เมนู

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา

เอวํ ติวิธมฺปิ โลกิยกุสลํ นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ โลกุตฺตรกุสลํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘อิตรํ ปนา’’ติอาทิฯ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเฐน โลโก, โส ติวิโธ – สงฺขารโลโก สตฺตโลโก ภาชนโลโกติฯ ตโต อิทํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตรํฯ จตฺตาโรปิ หิ มคฺคา อุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตสงฺขารโลกโต อุตฺตรนฺติ อนาสวภาเวนฯ สตฺตโลเกสุ จ โสตาปตฺติมคฺโค อนริยโลกโต อุตฺตรติ, สกทาคามิมคฺโค โสตาปนฺนโลกโต, อนาคามิมคฺโค สกทาคามิโลกโต, อรหตฺตมคฺโค อนาคามิโลกโต อุตฺตรติฯ ภาชนโลเกสุ ปน ปฐมมคฺโค อปายโลกโต อุตฺตรติ, สกทาคามิมคฺโค กามโลเกกเทสโต, อนาคามิมคฺโค สกลกามโลกโต, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปโลกโต อุตฺตรติฯ อิติ จตุพฺพิธมฺปิ มคฺคจิตฺตํ ติวิธโลกโต อุตฺตรตีติ โลกุตฺตรํ, กุจฺฉิตสลนาทิโต ปน กุสลํ, จินฺตนาทิโต จิตฺตญฺจาติ โลกุตฺตรกุสลจิตฺตํฯ ผลํ ปน โลกโต อุตฺติณฺณตฺตา โลกุตฺตรํ, อุภยมฺปิ วา สห นิพฺพาเนน อุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตโลกโต อุตฺตรํ วิสิฏฺฐตรนฺติ โลกุตฺตรํฯ ยถาห ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. 4.34; อิติวุ. 90)ฯ

นิยตานิยตวตฺถุกเภทโตติ โสตาปตฺติมคฺคสฺส ปรโตโฆสปจฺจเยน วินา อนุปฺปชฺชนโต อรูปภเว สมฺภโว นตฺถีติ ตํ นิยตวตฺถุกํ, อิตรํ ปน สตฺตวิธมฺปิ ปรโตโฆสํ วินาปิ วิปสฺสนาพเลเนว นิปฺผชฺชนโต ตตฺถาปิ สมฺภวตีติ อนิยตวตฺถุกํฯ

ตีหิ…เป.… ติวิธนฺติ โลกุตฺตรวิโมกฺขานํ ทฺวารภาวโต วิโมกฺขมุขสงฺขาตาหิ สุญฺญตานุปสฺสนาทีหิ ตีหิ วุฏฺฐานคามินิวิปสฺสนาหิ ปตฺตพฺพโต อิทํ โลกุตฺตรกุสลํ ติวิธํ สุญฺญตํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตนฺติฯ

กตเม ปน เต โลกุตฺตรวิโมกฺขาติ? นว โลกุตฺตรธมฺมาฯ ยถาห ‘‘จตฺตาโร จ อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามญฺญผลานิ นิพฺพานญฺจ, อยํ อนาสโว วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. 1.213)ฯ อิมานิ หิ สํกิเลสธมฺเมหิ สุฏฺฐุ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺขา นามฯ ตานิ ปน ปจฺเจกํ สุญฺญโต วิโมกฺโข, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโขติ ติวิธานิฯ ยถาห ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, วิโมกฺขา – สุญฺญโต วิโมกฺโข, อนิมิตฺโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. 1.209)ฯ อิธ ปน กุสลาธิการตฺตา จตุมคฺคสงฺขาตาเยว โลกุตฺตรธมฺมา อธิปฺเปตาฯ

สุญฺญตาทินามลาโภ จ เนสํ อาคมนโต, สคุณโต, อารมฺมณโต จ เวทิตพฺโพฯ ตถา หิ อาคจฺฉติ มคฺโค, ผลญฺจ เอเตนาติ อาคมนํฯ ตญฺหิ ทุวิธํ มคฺคาคมนํ, ผลาคมนญฺจฯ เตสุ วุฏฺฐานคามินิวิปสฺสนา มคฺคาคมนํ, อริยมคฺโค ผลาคมนํฯ ตตฺถ มคฺคสฺส อาคตฏฺฐาเน มคฺคาคมนํ คเหตพฺพํ, ผลสฺส อาคตฏฺฐาเน ผลาคมนํฯ อิธ ปน มคฺคสฺส อาคตตฺตา มคฺคาคมนํ คหิตนฺติฯ ตโต อาคมนโตฯ สคุณโตติ สภาวโตฯ อารมฺมณโตติ อารมฺมณธมฺมโตฯ

โย หิ สพฺพสงฺขารานํ อนตฺตลกฺขณปฏิเวธวสปฺปวตฺตาย อนตฺตานุปสฺสนาย วเสน มคฺคํ ปฏิลภติ, ตสฺส สา อนุปสฺสนา อสุญฺญตฺตกรานํ อตฺตาภินิเวสปจฺจยานํ ทิฏฺเฐกฏฺฐกิเลสานํ วิกฺขมฺภิตภาเวน เตภูมกธมฺมานํ อตฺตสุญฺญตาย ยาถาวโต คหณโต สุญฺญตานุปสฺสนา นาม โหติฯ ตาย ปน ปฏิลทฺธมคฺโค สุญฺญตาย อาคตตฺตา สุญฺญโต นามฯ เตนาห ‘‘อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต สุญฺญตวิโมกฺเขน วิมุจฺจตี’’ติ (ปฏิ. ม. 1.227)ฯ

โย ปน สพฺพสงฺขารานํ อนิจฺจลกฺขณปฏิเวธวสปฺปวตฺตาย อนิจฺจานุปสฺสนาย มคฺคํ ปฏิลภติ, ตสฺส สา อนุปสฺสนา นิจฺจนิมิตฺตาทิคาหกรานํ กิเลสานํ วิกฺขมฺภิตตฺตา ธุวภาวูปฏฺฐานสงฺขาตนิจฺจนิมิตฺตาทิโน อคฺคหณโต อนิมิตฺตานุปสฺสนา นามฯ ตาย ปน ลทฺธมคฺโค อนิมิตฺตาย อาคตตฺตา อนิมิตฺโต นามฯ เตนาห ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจตี’’ติ (ปฏิ. ม. 1.227)ฯ

โย ปน สพฺพสงฺขารานํ ทุกฺขลกฺขณปฏิเวธวสปฺปวตฺตาย ทุกฺขานุปสฺสนาย วเสน มคฺคํ ปฏิลภติ, ตสฺส สา อนุปสฺสนา ตณฺหาปณิธานสฺส วิกฺขมฺภเนน ปณิธิวิรหิตตฺตา อปฺปณิหิตานุปสฺสนา นามฯ ตาย ปน ลทฺธมคฺโค อปฺปณิหิตาย อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต นามฯ เตนาห ‘‘ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจตี’’ติฯ อยํ ตาวสฺส อาคมนวเสน นามลาโภฯ

อตฺตโน ปน ราคาทีหิ สุญฺญตตฺตา, นิจฺจนิมิตฺตาทิวิรหิตตฺตา, ตณฺหาปณิธิอภาวโต จ สคุณโต, ราคาทิสุญฺญสฺเสว, นิจฺจนิมิตฺตาทิวิรหิตสฺส, ปณิธิวิปฺปมุตฺตสฺส จ นิพฺพานสฺส อารมฺมณกรณโต อารมฺมณโต จ สุญฺญตาทิวิโมกฺโข นาม โหตีติ เอวมสฺส สคุณารมฺมเณหิ นามลาโภ ทฏฺฐพฺโพฯ โส จ โข สุตฺตนฺตปริยาเยเนว, โน อภิธมฺมปริยาเยนฯ สุตฺตนฺตกถา หิ ปริยายเทสนา, อิตรา นิปฺปริยายเทสนา, ตสฺมา สคุณารมฺมณโต นามสฺส สพฺพสาธารณภาเวน อววตฺถานกรตฺตา ปริยายภาวโต สุตฺตนฺตปริยาเยเนว ลาโภ, อาคมนโต ปน อภิธมฺมปริยาเยนปิ ววตฺถานกรภาเวน นิปฺปริยายตฺตาฯ เตเนว หิ อาจริเยน ‘‘ตีหิ วิโมกฺขมุเขหิ ปตฺตพฺพโต ติวิธ’’นฺติ วิโมกฺขมุขเมว ธุรํ กตฺวา วุตฺตํ, น ‘‘สุญฺญตาทินามโต ติวิธ’’นฺติฯ

อนิมิตฺตนามํ ปเนตฺถ อาคมนโตปิ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว ลพฺภติ อภิธมฺเม มคฺคํ ปติ อนิมิตฺตนามสฺส อนุทฺธตตฺตาฯ อนุทฺธฏตฺตํ ปน น อนุทฺธริตพฺพตามตฺเตน, อถ โข นิปฺปริยายโต ตสฺส มคฺเค อลพฺภนโตฯ กิญฺจาปิ หิ อยํ วิปสฺสนา นิจฺจนิมิตฺตํ อุคฺฆาเฏนฺตี ปวตฺตติ, สงฺขารนิมิตฺตสฺส ปน อนิสฺสชฺชนโต น นิปฺปริยายโต อนิมิตฺตนามํ ลภติฯ ยํ ปเนตํ สุตฺเต –

‘‘อนิมิตฺตญฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชห;

ตโต มานาภิสมยา, อุปสนฺโต จริสฺสสี’’ติฯ (สุ. นิ. 344) –

มคฺคสฺส อนิมิตฺตภาววจนํ, ตํ ยถาวุตฺตปริยายวเสน ลพฺภมานํ คเหตฺวา วุตฺตํฯ อภิธมฺเม ปน ยา สยมฺปิ นิปฺปริยายโต อนิมิตฺตนามํ น ลภติ, สา กถํ มคฺคสฺส ตํ ทเทยฺยาติ มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามํ น อุทฺธฏํฯ ยทิ เอวํ สุญฺญตนาเมนปิ อิทํ สมานํฯ อนตฺตานุปสฺสนาปิ หิ กิญฺจาปิ ปุคฺคลสุญฺญตํ คณฺหาติ, ธมฺมสุญฺญตํ ปน น คณฺหาตีติ สยํ นิปฺปริยาเยน สุญฺญตานุปสฺสนา นาม น โหตีติ สุญฺญตนามมฺปิ มคฺคสฺส น ทเทยฺยฯ อถ ปุคฺคลสุญฺญตาคฺคหณมตฺเตน สยํ สุญฺญตานุปสฺสนา หุตฺวา มคฺคสฺส ตํ ทเทยฺย, อนิจฺจานุปสฺสนาปิ สงฺขารนิมิตฺตสฺส คหเณปิ นิจฺจนิมิตฺตาทิอุคฺฆาฏนโต สยํ อนิมิตฺตานุปสฺสนา หุตฺวา มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามํ ทเทยฺยาติ? น อิทเมวํ, นิจฺจาทินิมิตฺตุคฺฆาฏเนน อนิมิตฺตภาวสฺส นิปฺปริยาเยน มคฺเค อลพฺภนโต นิจฺจาทินิมิตฺตุคฺฆาฏนสฺสปิ ปริยายภาวโตฯ นนุ อิทมฺปิ สพฺพตฺถ สมานํฯ

สุญฺญตอปฺปณิหิตภาโวปิ หิ นิปฺปริยาเยน อมคฺเค น ลพฺภติ ปุคฺคลสุญฺญตคฺคหณสฺส, ปณิธิโสสนสฺส จ อุชุกํ มคฺเคเนว นิปฺผชฺชนโต, ตสฺมา สุญฺญตานุปสฺสนาปิ อปฺปณิหิตานุปสฺสนาปิ ปริยาเยเนว ตํ ตํ นามํ ลภนฺตีติ มคฺคสฺส นิปฺปริยายโต นามํ น เทนฺตีติ? น, ตโต ลทฺธอริยมคฺคสฺส นิปฺปริยายโต สมฺปยุตฺตธมฺมวเสเนว สุญฺญตอปฺปณิหิตนามสมฺภวโตฯ กถํ? ฐเปตฺวา พุทฺธุปฺปาทํ สรภงฺคสตฺถาราทิกาเลปิ ทุพฺพิชานียภาเวน สุขุมสฺส อนตฺตลกฺขณสฺส ปญฺญาย เอว โคจรภาวโต อนตฺตานุปสฺสนาย อนุปสฺสนโต มคฺคกฺขเณ ปญฺญินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติฯ ยถาห – ‘‘อนตฺตโต มนสิกโรโต ปญฺญินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. 1.221)ฯ

ตญฺจ ปน สยํ อตฺตาภินิเวสสมุคฺฆาฏนโต, อริยมคฺคปริยาปนฺนตฺตา จ นิปฺปริยายโตว สุญฺญตนามํ ลภติฯ ทุกฺขานุปสฺสนาย สมาธิวิปจฺจนีกสฺส ปณิธิสงฺขาตราคสฺส โสสนโต ตสฺสา วเสน อนุปสฺสนฺตสฺส มคฺคกฺขเณ สมาธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติฯ ยถาห – ‘‘ทุกฺขโต มนสิกโรโต สมาธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติฯ ตญฺจ ปน สยํ ปณิธิโสสนโต, อริยมคฺคปริยาปนฺนตฺตา จ นิปฺปริยายโตว อปฺปณิหิตนามํ ลภติฯ สพฺพสงฺขารานํ ปน อนิจฺจภาวํ อาคมนโต สุตฺวา ปจฺฉา สยํ ปจฺจกฺขโต ปสฺสโต ‘‘อนิจฺจเมว วต โส ภควา ‘อนิจฺจ’นฺติ อาหา’’ติ ภควติ สทฺธาพาหุลฺลปฏิลาภโต อนิจฺจานุปสฺสนาย มนสิกโรโต มคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติฯ ยถาห – ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรโต สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติฯ ตํ ปน สยํ สงฺขารนิมิตฺตโต วุฏฺฐหนฺตมฺปิ อริยมคฺคปริยาปนฺนํ น โหตีติ นิปฺปริยายโต อนิมิตฺตนามํ น ลภติ, ตสฺมา ยถา กายกมฺมาธิกํ จิตฺตํ ‘‘กายกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ สุญฺญตสงฺขาตปญฺญินฺทฺริยาธิมตฺโต มคฺโค สุญฺญตนามํ ลภติ, อปฺปณิหิตสงฺขาตสมาธินฺทฺริยาธิมตฺโต อปฺปณิหิตนามํ, สทฺธินฺทฺริยาธิมตฺโต ปน สทฺธาย อนิมิตฺตนามาลาภโต สยมฺปิ ตํ น ลภติฯ

ยทิ สมฺปยุตฺตธมฺมวเสน สุญฺญตาทินามาลาโภ, อถ กถํ ‘‘อาคมนโต’’ติ วุตฺตํ? สจฺจํ, อาคมนโต อธิมตฺตสฺส ปน อินฺทฺริยสฺส วเสน ลทฺธนามมฺปิ อาคมนโตว ลทฺธํ โหติฯ

อถ วา อภิธมฺมปริยาเยนปิ สุญฺญตภาโว นาม ปุคฺคลสุญฺญตาเยวาติ ปุคฺคลสุญฺญตคฺคาหิตาย อนตฺตานุปสฺสนาย สุญฺญตนามํ นิปฺปริยายโตว ลพฺภติฯ ปณิธิ นาม ราคาทิกา เอวาติ ราคาทิโสสิตาย ทุกฺขานุปสฺสนาย อปฺปณิหิตนามมฺปิ นิปฺปริยายโตว ลพฺภติฯ

นิมิตฺตนฺติ ปน ฐเปตฺวา สุตฺตนฺตปริยายํ อภิธมฺมปริยาเยน สงฺขารนิมิตฺตํ โหตีติ สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหิตาย อนิจฺจานุปสฺสนาย อนิมิตฺตนามํ นิปฺปริยายโต น ลพฺภติ, ตสฺมา นิปฺปริยายโต สุญฺญตอปฺปณิหิตนามิกานํ อนตฺตทุกฺขานุปสฺสนานํ วเสน ปฏิลทฺธมคฺโค อาคมนโต สุญฺญตอปฺปณิหิตนามํ ลภติ, อนิมิตฺตนามํ ปน ปริยายโตว ลภติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อนิมิตฺตนามํ ปเนตฺถ อาคมนโตปิ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว ลพฺภติ อภิธมฺเม มคฺคํ ปติ อนิมิตฺตนามสฺส อนุทฺธฏตฺตา’’ติฯ อิติ อิเมสํ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ ปเวสนทฺวารภาวโต สุญฺญตานุปสฺสนาทินามิกา อนตฺตานุปสฺสนาทิกา ติสฺโส อนุกฺกเมน พลวภาวํ ปตฺวา วุฏฺฐานคามินิวิปสฺสนาภูตา ตีณิ วิโมกฺขมุขานีติ เวทิตพฺพานิฯ วุตฺตญฺเหตํ –

‘‘ตีณิ โข ปนิมานิ วิโมกฺขมุขานิ โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺติ, สพฺพสงฺขาเร ปริจฺเฉทปริวฏุมโต สมนุปสฺสนตาย อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, สพฺพสงฺขาเรสุ มโนสมุตฺเตชนตาย อปฺปณิหิตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, สพฺพธมฺเม ปรโต สมนุปสฺสนตาย สุญฺญตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, อิมานิ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. 1.219)ฯ

เอตฺถ หิ ปริจฺเฉทปริวฏุมโตติ อุทยพฺพยวเสน ปริจฺเฉทโต เจว ปริวฏุมโต จฯ อนิจฺจานุปสฺสนา หิ ‘‘อุทยโต ปุพฺเพ สงฺขารา นตฺถี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เตสํ คติํ สมนฺเนสมานา วยโต ปรํ น คจฺฉนฺติ, เอตฺเถว อนฺตรธายนฺตีติ ปริวฏุมโต ปริยนฺตโต สมนุปสฺสติฯ สมนุปสฺสนตายาติ สมฺมเทว อนุปสฺสนตาย สํวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธฯ มโนสมุตฺเตชนตายาติ จิตฺตสํเวชนตายฯ ทุกฺขานุปสฺสเนน หิ สงฺขาเรสุ จิตฺตํ สํวิชฺชติฯ ปรโต สมนุปสฺสนตายาติ ‘‘นาหํ, น มม’’นฺติ เอวํ อนตฺตโต สมนุปสฺสนตายฯ อิติ อิมานิ ตีณิ ปทานิ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ ติณฺณํ วเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิฯ เตเนว จ ตทนนฺตเร ปญฺหาวิสฺสชฺชเน –

‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยโต สงฺขารา อุปฏฺฐหนฺติ, ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยโต สงฺขารา อุปฏฺฐหนฺติ, อนตฺตโต มนสิกโรโต สุญฺญโต สงฺขารา อุปฏฺฐหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. 1.219) –

วุตฺตํฯ นนุ เจตฺถ อภิธมฺมาวตารสฺส ภาสมานตฺตา อภิธมฺมปริยาเยเนว วิโมกฺขมุขานิ จ ววตฺถเปตุํ ยุตฺตนฺติ? สจฺจํ, อนิจฺจานุปสฺสนายปิ ปน มคฺควุฏฺฐานํ โหตีติ ปกาสนตฺถํ สุตฺตนฺตปริยาเยนปิ เอกํ ววตฺถานํ กตํ, ตถา วุฏฺฐิโต ปน มคฺโค อภิธมฺมปริยาเยน สุทฺธิกปฏิปทายเมว สงฺคยฺหตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ

จตุมคฺคโยคเภทโตติ โสตาปตฺติอาทีหิ จตูหิ อริยมคฺเคหิ สมฺปโยคปฺปเภทโตฯ

อริยมคฺคานํ ปน สมฺมาทิฏฺฐาทิอฏฺฐงฺคสภาวตฺตา, เตสญฺจ สพฺพโลกุตฺตเร อตฺถิตาย ภงฺควเสน อเภเทปิ อินฺทฺริยานํ อปาฏวปาฏวตรตมภาเวน สจฺฉิกิริยาวิเสสโต กิเลสานํ ปหานเภโท โหตีติ ตํวเสน จตุพฺพิธตา ทฏฺฐพฺพาฯ เตเนวาห ‘‘สกฺกายทิฏฺฐิวิจิกิจฺฉา’’ติอาทิฯ สติ วิชฺชมาเน ปญฺจกฺขนฺธสงฺขาเต กาเย ทิฏฺฐิ สกฺกายทิฏฺฐิ, สยํ วา ตตฺถ สติ ทิฏฺฐิ สกฺกายทิฏฺฐิ, ปญฺจสุ ขนฺเธสุ อตฺตตฺตนิยาภินิเวสวเสน ปวตฺตาย มิจฺฉาทิฏฺฐิยา เอตํ อธิวจนํฯ สา ปน เอเกกสฺมิํ ขนฺเธ จตุธา อภินิเวสนวเสน วีสติวิธา โหติฯ ตถา หิ โกจิ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ ‘‘ยํ รูปํ, โส อตฺตา, โย อตฺตา, ตํ รูปํ, ยถา ทีปสฺส วณฺโณเยว อจฺจิ, อจฺจิเยว วณฺโณ’’ติฯ รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ สมนุปสฺสติ, ฉายาวนฺตํ วิย รุกฺขํฯ อตฺตนิ วา รูปํ, ปุปฺเผ วิย คนฺธํฯ รูปสฺมิํ วา อตฺตานํ, สมุคฺเค วิย มณิฯ เอวํ เวทนาทีสุปิ ‘‘เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา โยเชตพฺพํฯ ตตฺถ โย ปญฺจวิโธ อพฺยติริตฺตอตฺตาภินิเวโส, สา อุจฺเฉททิฏฺฐิฯ โย ปน ปนฺนรสวิโธ พฺยติริตฺตอตฺตาภินิเวโส, สา สสฺสตทิฏฺฐีติ เวทิตพฺพํฯ

สภาวํ วิจินนฺโต ตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา, ติกิจฺฉิตุํ ทุกฺกรตาย วา วิคตา จิกิจฺฉา ญาณปติกาโร อิมิสฺสาติ วิจิกิจฺฉาฯ สา ปน –

‘‘สตฺถริ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ, ธมฺเม, สงฺเฆ, สิกฺขาย, ปุพฺพนฺเต, อปรนฺเต, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขติ วิจิกิจฺฉตี’’ติ (ธ. ส. 1008 โถกํ. วิสทิสํ) –

เอวํ พุทฺธาทีสุ กงฺขาวเสน อฏฺฐวตฺถุกา,

‘‘อโหสิํ นุ โข อหมตีตมทฺธานํ, น นุ โข อโหสิํ, กิํ นุ โข อโหสิํ, กถํ นุ โข อโหสิํ , กิํ หุตฺวา กิํ อโหสิํ นุ โข อหมตีตมทฺธานํ, ภวิสฺสามิ นุ โข อหมนาคตมทฺธานํ , น นุ โข ภวิสฺสามิ, กิํ นุ โข ภวิสฺสามิ, กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ, กิํ หุตฺวา กิํ ภวิสฺสามิ นุ โข อหมนาคตมทฺธานํ, เอตรหิ วา ปน ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธานํ อชฺฌตฺตํ กถํกถี โหติ, อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กิํ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหิํ คามี ภวิสฺสตี’’ติ (ม. นิ. 1.18; สํ. นิ. 2.20) –

เอวํ ปุพฺพนฺตาทโย อารพฺภ ปวตฺติวเสน โสฬสวตฺถุกา จ นิทฺทิฏฺฐาฯ

ตตฺถ สตฺถริ กงฺขนฺโต ตสฺส รูปกายธมฺมกายานํ วิชฺชมานตํ, อวิชฺชมานตญฺจ กงฺขติ, ธมฺเม กงฺขนฺโต ตสฺส สฺวากฺขาตทฺวากฺขาตภาเว กงฺขติ, สงฺเฆ กงฺขนฺโต ตสฺส สุปฺปฏิปนฺนวิปฺปฏิปนฺนตาทิภาเว กงฺขติ, สิกฺขาย กงฺขนฺโต ตสฺสา สุปญฺญตฺตทุปฺปญฺญตฺตภาวํ กงฺขติ, ปุพฺพนฺเต กงฺขนฺโต สสฺสตาการํ, อธิจฺจสมุปฺปตฺติอาการญฺจ นิสฺสาย อตีเต อตฺตโน วิชฺชมานตํ, อวิชฺชมานตญฺจ กงฺขติ, อปรนฺเต กงฺขนฺโต สสฺสตาการํ, อุจฺเฉทาการญฺจ นิสฺสาย อนาคเต อตฺตโน อุปฺปตฺติํ, อนุปฺปตฺติญฺจ กงฺขติ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต กงฺขนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตโน อตฺถิภาวํ, นตฺถิภาวญฺจ กงฺขติฯ ปจฺจุปฺปนฺโน หิ อทฺธา ปุพฺพภาคาปรภาคโกฏฺฐาสวนฺตตาย ‘‘ปุพฺพนฺตาปรนฺโต’’ติ วุจฺจติ, ยุตฺตํ ปน ตํ อารพฺภ กงฺขาชนนนฺติ? ยุตฺตํ, อยุตฺตนฺติ กา เอตฺถ จินฺตาฯ อุมฺมตฺตโก วิย หิ พาลปุถุชฺชโนฯ ตสฺมา โส ยํ กิญฺจิ กงฺขติเยวฯ เตเนว จ โสฬสวตฺถุกวิจิกิจฺฉานิทฺเทเส ‘‘เอตรหิ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

อาจริยา ปน ‘‘ปุพฺพนฺตาปรนฺโตติ อตีตานาคเต เอกชฺฌํ คเหตฺวา ตทุภยมารพฺภ กงฺขนฺโต ปุพฺพนฺตาปรนฺเต กงฺขตี’’ติปิ วทนฺติฯ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ กงฺขนฺโต ปน อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยานํ, สงฺขาราทีนญฺจ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ เหตุเหตุสมุปฺปนฺนภาวสฺส สพฺภาวาสพฺภาวํ กงฺขตีติ เอวํ ตาว อฏฺฐวตฺถุกกงฺขาย ปวตฺติ เวทิตพฺพาฯ

โสฬสวตฺถุกา ปน ‘‘อโหสิํ นุ โข…เป.… น นุ โข อโหสิ’’นฺติ กงฺขนฺโต วุตฺตนเยเนว อตีเต อตฺตโน วิชฺชมานาวิชฺชมานตํ กงฺขติฯ กิํ นุ โข อโหสินฺติ ชาติลิงฺคุปปตฺติโย นิสฺสาย ‘‘ขตฺติโย นุ โข อโหสิํ, พฺราหฺมณาทีสุ คหฏฺฐาทีสุ เทวาทีสุ อญฺญตโร นุ โข’’ติ กงฺขติฯ กถํ นุ โขติ สณฺฐานาการํ นิสฺสาย ‘‘ทีโฆ นุ โข อโหสิํ, รสฺสโอทาตกาฬาทีนญฺจ อญฺญตโร’’ติ กงฺขติฯ อิสฺสรนิมฺมานาทีนิ นิสฺสาย ‘‘เกน นุ โข ปกาเรน อโหสิ’’นฺติ นิพฺพตฺตนาการโต กงฺขตีติ วทนฺติฯ กิํ หุตฺวา กิํ อโหสินฺติ ชาติอาทีนิ นิสฺสาย ‘‘ขตฺติโย หุตฺวา นุ โข พฺราหฺมโณ อโหสิํ…เป.… เทโว หุตฺวา นุ โข มนุสฺโส อโหสิ’’นฺติ อตฺตโน อปราปรํ ปวตฺติํ กงฺขติฯ ภวิสฺสามิ นุ โข, น นุ โขติ เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว อนาคเต อตฺตโน วิชฺชมานาวิชฺชมานตํ กงฺขติฯ ‘‘กิํ นุ โข ภวิสฺสามี’’ติอาทิ วุตฺตนยเมวฯ อหํ นุ โขสฺมิ, น นุ โขสฺมีติ อิทานิ อตฺตโน อตฺถิภาวํ, นตฺถิภาวญฺจ กงฺขติฯ ตตฺถ การณํ วุตฺตเมวฯ กิํ นุ โขสฺมีติ ขตฺติยาทิโกว สมาโน อตฺตโน ขตฺติยาทิภาวํ กงฺขติฯ เอเสว นโย เสเสสุปิฯ กถํ นุ โขสฺมีติ ‘‘อพฺภนฺตเร ชีโว นาม อตฺถี’’ติ คเหตฺวา ตสฺส ทีฆาทิภาวํ กงฺขติฯ ปจฺจุปฺปนฺนํ ปน อตฺตโน สรีรสณฺฐานํ อชานนฺโต นาม นตฺถิฯ กุโต อาคโต, กุหิํ คามี ภวิสฺสตีติ อตฺตภาวสฺส อาคตคตฏฺฐานานิ กงฺขตีติ เวทิตพฺพํฯ

สีลญฺจ วตญฺจ สีลพฺพตํ, ตตฺถ โคสีลาทิอสุทฺธิมคฺโค สมาทานวเสน สีลํ, อวีติกฺกมวเสน วตํฯ อุภยถาปิ วา สีลํ, ตโปกมฺมภาเวน คหิตตฺตา วตํฯ ควาทิปกติภาวโต อตฺตโน วา ควาทิภาวาธิฏฺฐานํ สีลํ, ‘‘คจฺฉนฺโต ภกฺเขติ, ติฏฺฐนฺโต มุตฺเตตี’’ติอาทินา ควาทิกิริยาย กรณํ วตํฯ ตํตํอกิจฺจสมฺมสโต วา นิวตฺติ สีลํ, ตํสมาทานวโต เวสโภชนกิจฺจจรณาทิวิเสสปฏิปตฺติ วตํฯ สภาวํ อติกฺกมฺม ปรโต อามสนํ คหณนฺติ ปรามาโส, สีลพฺพตสฺส ปรามาโส สีลพฺพตปรามาโสฯ อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธิ, สีลพฺพเตน สุทฺธีติ เอวํ อสุทฺธิมคฺเค ‘‘สุทฺธิมคฺโค’’ติ ปวตฺตสฺส มิจฺฉาภินิเวสสฺเสตํ อธิวจนํฯ สกฺกายทิฏฺฐิ จ วิจิกิจฺฉา จ สีลพฺพตปรามาโส จาติ สกฺกาย…เป.… ปรามาโส, เตเยว กมฺมวิปาเกสุ, วฏฺฏสฺมิํ วา สตฺเต สํโยเชนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนานิ, เตสํ ทิฏฺฐิวิสุทฺธิอาทีหิ ตทงฺควเสน ปหีนานํ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน อจฺจนฺตสมุจฺเฉทปฺปหานํ กโรตีติ สกฺกา…เป.…ปฺปหานกรํ

นิพฺพานํ ปติ สวนโต สนฺทนโต โสโต วุจฺจติ อริโย อฏฺฐงฺคิกมคฺโค, ตสฺส อาทิโต ปชฺชนํ โสตาปตฺติ, นิพฺพานํ มคฺคติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคียติ, กิเลเส มาเรนฺโต คจฺฉตีติ วา มคฺโค, โสตาปตฺติ เอว มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโคฯ อถ วา โสตํ อาทิโต ปชฺชติ อธิคจฺฉตีติ โสตาปตฺติ, ปฐโม อริยปุคฺคโล, ตสฺส มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค, สมฺมาทิฏฺฐิอาทีนิ อฏฺฐงฺคานิ, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ

รชฺชติ อภิสชฺชตีติ ราโค, โส อิธ ปญฺจกามวิสยา, กามภววิสยา จ ตณฺหาฯ

ทุสฺสตีติ โทโส, ทสวิธอาฆาตวตฺถุปทฏฺฐาโน พฺยาปาโทฯ มุยฺหตีติ โมโห, ทุกฺขาทีสุ อฏฺฐสุ อญฺญาณํฯ เอเตสํ กิเลสานํ ตนุตฺตํ ตนุภาวํ กโรตีติ ราค…เป.… ตนุตฺตกรํฯ ตตฺถ ทฺวีหิ การเณหิ ตนุตฺตํ อภิณฺหานุปฺปตฺติโต, ปริยุฏฺฐานมนฺทตาย จาติฯ สกทาคามิสฺส หิ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺส วิย กิเลสา อภิณฺหํ น อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ วิรฬาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ, ตถา อุปฺปชฺชนฺตาปิ มทฺทนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา นุปฺปชฺชนฺติฯ ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา มนฺทมนฺทา ตนุกตนุกา อุปฺปชฺชนฺติฯ เกจิ ปน สกทาคามิสฺส กิเลสา จิเรน อุปฺปชฺชนฺตาปิ พหลาว อุปฺปชฺชนฺติฯ ตถา หิสฺส ปุตฺตธีตโร ทิสฺสนฺตีติ วทนฺติฯ ตํ อการณํ, วตฺถุปฏิเสวเนน วินาปิ คพฺภคฺคหณสพฺภาวโต, ตสฺมา วุตฺตนเยเนว ทฺวีหิ การเณหิ เนสํ ตนุภาโว เวทิตพฺโพฯ กสฺมา ปเนตฺถ โมหสฺส ตนุภาโว วุตฺโต, นนุ ตติยมคฺควชฺฌานเมว อิมินา ตนุตฺตกรณํ วตฺตพฺพํ, อิตรถา เหฏฺฐา ตีหิปิ มคฺเคหิ อุปริมคฺควชฺฌกิเลสานํ พหลาพหลาวตฺถาย ปหียมานตฺตา อิธ สพฺเพสเมว อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ ตนุภาโว วตฺตพฺโพ, เตเนว จ ปาฬิยมฺปิ ‘‘กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาย ทุติยาย ภูมิยา ปตฺติยา’’ติ วุตฺตนฺติฯ สจฺจเมตํ, สุตฺเต ปน อุปริมคฺควชฺฌานํ ตนุภาวปริยายํ คเหตฺวา ‘‘ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหตี’’ติ เหตุตฺตยตนุภาวสฺส อาคตตฺตา อิธาปิ ตทนุโลเมน วุตฺตํฯ ‘‘กามราคพฺยาปาทาน’’มิจฺเจว วา ปาโฐฯ ตถา หิ เอตฺเถว อุปริ ทุติยมคฺคญาณนิทฺเทเส ‘‘พฺยาปาทกามราคานํ, ตนุภาวํ ตุ สาธย’’นฺติ (อภิธ. 1353) วุตฺตํฯ ปฏิสนฺธิวเสน สกิเทว อิมํ มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโคฯ

กิญฺจาปิ หิ มคฺคฏฺฐสฺส ปฏิสนฺธิวเสน อาคมนาสมฺภวโต ผลฏฺโฐเยว สกทาคามี นาม โหติ, ตสฺส ปน อาคมนภูโต มคฺโค มคฺคนฺตราวจฺเฉทนตฺถํ ตทายตฺตภาวูปนยเนน สกทาคามิมคฺโคติ วุจฺจติ, ตํสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ สกทาคามิมคฺคจิตฺตํ

ปญฺจสุ กามคุเณสุ, กามภเว จ ราโค กามราโคฯ พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตนฺติ พฺยาปาโทฯ ปฏิสนฺธิวเสน อิมํ กามธาตุํ น อาคจฺฉตีติ อนาคามีฯ รูปภเว ฉนฺทราโค รูปราโคฯ อรูปภเว ฉนฺทราโค อรูปราโคฯ มาโน อิธ อรหตฺตาธิคมํ ปฏิจฺจ อุณฺณติมตฺตํฯ อุทฺธจฺจมฺปิ ‘‘โก เม ภาโร กิเลสสมุจฺเฉทเน’’ติ เอวมาการปฺปวตฺตํ จิตฺตสฺส อวูปสมมตฺตํฯ อวิชฺชาปิ อสุเข สุขสญฺญาวิปลฺลาโสฯ อารกตฺตา กิเลเสหิ, มิจฺฉาปฏิปนฺเนหิ วา, ราคาทิอรีนํ, สํสารจกฺกสฺส อรานญฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, รโหปิ ปาปากรเณน ปาปกรเณ รหสฺส อภาวา, รหิตพฺพโต ชหิตพฺพโต ‘‘รหา’’ติ ลทฺธนามานํ วา ปาปธมฺมานํ อภาวโต, สาธูหิ อรหิตพฺพโต อปริจฺจชิตพฺพโต, รหสงฺขาตสฺส วา คมนสฺส สํสาเร อภาวโต อรหา, อฏฺฐโม อริยปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว อรหตฺตํ, อคฺคผลสฺเสตํ อธิวจนํฯ ตญฺหิ ‘‘อรหา’’ติ อภิธานสฺส, พุทฺธิยา จ ปวตฺตินิพนฺธนตฺตา อรหโต ภาโวติ กตฺวา ‘‘อรหตฺต’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺส อาคมนภูโต มคฺโค อรหตฺตมคฺโค, ตํสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อรหตฺตมคฺคจิตฺตํ

ฌานงฺคโยคเภทโตติ รูปาวจรํ วิย ปญฺจหิ ฌานงฺเคหิ สมฺปโยคเภทโตฯ กถํ ปนสฺส เภโทติ? เอตฺถ ตาว อฏฺฐกถาวาโท, ตโย จ เถรวาทาติ จตฺตาโร วาทา โหนฺติฯ ตถา หิ อฏฺฐกถายํ ตาว ‘‘สงฺขารุเปกฺขาภาวํ ปตฺวา วุฏฺฐานคามินิวิปสฺสนามคฺคสฺส ฌานงฺคํ นิยเมตี’’ติ วุตฺตํฯ

ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร ปน ‘‘มคฺคาสนฺนวิปสฺสนาย ปทฏฺฐานภูตํ ปาทกชฺฌานํ นิยเมตี’’ติ อาหฯ โมรวาปิวาสิมหาทตฺตตฺเถโร ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺติฯ ยญฺหิ ฌานํ สมฺมสิตฺวา วุฏฺฐาติ, ตํสทิโสว โหตี’’ติ อาหฯ ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร ปน ‘‘ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมติ, ‘อโห วต ปญฺจงฺคิกํ, จตุรงฺคิกํ วา มคฺคํ ปาปุเณยฺย’นฺติอาทินา ยถา ยถาสฺส อชฺฌาสโย โหติ, ตถา ตถา มคฺโค โหตี’’ติ อาหฯ

ยสฺมา ปน อฏฺฐกถาวาโท ปมาณํ, ตโย จ เถรา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา, ตสฺมา จตฺตาโรปิ วาทา อญฺญมญฺญํ อปฺปฏิพาหนวเสน เอวํ เวทิตพฺพาฯ กถํ? กามาวจรธมฺเม ตาว สมฺมสิตฺวา สุกฺขวิปสฺสกสฺส อุปฺปนฺนมคฺโคปิ สมาปตฺติลาภิโน ฌานํ ปาทกํ อกตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโคปิ วิปสฺสนานิยาเมน ปฐมชฺฌานิกาว โหนฺติฯ สเจ ปน กิญฺจิ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปาทิโต โหติ, ตสฺส วเสน องฺคปริณาโม โหตีติ ตํตํฌานสทิโส โหติฯ ยสฺมา ปเนตฺถ กามาวจรกฺขนฺเธ อารพฺภ ปวตฺตา วิปสฺสนา กามาวจรธมฺเมสุ จ มหคฺคตธมฺเมสุ วิย ภาวนาวิเสสโต ฌานงฺควิเสโส นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตี’’ติ เอวํ ปวตฺโต ทุติยตฺเถรวาโท อิมํ วาทํ น ปวิสติฯ ฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค สเจ ปาทกชฺฌานํ นตฺถิ, สมฺมสิตชฺฌานนิยาเมน ตํตํฌานิโก โหติฯ สเจ ปฐมชฺฌานโต วุฏฺฐาย ทุติยาทิฌาเน สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิโต, ปุคฺคลชฺฌาสยนิยาเมน ทฺวีสุ อญฺญตรชฺฌานสทิโส โหติฯ

สเจ ปน ปุคฺคลสฺส ตถาวิโธ อชฺฌาสโย นตฺถิ, ตทา กถนฺติ? เอตฺถ ตาว เกจิ ‘‘นานาวชฺชนวีถิยเมว นิวตฺตมานปาทกชฺฌานโต เอกาวชฺชนวีถิยํ โคตฺรภุภาวํ ปตฺวา นิวตฺตมานาย วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธาเยว พลวนฺโต, ตสฺมา สมฺมสิตกฺขนฺธนิยาเมน ตํสทิโส มคฺโค โหตี’’ติ วทนฺติฯ เอวญฺจ สติ ‘‘ปาทกชฺฌานนิยาเมน โหตี’’ติ เอวํ ปวตฺโต ปฐมตฺเถรวาโท ปาทกชฺฌานโต วุฏฺฐาย กามาวจรกฺขนฺเธ สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺคเมว สนฺธาย ติฏฺฐตีติฯ

อปเร ปน ‘‘ปาทกชฺฌานํ มคฺคสฺส มูลการณวเสน ปจฺจโย โหติ อาสนฺนการณวเสนปิ, สมฺมสิตกฺขนฺธา ปน มูลการณวเสเนว ปจฺจยา โหนฺติ, ตสฺมา สมฺมสิตกฺขนฺธโต ปาทกชฺฌานเมว พลวตรนฺติ ปาทกชฺฌานสทิโส มคฺโค โหตี’’ติ วทนฺติฯ เอวํ สนฺเต ปน ‘‘สมฺมสิตกฺขนฺธนิยาเมนา’’ติ เอวํ ปวตฺโต ทุติยตฺเถรวาโท สมาปตฺติํ ปาทกํ อกตฺวา เกวลํ ฌานธมฺเมเยว สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺคเมว สนฺธาย ติฏฺฐติฯ ยสฺมา ปน เหฏฺฐิมเหฏฺฐิมชฺฌานโต อุปรูปริฌานํ พลปฺปตฺตํ โหติ, ตสฺมา เหฏฺฐิมเหฏฺฐิมชฺฌานโต วุฏฺฐาย อุปรูปริฌานธมฺเม วิปสฺสโต อุปฺปนฺนมคฺโค ปาทกชฺฌานํ อนเปกฺขิตฺวา สมฺมสิตชฺฌานวเสน ตํตํฌานิโก โหติฯ อุปรูปริฌานโต ปน วุฏฺฐาย เหฏฺฐิมเหฏฺฐิมชฺฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค สมฺมสิตชฺฌานํ อนเปกฺขิตฺวา ปาทกชฺฌานสทิโส โหตีติ อิทเมตฺถ สารตรํฯ เอวญฺหิ สติ ทฺวินฺนมฺปิ เถรานํ วาทา นิปฺปเทสวิสยา สมผลา โหนฺติฯ

ตติยตฺเถรวาโท เจตฺถ ปาทกชฺฌานํ, สมฺมสิตชฺฌานํ วา วินา อชฺฌาสยมตฺเตเนว น อิชฺฌติฯ ตีสุปิ วาเทสุ ฐเปตฺวา เสสฌานงฺคปริณามํ เวทนาปริณาโม วิปสฺสนานิยาเมเนว โหติฯ ตโยปิ เถรวาทา วิปสฺสนานิยาเมน วินา น โหนฺตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ

นนุ จ เวทนาปิ ฌานงฺคเมว, ตสฺมา ตายปิ ปาทกชฺฌานนิยาเมเนว ภวิตพฺพนฺติ? ตํ น, เวทนายปิ ปาทกชฺฌานนิยาเมน ปริณาเม สติ วิปสฺสนานิยามํ อนเปกฺขิตฺวา ปาทกชฺฌานนิยาเมเนว มคฺคกฺขเณ เสสฌานงฺคานิ ปริณามฏฺฐาเนเยว เวทนายปิ ปริณาโม ภเวยฺย, ตถา ปน อหุตฺวา เอกาวชฺชนวีถิยา อาทิโตว ปริณามนโต มคฺควุฏฺฐานวีถิยา อาสนฺนตรปฺปวตฺตาย วิปสฺสนาย วเสน เวทนานิยาโม โหติฯ

อถ วา ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานานํ สมฺภเว เตสุ อนุปฺปนฺนา เวทนา วิปสฺสนาย น โหตีติ ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานนิยาเมน ปริณมตีติปิ น สกฺกา วตฺตุํฯ เอตฺถ สิยา – ยตฺถ ตาว ปาทกชฺฌานํ อตฺถิ, ตตฺถ ตํ นิยเมติฯ ยตฺถ ปน ติกจตุกฺกปาทกชฺฌานํ นตฺถิ, ตสฺมิํ อรูปภเว กิํ นิยเมตีติ? ตตฺถาปิ ปาทกชฺฌานเมว นิยเมติฯ โย หิ ภิกฺขุ อฏฺฐสมาปตฺติลาภี ปฐมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา โสตาปตฺติมคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา อรูปภเว นิพฺพตฺโต ปฐมชฺฌานิกาย โสตาปตฺติผลสมาปตฺติยา วุฏฺฐาย วิปสฺสนํ ปฏฺฐเปตฺวา อุปริ ตีณิ มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตติ, ตสฺส ตานิ ปฐมชฺฌานิกาเนว โหนฺติฯ ทุติยชฺฌานิกาทีสุปิ เอเสว นโยฯ อรูเปปิ หิ โลกุตฺตรํ ติกจตุกฺกชฺฌานํ อุปฺปชฺชตีติ เอวเมตฺถ เอเกกสฺส โลกุตฺตรกุสลสฺส ฌานงฺคโยคเภโท เวทิตพฺโพติฯ

มคฺคา…เป.… นิปฺผาเทตีติ เตภูมกกุสลํ วิย ปฏิสนฺธิปฺปวตฺตีสุ อวิปจฺจวนฺตมฺปิ อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปสฺส ผลสฺส นิปฺผาทเนน ตํตํผลปฺปตฺเต โสตาปนฺโน สกทาคามี อนาคามี อรหาติ สามญฺญโต จตฺตาโร อริยปุคฺคเล อภินิปฺผาเทตีติฯ วิเสสโต ปน สตฺตกฺขตฺตุปรมตาทิเก อเนเกปิ โสตาปนฺนาทโย นิปฺผาเทติฯ

โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

จตุภูมกกุสลวณฺณนา

[28] เอวํ จตุภูมกกุสลจิตฺตํ สรูปโต นิทฺทิสิตฺวา อิทานิ ตํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘กาเม อฏฺเฐวา’’ติอาทิฯ ตตฺถ กาเมติ กามภเวฯ ตถา ‘‘รูเป’’ติอาทีสุฯ

[29] กุสลากุสลาปคเตนาติ กุสลากุสลกมฺมโต อปคเตนฯ อคฺคมคฺคสฺส หิ อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺฐาย อรหโต สพฺพานิ กุสลากุสลกมฺมานิ ปหีนานิ นาม โหนฺติ ปจฺจยเวกลฺเลน ปฏิสนฺธิทาเน อสมตฺถภาวโตฯ ยโต จ อริยมคฺคญาณํ ‘‘กมฺมกฺขยกร’’นฺติ วุจฺจติฯ อถ วา อเหตุอปจฺจยวิสุชฺฌนสฺส อภาวโต กิเลสสมุจฺเฉทเกน มคฺคกุสเลน อกุสเลหิ อปคเตนฯ กุสเล กุสเลนาติ กุจฺฉิตานํ สลนาทีหิ กุสลสงฺขาตาย ปฏิปตฺติยํ เทสนุปฺปาทนาทีสุ เฉเกนฯ มุนินาติ อุภยโลกมุนนเกน อคฺคผลญาเณน, สพฺพญฺญุตญฺญาเณน วา สมนฺนาคตตฺตา มุนินาฯ เตนาห –

‘‘โย มุนาติ อุโภ โลเก, มุนิ เตน ปวุจฺจตี’’ติฯ

วสินาติ ฉฬภิญฺญตาย ปรเมน จิตฺตวสิภาเวน สมนฺนาคตตฺตา, ฌานาทีสุ ปญฺจวิธวสิสพฺภาวโต จ วสิภูเตน วสิภาวูปคตินฺทฺริเยนฯ

จตุภูมกกุสลวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ