อิมสฺมิํ ปฏฺฐานมหาปกรเณ อาคตนเยนาติ อิทํ ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อพฺยากโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น อุปนิสฺสยปจฺจยา, กุสเล ขนฺเธ ปฏิจฺจ จิตฺตสมุฏฺฐานํ รูป’’นฺติ (ปฏฺฐา. 1.1.91) เอวมาทิกํ อุปนิสฺสยปฏิกฺเขปํ, อนุโลเม จ อนาคมนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ สุตฺตนฺติกปริยาเยนาติ ‘‘วิญฺญาณูปนิสํ นามรูปํ, นามรูปนิสํ สฬายตน’’นฺติอาทิเกน (สํ. นิ. 2.23),
‘‘ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อรญฺญสฺมิํ พฺรหาวเน;
ตํ รุกฺขา อุปนิสฺสาย, วฑฺฒนฺเต เต วนปฺปตี’’ติ (อ. นิ. 3.49)ฯ –
อาทิเกน จฯ
อุปนิสฺสยปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
10. ปุเรชาตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา
[10] นยทสฺสนวเสน ยานิ วินา อารมฺมณปุเรชาเตน น วตฺตนฺติ, เตสํ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ อารมฺมณปุเรชาตทสฺสเนน มโนทฺวาเรปิ ยํ ยทารมฺมณปุเรชาเตน วตฺตติ, ตสฺส ตทาลมฺพิตํ สพฺพมฺปิ รูปรูปํ อารมฺมณปุเรชาตนฺติ ทสฺสิตเมว โหติ, สรูเปน ปน อทสฺสิตตฺตา ‘‘สาวเสสวเสน เทสนา กตา’’ติ อาหฯ จิตฺตวเสน กายํ ปริณามยโต อิทฺธิวิธาภิญฺญาย จ อฏฺฐารสสุ ยํกิญฺจิ อารมฺมณปุเรชาตํ โหตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ
ตทารมฺมณภาวิโนติ เอตฺถ ปฏิสนฺธิภาวิโน วตฺถุปุเรชาตาภาเวน อิตรสฺสปิ อภาวา อคฺคหณํฯ ภวงฺคภาวิโน ปน คหณํ กาตพฺพํ น วา กาตพฺพํ ปฏิสนฺธิยา วิย อปริพฺยตฺตสฺส อารมฺมณสฺส อารมฺมณมตฺตภาวโต, ‘‘มโนธาตูนญฺจา’’ติ เอตฺถ สนฺตีรณภาวิโน มโนวิญฺญาณธาตุยาปิฯ
ปุเรชาตปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ