[203-233] นกมฺมมูลเก เหตุยา ตีณีติอาทีสุ เจตนาว ปจฺจยุปฺปนฺนาติ อิทํ ‘‘เหตุยา ตีณี’’ติ เอวํปกาเร เจตนามตฺตสงฺคาหเก สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ อาทิ-สทฺโท หิ ปการตฺโถว โหตีติฯ สหชาตอญฺญมญฺญนิสฺสยาหารอตฺถิอวิคเตสุ ปน รูปมฺปิ ลพฺภตีติฯ
ปจฺจยปจฺจนียานุโลมวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
ปฏิจฺจวารวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
2. สหชาตวารวณฺณนา
[234-242] กุสลํ ธมฺมํ สหชาโต, กุสลํ เอกํ ขนฺธํ สหชาโตติอาทีสุ สหชาตสทฺเทน สหชาตปจฺจยกรณํ สหชาตายตฺตภาวคมนํ วา วุตฺตนฺติ ตสฺส กรณสฺส คมนสฺส วา กุสลาทีนํ กมฺมภาวโต อุปโยควจนํ กตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ เอส นโย ปจฺจยวาราทีสุปิฯ ตตฺราปิ หิ ปจฺจยสทฺเทน จ นิสฺสยปจฺจยกรณํ นิสฺสยายตฺตภาวคมนํ วา วุตฺตํ, สํสฏฺฐสทฺเทน จ สมฺปยุตฺตปจฺจยกรณํ สมฺปยุตฺตายตฺตภาวคมนํ วาติ ตํกมฺมภาวโต อุปโยควจนํ กุสลาทีสุ กตนฺติฯ สหชาตมฺปิ จ อุปาทารูปํ ภูตรูปสฺส ปจฺจโย น โหตีติ ‘‘ปฏิจฺจา’’ติ อิมินา วจเนน ทีปิโต ปจฺจโย น โหตีติ อตฺโถฯ ‘‘อุปาทารูปํ ภูตรูปสฺสา’’ติ จ นิทสฺสนวเสน วุตฺตํฯ อุปาทารูปสฺสปิ หิ อุปาทารูปํ ยถาวุตฺโต ปจฺจโย น โหติ, วตฺถุวชฺชานิ รูปานิ จ อรูปานนฺติฯ
สหชาตวารวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
3. ปจฺจยวารวณฺณนา
[243] ปจฺจยาติ เอตฺถ ปติ อโย ปจฺจโยฯ ปติ-สทฺโท ปติฏฺฐตฺถํ ทีเปติ, อย-สทฺโท คติํ, ปติฏฺฐาภูตา คติ นิสฺสโย ปจฺจโยติ วุตฺตํ โหติ, ตโต ปจฺจยา, ปจฺจยกรณโต ตทายตฺตภาวคมนโต วาติ อตฺโถฯ