จตุภูมกกุสลวณฺณนา
[28] เอวํ จตุภูมกกุสลจิตฺตํ สรูปโต นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘กาเม อฏฺเฐวา’’ติอาทิฯ ตตฺถ กาเมติ กามภเวฯ ตถา ‘‘รูเป’’ติอาทีสุฯ
[29] กุสลากุสลาปคเตนาติ กุสลากุสลกมฺมโต อปคเตนฯ อคฺคมคฺคสฺส หิ อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺฐาย อรหโต สพฺพานิ กุสลากุสลกมฺมานิ ปหีนานิ นาม โหนฺติ ปจฺจยเวกลฺเลน ปฏิสนฺธิทาเน อสมตฺถภาวโตฯ ยโต จ อริยมคฺคญาณํ ‘‘กมฺมกฺขยกร’’นฺติ วุจฺจติฯ อถ วา อเหตุอปจฺจยวิสุชฺฌนสฺส อภาวโต กิเลสสมุจฺเฉทเกน มคฺคกุสเลน อกุสเลหิ อปคเตนฯ กุสเล กุสเลนาติ กุจฺฉิตานํ สลนาทีหิ กุสลสงฺขาตาย ปฏิปตฺติยํ เทสนุปฺปาทนาทีสุ เฉเกนฯ มุนินาติ อุภยโลกมุนนเกน อคฺคผลญาเณน, สพฺพญฺญุตญฺญาเณน วา สมนฺนาคตตฺตา มุนินาฯ เตนาห –
‘‘โย มุนาติ อุโภ โลเก, มุนิ เตน ปวุจฺจตี’’ติฯ
วสินาติ ฉฬภิญฺญตาย ปรเมน จิตฺตวสิภาเวน สมนฺนาคตตฺตา, ฌานาทีสุ ปญฺจวิธวสิสพฺภาวโต จ วสิภูเตน วสิภาวูปคตินฺทฺริเยนฯ
จตุภูมกกุสลวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ