทิสตฺตาฯ วิปากเมว จิตฺตํ วิปากจิตฺตํฯ กรณมตฺตํ กิริยา ผลทานาสมฺภวโตฯ เยน ปน การเณน ตสฺส ผลทานํ น สมฺภวติ, ตํ เหฏฺฐา วุตฺตเมวฯ กิริยา เอว จิตฺตํ กิริยจิตฺตํฯ วิปากสฺส กามาวจราทิภาโว กุสเล วุตฺตนเยน ยถาสมฺภวํ เวทิตพฺโพฯ อโลภาทิสมฺปยุตฺตเหตูหิ สห วตฺตนโต สเหตุกํฯ ตทภาวโต อเหตุกํฯ นิพฺพตฺตกเหตุวเสน สิชฺฌมานมฺปิ เหตํ สมฺปยุตฺตเหตุวเสเนว ‘‘สเหตุกมเหตุก’’นฺติ วุจฺจติ, อิตรถา ววตฺถานาภาวโตฯ

สกกุสลํ วิยาติ อตฺตโน ชนกํ กามาวจรกุสลํ วิยฯ ชนกชนิตพฺพสมฺพนฺธวเสน หิ ตํ ตํ กุสลํ ตสฺส ตสฺส วิปากสฺส สกํ นามํ โหติฯ

‘‘สกกุสลํ วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา ปวตฺตาการอารมฺมณาทิโต จสฺส ตํสทิสตา อาปชฺเชยฺยาติ ตํนิวารณตฺถมาห ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิฯ ฉสุ อารมฺมเณสูติ ปริตฺตาทิอตีตาทิอชฺฌตฺตาทิเภเทสุ ฉสุ รูปาทิอารมฺมเณสุฯ ภวนฺตรปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธิฯ อวิจฺเฉทปฺปวตฺติเหตุภาเวน ภวสฺส องฺคนฺติ ภวงฺคํฯ นิพฺพตฺติตภวโต ปริคญฺญตาย จุติเหตุตาย จุติฯ ปริตฺตธมฺมปริยาปนฺเนสูติ กามาวจรธมฺมปริยาปนฺเนสุฯ กามาวจรธมฺมา หิ กิเลสวิกฺขมฺภนาทีสุ อสมตฺถภาเวน ปริตฺตานุภาวตาย, โอฬาริกาหิ วา กามตณฺหาทีหิ ปริโต คหิตตฺตา ‘‘ปริตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติฯ วิปากสฺส สงฺกปฺเปตฺวา อารมฺมณคฺคหณาภาวโต กมฺมานุรูปเมว ปวตฺตตีติ ปริตฺตกมฺมวิปาโก ปริตฺตารมฺมเณเยว ปวตฺติตุมรหติ, น มหคฺคตอปฺปมาณารมฺมเณติ วุตฺตํ ‘‘ปริตฺตธมฺมปริยาปนฺเนสู’’ติฯ ยทิ เอวํ มหคฺคตวิปาโกปิ มหคฺคตารมฺมเณเยว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, สญฺญายตฺตารมฺมณสฺส สมาธิปฺปธานสฺส กมฺมสฺส อปฺปนาปตฺตสฺส ตาทิเสเนว วิปาเกน ภวิตพฺพตฺตาฯ