[289-296] อาคตานาคตนฺติ ปญฺหวเสน วุตฺตํ, ลพฺภมานาลพฺภมานนฺติ อาคเต จ ปญฺเห ลพฺภมานาลพฺภมานธมฺมวเสนฯ
ปจฺจยวารวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
4. นิสฺสยวารวณฺณนา
[329-337] ปจฺจยวาเรน นิสฺสยปจฺจยภาวนฺติ นิสฺสยวาเร วุตฺตสฺส นิสฺสยปจฺจยภาวํ นิยเมตุนฺติ อตฺโถฯ
นิสฺสยวารวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
5. สํสฏฺฐวารวณฺณนา
[351-368] สํสฏฺฐวาเร ปจฺจนีเย ‘‘นวิปฺปยุตฺเต ปฏิสนฺธิ นตฺถี’’ติ อิทํ วตฺถุวิรหิตาย ปฏิสนฺธิยา วิสุํ อนุทฺธรณโต วุตฺตํฯ ปฏิจฺจวาราทีสุ หิ สหชาตสฺส ปจฺจยภาวทสฺสนตฺถํ สวตฺถุกา ปฏิสนฺธิ อุทฺธฏา, สา อิธาปิ อธิปติปุเรชาตาเสวเนสุ นกมฺมนวิปากนฌานนวิปฺปยุตฺเตสุ น ลพฺภติ, อญฺเญสุ จ อนุโลมโต ปจฺจนียโต จ ลพฺภมานปจฺจเยสุ ลพฺภตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ อุทฺธฏาติฯ เสสา เตรส น ลพฺภนฺตีติ เอตฺถ ‘‘เสสา จุทฺทสา’’ติ ภวิตพฺพํฯ น ฌาเน เอกนฺติ อเหตุกปญฺจวิญฺญาณวเสนาติ ปญฺจวิญฺญาณานํ เหตุปจฺจยวิรหิตมตฺตทสฺสนตฺถํ อเหตุกคฺคหณํ กตนฺติ ทฏฺฐพฺพํ, ‘‘นมคฺเค เอกนฺติ อเหตุกกิริยวเสนา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อเหตุกวิปากกิริยวเสนา’’ติ ภวิตพฺพํฯ
[369-391] เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนวาติ ปฏิจฺจวาเร อนุโลมปจฺจนีเย วุตฺตนเยนฯ ‘‘นเหตุปจฺจยุปฺปนฺเนสุ อเหตุกโมโหว ฌานมคฺคปจฺจยํ ลภติ, เสสา น ลภนฺตี’’ติ วุตฺตํ, เสเสสุ ปน ปญฺจวิญฺญาณวชฺชาเหตุกกฺขนฺธา ตํสมุฏฺฐานา ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมา ฌานปจฺจยํ ลภนฺติ, น ปจฺจนียานุโลเม ทฺวินฺนํ ปจฺจยานํ อนุโลเมน สห โยชนา อตฺถีติ ฌานมคฺคปจฺจยํ สหิตํ ลภตีติ จ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ‘‘อเหตุกโมโหว มคฺคปจฺจยํ ลภตี’’ติ วตฺตพฺพํฯ
สํสฏฺฐวารวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ