เมนู

2. อารมฺมณปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

[2] อุปฺปชฺชนกฺขเณเยวาติ เอเตน วตฺตมานกฺขเณกเทเสน สพฺพํ วตฺตมานกฺขณํ คยฺหตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ น หิ อุปฺปชฺชนกฺขเณเยว จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ รูปาทีนิ อารมฺมณปจฺจโย, อถ โข สพฺพสฺมิํ วตฺตมานกฺขเณติฯ เตน อาลมฺพิยมานานมฺปิ รูปาทีนํ จกฺขุวิญฺญาณาทิวตฺตมานตาย ปุเร ปจฺฉา จ วิชฺชมานานํ อารมฺมณปจฺจยตฺตาภาวํ ทสฺเสติ, โก ปน วาโท อนาลมฺพิยมานานํฯ น เอกโต โหนฺตีติ นีลาทีนิ สพฺพรูปานิ สห น โหนฺติ, ตถา สทฺทาทโยปีติ อตฺโถฯ ‘‘ยํ ย’’นฺติ หิ วจนํ รูปาทีนิ ภินฺทตีติฯ ตตฺถ ปุริเมนตฺเถน ‘‘อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วจเนน อารมฺมณปจฺจยภาวลกฺขณทีปนตฺถํ ‘‘ยํ ยํ ธมฺม’’นฺติอาทิ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ, ปจฺฉิเมน ‘‘ยํ ย’’นฺติ วจเนน รูปาทิเภททีปนตฺถนฺติฯ ‘‘ยํ ยํ วา ปนารพฺภา’’ติ เอตสฺส วณฺณนายํ ทสฺสิตสพฺพารมฺมณาทิวเสน วา อิธาปิ อตฺโถ คเหตพฺโพติฯ

เอวํ วุตฺตนฺติ ยถา นทีปพฺพตานํ สนฺทนํ ฐานญฺจ ปวตฺตํ อวิรตํ อวิจฺฉินฺนนฺติ สนฺทนฺติ ติฏฺฐนฺตีติ วตฺตมานวจนํ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘เย เย ธมฺมา’’ติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สพฺพสงฺคหสมุทายวเสน คหิตตฺตา เตสํ อุปฺปชฺชนํ ปวตฺตนํ อวิรตนฺติ อุปฺปชฺชนฺตีติ วตฺตมานวจนํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ อิเม ปน น เหตาทิปจฺจยา สพฺเพปิ อตีตานาคตานํ โหนฺติฯ น หิ อตีโต จ อนาคโต จ อตฺถิ, ยสฺเสเต ปจฺจยา สิยุํฯ เอวญฺจ กตฺวา อตีตตฺติเก อตีตานาคตานํ น โกจิ ปจฺจโย วุตฺโต, ตสฺมา อิธาปิ ‘‘อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ วจเนน เยสํ รูปาทโย อารมฺมณธมฺมา อารมฺมณปจฺจยา โหนฺติ, เต ปจฺจุปฺปนฺนาว ทสฺสิตาติ ทฏฺฐพฺพาฯ เตสุ หิ ทสฺสิเตสุ อตีตานาคเตสุ ตํตํปจฺจยา อเหสุํ ภวิสฺสนฺติ จาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ, น ปน ตํตํปจฺจยวนฺตตาฯ ปจฺจยวนฺโต หิ ปจฺจุปฺปนฺนาเยวาติฯ

เอตฺถ ‘‘ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภา’’ติ เอกวจนนิทฺเทสํ กตฺวา ปุน ‘‘เต เต ธมฺมา’’ติ พหุวจนนิทฺเทโส ‘‘ยํ ย’’นฺติ วุตฺตสฺส อารมฺมณธมฺมสฺส อเนกภาโวปิ อตฺถีติ ทสฺสนตฺโถฯ

จตฺตาโร หิ ขนฺธา สเหว อารมฺมณปจฺจยา โหนฺติ, เต สพฺเพปิ อารพฺภ อุปฺปชฺชมานมฺปิ เตสุ เอเกกํ อารพฺภ อุปฺปชฺชมานํ น น โหติ, ตสฺมา เวทนาทีสุ ผสฺสาทีสุ จ เอเกกสฺสปิ อารมฺมณปจฺจยภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํ ย’’นฺติ วุตฺตํ, สพฺเพสํ เอกจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนานํ อารมฺมณปจฺจยภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘เต เต’’ติฯ ตตฺถ โย จ รูปาทิโก เอเกโกว ยํยํ-สทฺเทน วุตฺโต, เย จ อเนเก ผสฺสาทโย เอเกกวเสน ยํยํ-สทฺเทน วุตฺตา, เต สพฺเพ คเหตฺวา ‘‘เต เต’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ อถ วา ยสฺมิํ กาเล อารพฺภ อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมิํ กาเล นีลาทีสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ จ เอเกกเมว อารพฺภ อุปฺปชฺชนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํ ย’’นฺติ วุตฺตํ, เต ปน อาลมฺพิยมานา รูปารมฺมณธมฺมา จ อเนเก, ตถา สทฺทาทิอารมฺมณธมฺมา จาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘เต เต’’ติฯ

นิพฺพานารมฺมณํ กามาวจรรูปาวจรกุสลสฺส อปริยาปนฺนโต กุสลวิปากสฺส กามาวจรรูปาวจรกิริยสฺส จาติ อิเมสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหตีติ อิทํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาเณน ขนฺธปฏิพทฺธานุสฺสรณกาเล นิพฺพานมฺปิ รูปาวจรกุสลกิริยานํ อารมฺมณํ โหตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตํฯ เอวํ สติ ยถา ‘‘อปฺปมาณา ขนฺธา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺฐา. 2.12.58) วุตฺตํ, เอวํ ‘‘นิพฺพาน’’นฺติ จ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ ตํ วุตฺตํฯ น หิ นิพฺพานํ ปุพฺเพ นิวุฏฺฐํ อสงฺขตตฺตา, น จ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาเณน ปุพฺเพ นิวุฏฺเฐสุ อปฺปมาณกฺขนฺเธสุ ญาเตสุ นิพฺพานชานเน น เตน ปโยชนํ อตฺถิฯ ยถา หิ เจโตปริยญาณํ จิตฺตํ วิภาเวนฺตเมว จิตฺตารมฺมณชานนสฺส กามาวจรสฺส ปจฺจโย โหติ, เอวมิทมฺปิ อปฺปมาณกฺขนฺเธ วิภาเวนฺตเมว ตทารมฺมณชานนสฺส กามาวจรสฺส ปจฺจโย โหตีติฯ ทิฏฺฐนิพฺพาโนเยว จ ปุพฺเพ นิวุฏฺเฐ อปฺปมาณกฺขนฺเธ อนุสฺสรติ, เตน ยถาทิฏฺฐเมว นิพฺพานํ เตสํ ขนฺธานํ อารมฺมณนฺติ ทฏฺฐพฺพํ, น ปน ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติญาเณน ตทารมฺมณวิภาวนํ กาตพฺพํฯ วิภูตเมว หิ ตํ ตสฺสาติฯ เอวํ อนาคตํสญาเณปิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ, ตสฺมา นิพฺพานํ น กสฺสจิ รูปาวจรสฺส อารมฺมณนฺติ ‘‘จตุนฺนํ ราสีน’’นฺติ วตฺตุํ ยุตฺตํฯ

อารมฺมณปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. อธิปติปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

[3] ธุรนฺติ ธุรคฺคาหํฯ เชฏฺฐกนฺติ เสฏฺฐํฯ ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกานนฺติ เอตฺถ ปุริมฉนฺทสฺส สมานรูเปน ตทนนฺตรํ นิทฺทิฏฺเฐน ตํสมฺพนฺเธน ฉนฺทสทฺเทเนว ปจฺจยภูตสฺส ฉนฺทสฺส สมฺปยุตฺตกวิเสสนภาโว ทสฺสิโต โหตีติ ‘‘ฉนฺทาธิปติ สมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ เอส นโย อิตเรสุปิฯ

ครุการจิตฺตีการวเสน วาติ กุสลาพฺยากตานํ ปวตฺติํ ทสฺเสติฯ อลทฺธํ ลทฺธพฺพํ, ลทฺธํ อวิชหิตพฺพํฯ เยน วา วินา น ภวิตพฺพํ, ตํ ลทฺธพฺพํ, ตสฺเสวตฺโถ อวิชหิตพฺพนฺติฯ อนวญฺญาตนฺติ อวญฺญาตมฺปิ อโทสทสฺสิตาย อสฺสาทเนน อนวญฺญาตํ กตฺวาฯ

มิจฺฉตฺตนิยตา อปฺปนาสทิสา มหาพลา วินา อธิปตินา นุปฺปชฺชนฺตีติ ‘‘เอกนฺเตเนวา’’ติ อาหฯ กมฺมกิเลสาวรณภูตา จ เต สคฺคาวรณา จ มคฺคาวรณา จ ปจฺจกฺขสคฺคานํ กามาวจรเทวานมฺปิ อุปฺปชฺชิตุํ น อรหนฺติ, โก ปน วาโท รูปารูปีนนฺติฯ

กามาวจราทิเภทโต ปน ติวิโธ กิริยารมฺมณาธิปติ โลภสหคตากุสลสฺเสว อารมฺมณาธิปติปจฺจโย โหตีติ อิทํ ปรสนฺตานคตานํ สารมฺมณธมฺมานํ ‘‘อชฺฌตฺตารมฺมโณ ธมฺโม พหิทฺธารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอตสฺส อภาวโต ‘‘พหิทฺธารมฺมโณ ธมฺโม พหิทฺธารมฺมณสฺสา’’ติ เอตฺถ จ อารมฺมณาธิปติโน อนุทฺธฏตฺตา อธิปติปจฺจยตา นตฺถีติ วิญฺญายมาเนปิ ‘‘พหิทฺธา ขนฺเธ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทตี’’ติอาทิวจนํ (ปฏฺฐา. 2.20.31) นิสฺสาย อรหโต กิริยธมฺมา ปุถุชฺชนาทีหิ ครุํ กตฺวา อสฺสาทิยนฺตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ ‘‘สนิทสฺสนสปฺปฏิฆา ขนฺธา’’ติอาทีสุ (ปฏฺฐา. 2.22.30) วิย ขนฺธสทฺโท รูเป เอว ภวิตุํ อรหตีติ วิจาริตเมตํฯ ปุถุชฺชนาทิกาเล วา อนาคเต กิริยธมฺเม ครุํ กตฺวา อสฺสาทนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ